สธ. 18 เม.ย. – สธ.ย้ำไม่มีความจำเป็นต้องลงตรวจหาเชื้อโควิดทุกบ้านทุกจังหวัด สถานการณ์ดีขึ้นขอให้ดูแลตัวเองต่อเนื่อง
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ในประเทศไทย เป็นที่น่ายินดีที่การควบคุมสถานการณ์โรคที่ประเทศไทยทำได้ดีต่อเนื่อง คาดว่าหากคงตัวเลขผู้ป่วยใหม่ที่ 20-30 คนต่อเนื่องได้ ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ อาจจะ มียอดผู้ป่วยสะสมประมาณ 3,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าหลายหน่วยงานคาดการณ์ไว้ว่าจะแตะหลักหมื่น หลักแสนคน และหากจะเริ่มผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ประชาชนก็ขอให้อย่าประมาทเพราะการระบาดของโรคทางเดินหายใจเกิดขึ้นได้เร็วหากพบผู้ป่วยรายใหม่
ส่วนข้อสงสัยของคนในสังคมว่าทาง สธ.มีแผนจะลงพื้นที่ตรวจคัดกรองหาผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทุกบ้าน ทุกหลังหรือไม่ เรื่องนี้ นพ.โสภณ กล่าวว่า ถ้าหากดูจากสถานการณ์เวลานี้ ไทยไม่ได้มีการระบาดในทุกจังหวัด การลงไปตรวจทุกพื้นที่ ทุกบ้าน จึงยังไม่มีความจำเป็น เพราะใช้งบประมาณที่สูง และสูญเสียทรัพยากรทางการแพทย์โดยไม่จำเป็น เน้นไปที่จุดที่มีปัญหา หรือมีความเสี่ยง และจุดเคยพบผู้ป่วยยืนยัน จะดีกว่า เช่นการลงพื้นที่ ใน จ.ภูเก็ต , 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้,ชลบุรี แลพ กทม. จะเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่ง การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active Case Finding) ในพื้นที่ที่เคยพบผู้ป่วยยืนยัน โรคโควิด 19 เป็นกลุ่มก้อนยังเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในค้นหาผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยในระยะแรกเพื่อจะลด โอกาสการแพร่เชื้อ สิ้งที่ทำได้ดีที่สุดคือป้องกันตัวเองต่อเนื่อง สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือ และงดการไปในที่รวมตัวของคนหมู่มาก
ในขณะนี้มีการตรวจค้นหาผู้ป่วยในชุมชนเพิ่มขึ้น แต่พบว่าอัตราการพบผู้ติดเชื้อยังอยู่ระดับต่ำ น้อยกว่า ร้อยละ 1 ไม่เปลี่ยนแปลง,มากนัก โดยการตรวจค้นหาทำได้รวดเร็วมากขึ้นเนื่องจากมีห้องปฏิบัติการทั่วประเทศรองรับกว่า 100 แห่ง และโรงพยาบาลสามารถออกรหัสการตรวจได้เอง เชื่อว่าการตรวจค้นหาผู้ป่วยจะสะดวกคล่องตัวขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่ยอดผู้ป่วยที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ขณะนี้ 899 คน เป็นชาวต่างชาติ ร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ผู้ป่วยชาวต่างชาตินั้นติดมาจากต่างประเทศ อยู่ในชุมชนชาวต่างชาติด้วยกัน แต่ตั้งแต่มีมาตรการเข้มข้นในเดือนเมษายน สถิติผู้ป่วยชาวต่างชาติจะเป็นกลุ่มที่ตกค้างอยู่ในไทย และคลุกคลี ใกล้ชิด หรือไปในพื้นที่ที่มีการระบาดในไทยซะมากกว่า .-สำนักข่าวไทย
