เสวนา“ธรรมนูญสงฆ์ รวมพลังบวร สู้วิกฤตโควิด19”

กทม.28เม.ย.-สช.จัดเสวนา ปฏิบัติการ รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19 “ธรรมนูญสงฆ์ รวมพลังบวร สู้วิกฤตโควิด19”  ชี้ การประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน ช่วยสังคมไทยฝ่าวิกฤติโควิด-19 ได้


สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกับ มหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดเสวนา ปฏิบัติการ รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19 “ธรรมนูญสงฆ์ รวมพลังบวร สู้วิกฤตโควิด19” ที่วัดยานนาวา โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ,นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ,กรมปกครองส่วนท้องถิ่น,สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมในการเสวนา สะท้อนมุมมองของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านสังคมและสาธารณสุข ที่ร่วมกันทำงานในด้านต่างๆเพื่อสู้กับวิกฤติโควิด-19    


พระมงคลวชิรากร  เลขานุการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์  มหาเถรสมาคม  กล่าวว่า  พระสงฆ์ได้นำธรรมนูญสงฆ์มาใช้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา2019หรือโควิด-19 โดยการประกาศพื้นที่ของวัดในแต่ละวัดเป็นพื้นที่ที่พระสงฆ์จะดูแลพระสงฆ์เองตามหลักพระธรรมวินัย และช่วยเหลือสังคมชุมชน ในการให้ความช่วยเหลือ บอกกล่าวข้อมูลข่าวสารในเรื่องของไวรัส  นอกจากนี้ได้ประสานความร่วมมือกับภาคว่วนต่างๆในการช่วยเหลือประชาชน  พร้อมยกตัวอย่างที่วัดยานนาวา สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ได้นิมนต์พระทุกรูปร่วมทำงานเพื่อช่วยประชาชนและประสานงานหน่วยงานภาคีเครือข่ายของรับรัฐ ก่อนที่จะมีการเปิดโรงทานตามพระดำริสมเด็จพระสังฆราช เพื่อการดำเนินการให้ถูกหลักอนามัย ป้องกันและควบคุมโรค 


นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์  รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า ขณะนี้คนทั่วโลกติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 กว่า 3 ล้านคน ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่พบผู้ป่วยโควิด-19 นอกประเทศจีน  ช่วงปลายเดือนมกราคม และพยายามควบคุมเฝ้าระวังติดตามผู้ที่ป่วยและค้นหากลุ่มเสี่ยง แต่วิกฤติช่วงที่มีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจากสถานบันเทิง ทั้งนี้ภาครัฐมีการออกมาตรการต่างๆออกมา ส่งผลให้ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ลดลงต่อเนื่อง เป็นความร่วมมือกันของทุกคนในสังคม  ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง หน้ากากยังคงจำเป็น การล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์70% ขึ้นไป เมื่อทำแบบนี้ต่อเนื่องตัวเลขก็จะเป็น0 ทั้งนี้การตั้งโรงทานของคระสงฆ์ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องมีการดูแลเรื่องความเสี่ยงเพื่อไม่ให้สัมผัสโรค ต้องมีขบวนการป้องกันให้ครบถ้วน  พร้อมยืนว่าไทยไม่มีการปกปิดข้อมูล สามารถเข้าไปดูข้อมูลที่เว็ปไซต์กรมควบคุมโรค และแถลงการณ์ของศบค.ได้ทุกวัน อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ดีขึ้น หรือมีการผ่อนคลายมตรการต่างๆ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากยังมีความจำเป็น ในการป้องกันการแพร่ระบาด 

นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ  กล่าวว่า การระบาดของเชื้อโควิด-19 ถือว่า กระทบต่อประชาชนทุกกลุ่ม แม้กระทั่งพระสงฆ์  แรกๆจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว บุคคลาการทางการแพทย์ทำงานอย่างหนัก ช่วงแรกประชาชนตื่นกลัว คัดค้านมาตรการต่างๆของรัฐ ที่จะนำคนติดเชื้อเข้าหมู่บ้าน ปัญหาใหญ่คือผลกระทบทางเศรษฐกิจ ประชาชนตกงาน ความยากจน ปัญหาเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องใช้ยาแรง มีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เคอร์ฟิว ล็อกดาวน์ มาตรการนี้จะได้ผลต้องเกิดจากความเข้าใจของประชาชนด้วย ซึ่งไทยโชคดีที่ประชาชนเข้าใจ ได้รับความร่วมมือจากประชาชน  ทั้งนี้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบาย ชวนภาคีเครื่อข่าย ด้านสุขภาพ และหน่วยงานด้านสังคม เพื่อบูรณาการแต่ละหน่วยเพื่อร่วมขับเคลื่อนการเฝ้าระวัง ป้องกันกลุ่มเสี่ยงเพื่อไม่ให้ติดเชื้อ การ์ดต้องไม่ต้อง หลังมีมาตรการผ่อนคลาย ปัญหาเศรษฐกิจความยากจนจะตามมา ขณะนี้มีภาคีเครือข่าย 12หน่วยงาน ทั้งด้านสุขภาพและสังคม วันนี้ได้รับความเมตตาจากทางคณะสงฆ์ เมื่อมีธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติ ในหมวด2 บัญญัติไว้ว่า พระจะดูแลสุขภาพพระอย่างไร หมวดที่3 ประชาชนจะเข้ามาดูแลสุขภาพพระอย่างไร และพระจะดูแลภาคประชาชนอย่างไร เมื่อเป็นเรื่องการสานพลัง บ้าน วัด ราชการ  เมื่อเดินหน้าจับมือจะทำให้ไทยพ้นจากภาวะวิกฤติโควิดไปได้ ทั้งนี้เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ต้องมีการจับมือให้กำลังใจกัน 

นายกิตติพงษ์ เกิดฤทธิ์  ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า  กรมสงเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มีโครงการวัดประชารัฐ สร้างสุข  ที่ร่วมกันดำเนินการเรื่องสะอาด สุขอนามัยอยู่แล้ว เมื่อเกิดสถานการณ์โรคระบาดและเกิดความเดือดร้อนขึ้น ท้องถิ่นพร้อมร่วมมือกับวัดในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่าวัดคือศูนย์กลางที่เป็นที่พึ่งของประชาชน  รวมถึง มีการผนึกกำลังกับอสม. และอาสาสมัคร จัดทำหน้ากากผ้ามอบให้ชุมชนต่างๆมากกว่า 12ล้านชิ้น  ทั่วประเทศด้วย 

นายสาโรจน์ กาลศิริศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า วัดกว่า4.2หมื่นวัด และพระสงฆ์กว่า3แสนรูป  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ได้มีการแจ้งไปยังวัดทั่วประเทศในการระมัดระวังเชื้อโควิด-19 รวมถึง มีมติมหาเถรสมาคมออกไปหลายฉบับ สื่อสารไปยังวัดทั่วประเทศและต่างประเทศให้เข้าใจสถานการณ์  ต้องปฏบัติตามมาตรการของรัฐบาล รวมถึงมหาเถรสมาคม มีมติอนุโลมให้พระที่เดินทางกลับจากปฏิบัติศาสนกิจต่างประเทศ พักในโรงแรมหรือสถานที่ที่ทางราชการจัดให้ ขณะนี้มี226 รูปอยู่ระหว่างการกักตัว รวมถึงวัด 600 วัดทั่วประเทศที่มีศักยภาพร่วมจัดตั้งโรงทานตามพระดำริสมเด็จพระสังฆราช ได้รับความร่วมมืออย่างดี มีการจัดระเบียบตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนวัดที่ขาดแคลน พระไม่สามารถบิณฑบาตรได้  มีการรวบรวมข้อมูลเสนอมหาเถรสมาคมและคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอขอความช่วยเหลือ  สำหรับข้อมูลโรงทานทั่วประเทศ สามารถสอบถามได้ที่ 024417988-90 

นอกจากนี้ในวงเสวนายังมีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับวัดต่างๆที่ทางฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นยังประสานใช้วัดเป็นศูนย์กักตัวรวมถึงการขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆช่วงโควิด อาทิ สำนักปฏิบัติธรรมป่าโมกข์ธรรมาราม  อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว  วัดห้วยยอด จ.ตรัง วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ ,ตัวแทนคณะสงฆ์หนตะวันออก(ภาคอีสาน),ตัวแทนคณะสงฆ์หนเหนือ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดูแลผู้กักตัวการดูแลช่วยเหลือประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]