เปิดไทม์ไลน์พฤติกรรมคดี “แม่ปุ๊ก” วางยาลูกหวังเงินบริจาค

กทม. 24 พ.ค. – สำนักข่าวไทยลำดับเหตุการณ์ในคดี “แม่ปุ๊ก” วางยาลูกหวังเงินบริจาค ซึ่งตำรวจกองปราบปรามแถลงว่า “น้องอมยิ้ม” และ “น้องอิ่มบุญ” ไม่ได้ป่วยเป็นโรคประหลาด “เรนินโนม่าห์” และไม่ได้เกิดขึ้นจากพันธุกรรม รวมถึงตำรวจได้หลักฐานเป็นสารเคมีต้องสงสัยที่กำลังพิสูจน์ทราบ เช่นเดียวกับยอดเงินบริจาคไม่ได้สอดคล้องกับค่ารักษาอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้จากข้อมูลทั้งหมดพบว่าเรื่องเกิดขึ้นมาจากผู้หญิง 2 คนที่รู้จักกันผ่านทางโซเชียล โดยคนหนึ่งไม่ต้องการเลี้ยงลูกแท้ๆ จึงได้ยกลูกให้คนอื่นไปเลี้ยง แต่เมื่อนำมาเลี้ยงแล้วกลับกลายเป็นว่าเสียชีวิตลง


ตำรวจกองปราบฯ แถลงยืนยันว่า “น้องอมยิ้ม” และ “น้องอิ่มบุญ” ไม่ได้เป็นโรคทางพันธุกรรมใดๆ ตามที่ “แม่ปุ๊ก” นำมาอ้างเพื่อขอรับบริจาคความช่วยเหลือจนได้เงินไป 20 ล้าน จากการตรวจสอบบัญชีทางการเงินไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล


จากการรวบรวมหลักฐานต่างๆ พบข้อมูลทางการแพทย์ ยืนยันว่าโรคประหลาดที่ “แม่ปุ๊ก” อ้างว่าลูกทั้งสองคนป่วยนั้นไม่เป็นความจริง เด็กไม่ได้ป่วยจากโรคพันธุกรรมตามที่ถูกกล่าวอ้าง อีกทั้งการเจ็บป่วยของเด็กซึ่งมีร่องรอยแผลไหม้ที่ปาก ชัดเจนว่าเป็นการรับสารพิษเข้าสู่ร่างกายผ่านการรับประทาน และในวันจับกุมผู้ต้องหา ได้ตรวจค้นบ้านที่ย่านดอนเมือง กระทั่งพบสารเคมีเป็นของเหลวต้องสงสัยบางอย่าง และกำลังตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นสารออกฤทธิ์ตรงกับที่แพทย์ให้ข้อมูลหรือไม่ และหากมีพยานหลักฐานยืนยันได้ว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องอาจต้องถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนข้อมูลที่ผู้ต้องหาเคยเรียนเภสัชศาสตร์จะเกี่ยวกับการนำสารเคมีมาใช้หรือไม่นั้น ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญในการสืบสวน พร้อมยืนยันว่ายอดเงินบริจาคไม่ได้สอดคล้องกับยอดค่ารักษาเด็ก แต่ต้องตรวจสอบว่ามีการใช้สิทธิ์เบิกประกันอย่างไรหรือไม่


พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม กล่าวว่า กรณีแม่ของ “น้องอมยิ้ม” ยกลูกให้ “แม่ปุ๊ก” รับไปดูแลเพราะเจ้าตัวไม่พร้อมมีบุตร อีกทั้งพบว่ารู้จักกันผ่านโซเชียล เท่านั้น “แม่ปุ๊ก” อ้างว่าจบเภสัชศาสตร์จึงเชื่อว่าเด็กจะมีอนาคตที่ดีกว่า จึงฝากแจ้งเตือนกลุ่มแม่วัยใสที่มีบุตรไม่พร้อม อย่ายกลูกให้กับคนอื่นไปเลี้ยง เพราะอาจกลายเป็นปัญหาสังคมที่ซับซ้อน และย้ำว่าหน่วยงานรัฐพร้อมช่วยเหลืออยู่แล้ว

คดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2558 หลัง “แม่ปุ๊ก” รับ “ด.ญ.อมยิ้ม” มาดูแลจากแม่ที่แท้จริงชื่อ “น.ส.เอม” ที่รู้จักผ่านสังคมออนไลน์ และ “น.ส.เอม” ยกลูกให้ดูแลเพราะไม่พร้อม ประกอบกับอีกฝ่ายอ้างว่าจบเภสัชกร จึงเชื่อว่าจะมีอนาคตที่ดี

ต่อมาในเดือนกันยายน 2560 “แม่ปุ๊ก” ได้แจ้งเกิด “ด.ช.อิ่มบุญ” ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งว่า “ด.ช.อิ่มบุญ” คลอดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2560 แต่ไม่แจ้งชื่อพ่อเด็ก จากนั้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2560 – กันยายน 2561 “แม่ปุ๊ก” เลี้ยงดูทั้งสองคน และโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกที่แท้จริง และเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว 

ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2561  “แม่ปุ๊ก” หลอกให้ “น.ส.เอม” ซึ่งเป็นแม่ที่แท้จริงของ “ด.ญ.อมยิ้ม” เปิดบัญชีธนาคารและส่งสมุดบัญชี บัตร ATM พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมาให้ โดยอ้างว่าจะนำไปทำประกันสุขภาพให้กับ “ด.ญ.อมยิ้ม” แต่บัญชีดังกล่าวถูกนำไปรับบริจาค  อีกทั้งมีข้อมูลว่านำข้อมูลต่างๆ ไปเปิดบัญชีเพิ่มเติมอีก 2 บัญชี รวมเป็น 3 บัญชี

จากนั้นเดือนพฤศจิกายน 2561 “แม่ปุ๊ก” โพสต์อ้างว่า “ด.ญ.อมยิ้ม” ป่วยด้วยโรคหายาก พร้อมเปิดรับบริจาค-ขายสินค้าผ่านบัญชี “น.ส.เอม” อีกทั้งพบว่า “แม่ปุ๊ก” แสดงตนให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเป็น “น.ส.เอม” ผ่านชื่อและนามสกุลจริง จนมีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก จนกระทั่งในสิงหาคม 2562 “ด.ญ.อมยิ้ม” เสียชีวิตลง

ผ่านไปถึงเดือนมกราคม 2563 “แม่ปุ๊ก” โพสต์อ้างอีกว่า “ด.ช.อิ่มบุญ” ลูกชายคนเล็กป่วย อาเจียนเป็นเลือด ต้องเข้า รพ. ทำให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินบริจาค รวมถึงสั่งซื้อสินค้าเพื่อช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลอีกทางหนึ่ง แต่ทว่าผู้เสียหายจำนวนมากไม่ได้รับสินค้า ก่อนเข้าแจ้งความเอาผิด “แม่ปุ๊ก” โดยใช้ชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารไปแจ้งความ ซึ่งก็คือชื่อของ “น.ส.เอม” กระทั่ง “น.ส.เอม” ถูกหมายเรียกจากตำรวจและชี้แจงว่าบัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และหลังจากนั้นเป็นต้นมาตำรวจกองปราบได้ขยายผลจนพบว่า “แม่ปุ๊ก” มีพฤติกรรมตามที่ปรากฏ ก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับและเข้าจับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดี

สำหรับ 5 ข้อกล่าวหาที่ถูกดำเนินคดียังเป็นข้อหาเดิม ไม่ได้มีการแจ้งเพิ่ม ประกอบด้วย รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และฉ้อโกงประชาชน

แม่แท้ๆ ของ “ด.ญ.อมยิ้ม” ล่องหน หลังตกเป็นข่าวดัง

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ไปบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านของ “น.ส.เอม” แม่แท้ๆ ของ “ด.ญ.อมยิ้ม” เบื้องต้นพบว่าพักอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่ม 2 คน เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น และมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 3 คัน แต่ไม่พบผู้พักอาศัย ทราบจากเพื่อนบ้านว่าตั้งแต่มีข่าวปรากฏว่า “น.ส.เอม” เป็นแม่แท้ๆ ของ “ด.ญ.อมยิ้ม” ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ ประกอบกับเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (23 พ.ค.)  มีนักข่าวจากสำนักหนึ่งเข้าไปขอสัมภาษณ์ จึงทำให้ “น.ส.เอม” และแฟนหนุ่มรีบปิดล็อกบ้าน ขับรถเก๋งออกจากบ้านและยังไม่กลับมาอีกเลย

จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า ทั้งคู่เป็นพนักงานบริษัทเอกชนในตลาดปากน้ำโพ แต่ทั้งคู่ไม่ค่อยสุงสิงกับคนในหมู่บ้านมากนัก เพราะทั้งคู่ต่างทำงานจนมืดค่ำ และส่วนใหญ่มักจะอยู่แต่ในบ้าน อย่างไรก็ตาม เคยเห็น “น.ส.เอม” ตั้งครรภ์มานานหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นเด็ก จึงสงสัยว่าลูกของ “น.ส.เอม” ไปไหน แต่ในใจคิดแต่ว่าญาติพี่น้องน่าจะช่วยเลี้ยงมากกว่า. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]