โฆษก ศบค.ย้ำสงกรานต์งดเล่นน้ำทุกกรณี พบผู้ป่วยรายใหม่ 33 ราย

ทำเนียบฯ 12 เม.ย.-นายแพทย์ทวีศิลป์ แถลงข่าว ศบค. แนะช่วงเทศกาลสงกรานต์ งดเล่นน้ำทุกกรณีเพราะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ และงดขอพรพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ขอสร้างระยะห่าง 1-2 เมตร แนะใช้วิธีสรงน้ำพระแทน  ระบุพบมีผู้ป่วยใหม่ 33 ราย  รวมติดเชื้อสะสม 2,551 กระจายอยู่ใน 68 จังหวัด รักษาหาย 83 ราย หายสะสม 1,218 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 38 ราย และยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,295 คน


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันอาทิตย์ที่ 12เมษายน 2563  ว่าในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็ขอให้ทุกคนอยู่ที่บ้าน ขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อประเทศไทยอยู่ในอันดับที่  47 ของโลก  วันนี้พบมีผู้ป่วยใหม่ 33 ราย  รวมติดเชื้อสะสม 2,551 กระจายอยู่ใน 68 จังหวัด รักษาหาย 83 ราย หายสะสม 1,218 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 38 ราย และยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,295 คน

โฆษก ศบค. กล่าวว่า จากตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 33 รายนี้มีความรู้สึกดีใจที่ตัวเลขลดลง และพอใจที่มีตัวเลขที่ดีในช่วงปีใหม่ไทยนี้ด้วย แต่สถานการณ์ทั่วโลกยังคงไม่น่าสบายใจ เพราะมีตัวเลขที่สูงขึ้นอยู่ อย่างต่อเนื่อง โดยความเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงของผู้ติดเชื้อจำนวน 33 คน วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ติดเชื้อ พบว่า กลุ่มแรก15 คนเกี่ยวข้องกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสถานบันเทิง และ 7 รายเชื่อมโยงกับการรักษาผู้ป่วย กลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์ และการใช้ชีวิตส่วนตัวในแต่ละวัน ที่มีการสัมผัสกัน จึงต้องหาวิธีการในการป้องกันคนที่เป็นกลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์ในอนาคต และที่น่ากังวลคือผู้ที่มีอาการในสถานที่กักตัวที่มีตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ที่ไปประกอบศาสนกิจมา ที่ยังมีการกระจายกันอยู่ในแต่ละจังหวัดที่เป็นการสะสม 


“สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกเป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 74 ปี ไปสถานที่ชุมชนตลาดนัดและมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลในบ้าน  ซึ่งได้มีอาการป่วย ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ส่วนรายที่ 2  เป็นหญิงไทยอายุ  65 ปี เป็นโรคอ้วน ไปเยี่ยมญาติที่ชุมพร และมีอาการไข้จากนั้น 5 วัน โดย 11-31 มี.ค. มีอาการไข้ เพลียเหนื่อยหอบตามมาก่อนจะไปตรวจมีอาการหนักขึ้นพบว่าติดโควิด-19 และอาการแย่ลงจนเสียชีวิต ซึ่งถือว่ามาช้าไป จึงทำให้รักษาไม่ทัน ส่วนรายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 44 ปี รับส่งต่อจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม แต่แรกได้ทำการรักษาโดยใช้ยาหลายชนิดและก็พยายามที่จะดูแลทั้งระบบของร่างกาย และพบอวัยวะภายในล้มเหลว ต้องล้างไตหลายครั้ง แต่อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตวันนี้ (วันที่ 12 เม.ย. ) เมื่อ 7 โมงเช้าที่ผ่านมา จึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับ 9 จังหวัด ที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 คือ จังหวัดกำแพงเพชร ,ชัยนาท ,ตราด,น่าน ,บึงกาฬ ,พิจิตร ,ระนอง ,สิงห์บุรี ,อ่างทอง โดยจังหวัดที่เป็นสถานที่กักกันตัว หรือ state quarantine จะมีตัวเลขที่สูงขึ้น ซึ่งไม่ได้อยู่ที่การดูแลดีหรือไม่ดีจังหวัดนั้น ๆ  แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด ส่วนการเปิดประเทศหรือเปิดน่านฟ้าไทยเมื่อใดนั้น  จะต้องประเมินจากสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านและสถานการณ์โลกด้วย 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า เมื่อดูสถิติผู้ติดเชื้อเป็นรายสัปดาห์จะพบว่าในสัปดาห์ที่ 15 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มรวม 383 ราย ซึ่งลดลงจากเมื่อสัปดาห์ที่14 ที่มียอดผู้ป่วยใหม่ 724 ราย  เกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ แต่อย่าประมาทเพราะในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศ มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูง 184 ราย ฟิลิปปินส์ 233 ราย ขณะที่สิงคโปร์ 191 ราย ส่วนอินโดนีเซียที่มีคนไทยไปร่วมกิจกรรมและกลับมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 330 ราย ดังนั้นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจะต้องเข้าสู่ระบบประกันตัวและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด 


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกนอกเคหสถาน และฝ่าฝืนเคอร์ฟิวมี 926 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการดื่มสุราจนกลับบ้านไม่ทัน ถูกดำเนินคดี 752 ราย ตักเตือน 174 คน ขณะที่ผู้ที่ฝ่าฝืน มีการชุมนุม มั่วสุม ลดน้อยลง มีการจับกุมมั่วสุม 58 รายและถูกดำเนินคดีทุกคน  ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ไปตรวจด่านความมั่นคง ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว เพื่อติดตามการทำงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งการรายงานให้ทราบนี้เป็นหน้าที่ของตน เพราะทุกคนล้วนมีหน้าที่ของตัวเอง 

เมื่อถามว่าตัวเลขผู้ป่วยที่สนามมวยลดน้อยลง หรือมาจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า หลังจากที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้ว 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน  เป็นเพราะมาตรการที่เข้มงวดและการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องโรคนี้มากขึ้น ใน 9 วันที่ผ่านมา มีมาตรการที่ดีเข้มข้นและมีโครงสร้างสาธารณสุข การอนามัย ความมั่นคง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเป็นกระบวนการและประชาชนให้ความร่วมมือ

เมื่อถามถึงการงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เหตุใดไม่ประกาศพร้อมกันทั่วประเทศ โฆษก ศบค. กล่าวว่า ล่าสุดตอนนี้ประกาศ 73 จังหวัดแล้ว ที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ซึ่งจังหวัดที่เหลือตอนนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ศบค.และ มท. ที่จะหามาตรการรองรับด้วย ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชน งดดื่มแอลกอฮอล์ให้ลดน้อยลง เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุให้ลดน้อยลงด้วย 

เมื่อถามถึงมาตรการห่างผู้สูงอายุ 1-2 เมตร และการรดน้ำดำหัว รวมถึงการสาดน้ำในบ้านทำได้หรือไม่ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ห้ามทำ เพราะการฉีดน้ำ สาดน้ำ เป็นแหล่งพาหะของเชื้อโรค จะฟุ้งกระจายออกไป เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับได้ทั้งหมด แต่ต้องขอความร่วมมือทุกคนให้ปฎิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์ด้วย 

“ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ 2563 นี้ หากจะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา กลุ่มอายุ 20-29 ปี , 30-39 ปี , 40-49 ปี จะต้องห่างกับผู้สูงอายุอย่างน้อย 2 เมตรทุกวัน และงดการรดน้ำอวยพรโดยเด็ดขาดเพราะหากเป็นพาหะนำเชื้อไปส่งต่อให้กับญาติผู้ใหญ่ได้ รวมถึงห้ามกิจกรรมรดน้ำ-เล่นน้ำทุกกรณี แม้จะอยู่ภายในบ้าน เพราะจะนำพาเชื้อโรคไปสู่อีกคนก็ได้ ซึ่งในกรณีนี้อาจนำพาเชื้อโรคไปไกลกว่าระยะ 2 เมตร ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลนี้จึงขอให้ใช้วิธีสรงน้ำพระแทน” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เสียชีวิตเป็นหมื่น ป่วยเป็นแสน หลายประเทศให้ความร่วมมือ มีความสามัคคี อยาางประเทศจีนที่ก้าวข้ามและไปช่วยประเทศอื่นต่อไป ซึ่งเป็นมิตรภาพที่ดี ตอนนี้ทั่วโลกรวมพลังกัน โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความร่วมมือและเห็นความเข้มแข็มของแต่ละจังหวัด และฝากในมิติของครอบครัวที่จะต้องมีความเข้มแข็งมากกว่านี้ในการรักษาระยะห่างทางสังคม แต่ความผูกพันที่ดีทางสังคม หรือทางจิตใจที่ดี ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกคนสู้กับโควิด-19 และก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. คาดว่าติดตามและสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามรับมือต่อสถานการณ์โควิด-19 และชมการแถลงข่าวของ ศบค.เสร็จสิ้นแล้ว จึงเดินทางกลับ.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]