นายกฯ ประชุม ศบค. ผ่อนปรนระยะที่ 3 ยึดมาตรการป้องกันเข้มข้น

ทำเนียบฯ 29 พ.ค.-นายกฯ ประชุม ศบค. ผ่อนปรนระยะที่ 3 ปรับเวลาเวลาเคอร์ฟิว 23.00-03.00 น. ย้ำขอให้ยึดมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณคณะรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมมือกันทำงานอย่างดีที่สุดในการป้องกันและควบคุมโรค อาทิ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ก่อตั้งศูนย์การแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีของศูนย์รวมนวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 มีนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันและควบคุมโรค ได้แก่ รถตู้โมบายล์ swab test ระบบตรวจจับอุณหภูมิด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน ตู้เก็บเชื้อระบบความดันบวก ตู้เก็บเชื้อระบบความดันลบ เครื่องอบฆ่าเชื้อโรคระบบปิด เครื่องช่วยหายใจแบบพกพา เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและนำมาใช้งานได้ โครงการผลิตและพัฒนาขึ้นใช้เอง จะได้นำไปใช้งาน และพัฒนาต่อยอดต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณากำหนดมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 3 ขอให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ และเมื่อประกาศมาตรการผ่อนคลายแล้ว ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจวิธีคิด เหตุผลในการผ่อนคลายกิจการใด ๆ และมาตรการบริหารในพื้นที่ ตลอดจนตรวจติดตามและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด 


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเตรียมการเปิดสถานศึกษา และเปิดการเรียนการสอน ต้องพิจารณาความพร้อมในทุกด้าน บุคลากรครู และอุปกรณ์การเรียนการสอนให้พร้อม ส่วนระบบการเรียนออนไลน์ จะเป็นการใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสพัฒนาการเรียนออนไลน์สำหรับพื้นที่ห่างไกล จุดเปราะบาง ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างเมืองกับชนบท

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจถึงเจตนาของการขยาย พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่ารัฐบาลทำเพื่อให้การบริหารสถานการณ์ในภาพรวมของ ศบค.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเอกภาพ หากสถานการณ์ดีขึ้นในระยะ 4 อาจจะมีการพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีความจำเป็นต้องคง พ.ร.ก. ฉุกเฉินไว้ เพื่อดำเนินมาตรการต่ออย่างราบรื่น สามารถควบคุมสถานการณ์ต่อไปและดำเนินมาตรการรองรับในขั้นตอนต่อ ๆ ไปได้ เช่น การใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สถานการณ์ยังวางใจไม่ได้ ต้องเตรียมพร้อมอยู่เหมือนเดิม และยังคงต้องใช้มาตรการทางสังคมที่เห็นผลเป็นรูปธรรม ช่วยกันดูแล สอดส่อง และตักเตือน พร้อมได้สั่งการให้ดำเนินการเปรียบเทียบมาตรการกับประเทศอื่น ๆ ที่มีสถานการณ์คลี่คลายแล้วว่ามีการดำเนินการผ่อนคลายอย่างไร


ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อว่าจำนวนผู้ป่วยในไทยมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งผู้ป่วยขณะนี้มาจากต่างประเทศ ขณะที่การแพร่ระบาดในประเทศลดลง ส่วนสถานการณ์โลกยังคงน่าเป็นห่วงในหลายประเทศ เช่น บราซิล สหรัฐฯ รัสเซีย อินเดีย และชิลี

นพ.สุขุม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจพฤติกรรมการป้องกันของประชาชน พบว่าพฤติกรรมการป้องกันตนเองของประชาชนลดลง ยกเว้นการใส่หน้ากากที่ประชาชนยังให้ความสำคัญ ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดมากขึ้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีประชาชนเดินทางออกนอกจังหวัดถึงร้อยละ 26 และมีกิจกรรมในการพบปะรวมกลุ่มกันมากขึ้น ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีคนไทยร้อยละ 11 ไปร่วมกิจกรรมทางสังคม ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่จะยังคงเดินทางไปแค่สถานที่ซึ่งมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประชำวัน ได้แก่ ตลาดสด ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ทำงาน สถานพยาบาล ร้านอาหาร และร้านตัดผม และจากการสำรวจพบว่า การจัดมาตรการป้องกันของแต่ละสถานที่ยังทำได้ไม่ดี ควบคุมได้เพียงร้อยละ 57 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่นันทนาการ และศาสนสถาน ทำได้น้อยกว่าร้อยละ 50 และประชาชนเชื่อมั่นว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมการแพร่ระบาด แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ไม่มั่นใจการป้องกันการติดเชื้อด้วยตนเอง ส่วนความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีน ขณะนี้ไทยกำลังทดลองในสัตว์ คาดว่าผลของการทดสอบ 10 แบบ ใน 5 ประเทศ จะใช้เวลา 6-12 เดือน

พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รายงานการปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ว่า ภาพรวมการตรวจ และการดำเนินการของชุดตรวจ พบว่าจับกุมผู้กระทำความผิด ฝ่าฝืน ได้น้อยลง ประชาชน ร้านค้า ให้ความร่วมมืออย่างดี มีกิจกรรมมั่วสุมลดลง

นายเฉลิม พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานการปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนว่า ได้ดูแลผู้ถูกกักตัวใน State Quarantine ด้วยความเรียบร้อย สามารถรองรับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น และรายงานถึงกิจกรรมที่ยังไม่อนุญาตให้เปิดดำเนินการ จำนวน 47,164 แห่ง อนุญาตให้เปิดกิจการ/กิจกรรมได้ 291,394 แห่ง ทั้งนี้ จากการประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 มีผลปรากฏว่าประชาชนให้ความร่วมมือตามมาตรการป้องกันโรคเกินร้อยละ 90

น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รายงานภาพรวมการใช้งานแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ว่ามียอดสะสมร้านค้าใช้งาน 125,408 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 15,592,611 คน ตั้งแต่วันที่ 17-28 พฤษภาคม 2563 ส่วนผลการประเมินกิจการ/กิจกรรม ตามมาตรการ ผลคะแนนเกินร้อยละ 90 ในทุกประเภทธุรกิจ เช่น การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ธนาคาร คลินิกเสริมความงาม

จากนั้นที่ประชุมพิจารณาข้อเสนอมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 โดย พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาถึงมาตรการคัดกรองป้องกันเป็นหลัก โดยประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาดำเนินการ คือ มาตรการคัดกรองไข้ และอาการไอ หอบเหนื่อย จาม หรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานบริการ และผู้ใช้บริการ และรายงานหน่วยงานรับผิดชอบ กรณีพบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ตามแนวทางที่กำหนด / ทุกกิจการและกิจกรรมจัดให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้า-ออกสถานที่ และเพิ่มมาตรการใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูล และรายงานทดแทน และให้พิจารณาพัฒนานวัตกรรม เช่น การลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ ระบบการเรียน การสอน การจองคิวแบบออนไลน์ เพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ในระยะยาว นำไปสู่การป้องกันควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.ได้พิจารณากำหนดกิจกรรมที่ให้ผ่อนคลายในระยะที่ 3 ได้แก่ 1.กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต เช่น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ (เปิดถึง 21.00 น.) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม ไม่เกินรายละ 2 ชม. และไม่มีผู้นั่งรอในร้าน 2.กิจกรรมด้านการออกกำลังกายดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ เช่น คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และนวดแผนไทย สถานออกกำลังกาย ฟิตเนส โรงภาพยนตร์ สระน้ำ หรือกิจกรรมทางน้ำ

ในส่วนของมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่ยังคงไว้ ได้แก่ ยังคงมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ทั้งทางบก น้ำ อากาศ การปรับเวลาเคอร์ฟิว จากเดิม 23.00-04.00 น. เป็น 23.00-03.00 น. การให้เดินทางข้ามจังหวัดภายใต้มาตรการตามที่ราชการกำหนด และห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ให้เปิดดำเนินการ ไม่เกินเวลา 21.00 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]