โฆษก ตร. ขอบคุณ ปชช. ที่ให้ความร่วมมือ ในการประกาศเคอร์ฟิวคืนที่ 3

กรุงเทพฯ 6 เม.ย.-  โฆษก ตร. ขอบคุณ ปชช. ที่ให้ความร่วมมือ ในการประกาศเคอร์ฟิวคืนที่ 3


พล.ต.ท.ดร.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์ในคืนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นคืนที่สามหลังจากมีการประกาศ CURFEW ข้อกำหนดเพิ่มเติม ห้ามออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น 

พล.ต.ท.ดร.ปิยะ กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยในคืนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และสามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง ภาพรวมของคืนที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้.ในคืนที่ผา่มา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข และอาสาสมัคร ได้สนธิกำลัง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ชุดเคลื่อนที่เร็ว ทั่วประเทศ รวม 923 จุด ใช้กำลังพลรวม 17,755 คน เพิ่มขึ้นจากคืนที่ผ่านมา จำนวน 87 จุด (คืนวันที่ 4 เม.ย. จำนวน 849 จุด)มีการตรวจประชาชน จำนวน 22,675คน ตรวจยานพาหนะ 16,841 คัน (คืนวันที่ 4 เม.ย.64 ตรวจประชาชน 19,312 คน ยานพาหนะ 14.344 คัน)


สำหรับผู้ที่ออกนอกเคหสถานนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีเหตุผลและความจำเป็น โดยในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล คือ ผู้ที่มีหน้าที่ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค, ผู้ที่ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ,ผู้ที่มีหน้าที่เข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืน ตามลำดับ

ในส่วนพื้นที่อื่นนั้น เป็นผู้ที่มีหน้าที่ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร,ผู้ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และ ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ ตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประชาชนที่จงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกนอกเคหสถาน โดยไม่มีเหตุผล จำนวน 1,057 คน และรวมกลุ่ม ชุมนุม หรือมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ในเคหสถาน จำนวน 83 คน  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดี ทั้งหมด 810 ราย โดยส่วนใหญ่ยังคง เจตนาออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันสมควร เช่น อ้างว่าจะไปทำธุระแต่พอถูกสอบถามโดยละเอียด ไม่สามารถตอบคำถามได้ ผู้ที่มาตั้งวงดื่มสุราในที่สาธารณะ ,ลักลอบเล่นการพนัน ,รวมกลุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์ ,และเสพยาเสพติด ผลการปฏิบัติกรณีฝ่าฝืน ไม่มีเหตุผลในการเดินทางฯการดำเนินการออกนอกเคหสถาน 1,057 รายรวมกลุ่มมั่วสุมในเคหสถาน 83 รายดำเนินคดี 810 ราย

พล.ต.ท.ดร.ปิยะ กล่าอีกว่า ขณะนี้พ้นระยะเวลา 3 คืนของการประกาศเคอร์ฟิวแล้ว ต้องถือว่า หากยังมีการฝ่าฝืนอีกเจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ได้โปรดปฏิบัติตามข้อกำหนด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทั้งนี้เพื่อควบคุม ป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้โดยเร็ว และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันและลดการแพร่ระบาด โดยบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามผู้ที่ก่ออาชญากรรมอันเป็นการเอารัดเอาเปรียบและซ้ำเติมประชาชนอย่างจริงจัง ขอเรียนว่า ขณะนี้ ศาลได้พิพากษาลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายแล้วทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ศาลแขวงดุสิต ศาลแขวงนครราชสีมา ศาลแขวงสงขลา ศาลแขวงเชียงใหม่ ศาลจังหวัดชัยนาท ศาลจังหวัดยโสธร ศาลจังหวัดปราจีนบุรี เป็นต้น โดยมีอัตราโทษตั้งแต่จำคุก กักขัง และปรับ รวมถึงมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเช่น ห้ามออกนอกเคหสถาน เป็นเวลา 7 วัน เว้นมีเหตุจำเป็น จึงขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือด้วย


ส่วนผลการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย โดยจับกุมผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542เฉพาะในวันที่ 5 เม.ย.63 เพียงวันเดียว มีการจับกุมทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด จำนวน 8 คดี ผู้ต้องหา 9 คน ตรวจยึดของกลางหน้ากากอนามัย จำนวน 71,930 ชิ้น เจลแอลกฮอล์ จำนวน 7,280 ลิตร รวมผลการตรวจจับกุมตั้งแต่เดือน ก.พ.63 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 306 คดี ของกลางหน้ากากอนามัย จำนวน 2,535,520 ชิ้น แอลกฮอล์ 77,807ลิตร รวมมูลค่าของกลางกว่า 69 ล้านบาท และการจับกุมผู้ที่โพสต์หรือส่งต่อข่าวปลอม สร้างความตื่นตระหนกให้แก่สังคม Fake News ที่เกี่ยวกับสถานการณ์ COVID จนถึงวันที่ 5 เม.ย.63 มีจำนวน 23 คดี ผู้ต้องหา 29 คน  ส่วนการจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับประกาศ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จนถึงปัจจุบันมีการจับกุม จำนวน 29 คดี ผู้ต้องหา 141 คน 

พล.ต.ท.ดร.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบังคับการตำรวจทางหลวง ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน โดยในช่วงนี้ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น กรณีหากท่านมีความจำเป็นขอให้ศึกษาข้อมูล รวมถึงประกาศ คำสั่ง และข้อกำหนดของแต่ละจังหวัดก่อนเดินทาง เช่น ขณะนี้มีจังหวัด ห้ามประชาชนเดินทางเข้าออกเว้นมีเหตุจำเป็นจริงๆ เช่น เชียงราย น่าน ตาก ตราด ภูเก็ต สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีช้อกำหนดที่แตกต่างกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้หากท่านต้องการสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์สายด่วน 191,1599 และ สายด่วนกองบังคับการตำรวจทางหลวง 119 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]