เล็งปรับศูนย์ EOC สุวรรณภูมิ มีตำรวจบัญชาการ


กรุงเทพฯ
4 เม.ย.-ปลัดกระทรวงคมนาคม ถอดบทเรียนสถานการณ์แหกกักตัว “สุวรรณภูมิ” ต้องปรับศูนย์
EOC มีผู้บัญชาการเหตุการณ์เป็นตำรวจ
หรือฝ่ายความมั่นคง ส่วนการประกาศห้ามบินเข้าไทย
3 วัน คาดหลังจากนั้นจะไม่มีสายการบินเข้ามาอีก ตามนโยบายชะลอคนไทยเดินทางกลับจนถึง
15 เม.ย. เผยบุรีรัมย์สั่งฟันแล้ว 1 ผู้โดยสารไม่ร่วมมือกลับมากักตัว

นายชัยวัฒน์
ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงสถานการณ์ที่มีผู้โดยสารกว่า 100 คนเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เมื่อคืนที่ผ่านมา และปฏิเสธที่จะให้เจ้าหน้าที่กักตัว 14 วัน
ในพื้นที่ที่หน่วยงานรัฐเตรียมไว้ ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและ
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า
จำเป็นต้องถอดบทเรียนจากเหตุการณ์นี้  ซึ่งที่ผ่านมาการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
(
EOC) ในส่วนของพื้นที่การคัดกรองด้านใน
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย
เจ้าของพื้นที่ สามารถจัดการดูแลพื้นที่ได้ แต่เมื่อออกมาด้านนอก
ซึ่งจะต้องมีการนำผู้โดยสารไปกักตัวตามมาตรการนั้น
จำเป็นจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารฝ่ายความมั่นคง เข้ามาบัญชาการเหตุการณ์


“โดยส่วนตัวเห็นว่า
ศูนย์
EOC จำเป็นต้องปรับรูปแบบการจัดการให้มีการประสานความร่วมมือมากขึ้น และให้มีผู้บัญชาการเหตุการณ์
เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง เพื่อการทำงาน การบังคับใช้กฎหมายเกิดผลในทางปฏิบัติชัดเจนยิ่งขึ้น ย้ำให้ประชาชนทั่วไปหรือผู้โดยสารที่เดินทาง
ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การป้องกันการระบาด โรค
COVID-19 ประสบผลสำเร็จ” นายชัยวัฒน์กล่าว

ส่วนประเด็นที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
หรือ กพท. มีการออกประกาศไม่ให้เที่ยวบินพาณิชย์ จากต่างประเทศเดินทางเข้าไทยเป็นเวลา
3 วัน  จากวันที่ 4- 6 เมษายนนี้  แนวปฏิบัติหลังจากครบกำหนดจะต้องดำเนินการอย่างไรนั้น ปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ประกาศของ กพท.ที่ออกมา
ได้ก็เพื่อแก้ปัญหาผู้โดยสารที่อยู่ระหว่างการเดินทางซึ่งถือว่าเป็นผู้โดยสารที่เรียกว่า
ค้างท่อ ที่ได้รับเอกสารเดินทางก่อนหน้านี้ แต่ทั้งหมดก็ต้องเข้ามาตรการการกักตัว
14 วัน ส่วนหลังจากนี้สถานทูตในต่างประเทศ ไม่ได้มีการออกเอกสารรับรองให้เดินทาง
ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2563
ในระหว่างนี้ก็เชื่อว่าจะไม่มีเที่ยวบินหรือผู้โดยสารที่สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยจากต้นทางได้อยู่แล้ว


นายจุฬา
สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงาน กพท. กล่าวว่าก่อนการประกาศห้ามเครื่องบินเข้าไทยเป็นเวลา 3 วัน จะมีเที่ยวบินเข้าไทยประมาณวันละ 20-25 เที่ยวบิน
โดยในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินขนส่งสินค้า (คาร์โก้) วันละประมาณ 5 เที่ยวบิน
 ซึ่งหลังจากออกประกาศแล้ว
จะส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่เข้าไทยไม่มากนัก และการออกประกาศที่ชัดเจน
จะทำให้สายการบินตัดสินใจยกเลิกทำการบินมาไทยชั่วคราว ได้ง่ายขึ้น
ซึ่งเป็นผลดีต่อการควบคุมโรค

รวมทั้ง
หลังจากที่ กพท.ได้ออกประกาศห้ามเที่ยวบินจากต่างประเทศทั่วโลกบินเข้าไทย
ระหว่างวันที่ 4
6 เม.ย.ที่ผ่านมา
ปรากฏว่าหลังเที่ยงคืนที่ที่ผ่านมา (4เม.ย.) มีเที่ยวบิน 1 เที่ยวบิน
จากประเทศอิหร่านบินมาถึงประเทศไทยช่วงเช้าที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเที่ยวบินสุดท้าย
แต่ผู้โดยสารทุกคนจะถูกนำไปกักตัว 14 วัน
และหลังจากนี้จะไม่มีสายการบินใดบินเข้ามาอีก
ยกเว้นเที่ยวบินเปล่าที่มีการประสานจากประเทศต้นทาง เพื่อขอเข้ามา นำผู้โดยสารของประเทศนั้นๆกลับออกจากไทย
ซึ่งมีการแจ้งล่วงหน้า และบางส่วนเป็นเที่ยวบินขนส่งสินค้า หรือคาร์โก้

ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
นายจุฬา กล่าวว่า ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (ศบค.) มีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ในช่วงนี้จะต้องมีการประเมินผลหลังจากประกาศห้ามเที่ยวบินเข้าประเทศไทยเป็นเวลา 3
วัน ก่อน ส่วนจะต่อหรือขยายเวลาการสั่งห้ามหรือไม่อย่างไร
ต้องรอผลการประเมินในช่วงนี้ก่อน
 

 แหล่งข่าวจาก  ศบค.ระบุว่า
การประกาศสั่งห้ามเที่ยวบินบินเข้าประเทศไทย เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และเป็นการประเมินแผนการรับมือกับการที่จะกำหนดให้ผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจะต้องถูกกักตัวไว้ในสถานที่ที่ภาครัฐกำหนดเป็นเวลา
14 วัน หากกำหนดเป็นช่วงเวลานานๆ เช่น 15 วันหรือ 30 วัน
จะเกิดปัญหาการอั้นของผู้โดยสารและทะลักกลับมาในคราวเดียวกันจำนวนมาก ส่งผลต่อการรับมือกับสถานที่ในการกักตัวให้เพียงพอได้ยาก
ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่า
หลังจากนี้อาจต้องประสานกับกระทรวงการต่างประเทศในการกำหนดจำนวนผู้โดยสารที่จะบินกลับเข้าไทยในแต่ละรอบ
เพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่ที่จะรองรับการกักตัวด้วย

หลังจากนี้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
จำเป็นจะต้องมีการกักตัวไว้ก่อน 14 วัน เนื่องจากข้อมูลกรมควบคุมโรคระบุชัดเจนว่า
ผู้ติดเชื้อมาจากกลุ่มที่กลับจากต่างประเทศเป็นหลัก   ส่วนมาตรการที่จะออกมาจะประเมินกับสถานการณ์ในแต่ละวันประกอบการตัดสินใจด้วย
แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวด้วยว่า ช่วงก่อนเวลา 18.00 น. วันนี้ เส้นตายให้ผู้โดยสาร 152 รายที่เดินทางออกจากสุวรรณภูมิ รายงานตัวเพื่อกลับมากักตัว 14 วัน พบว่า มีหลายพื้นที่สามารถติดตามตัวได้โดยง่าย
บางพื้นที่ผู้โดยสารมีเจตนาหลบหนีไม่ร่วมมือ เช่นที่ จังหวัดบุรีรัมย์
มี 1 ราย
จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายเนื่องจากพบว่าได้กระทำการฝ่าฝืนตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40
,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
เพื่อให้เป็นตัวอย่างในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ส่วนอีก 2 รายที่มารายงานตัว พร้อมร่วมมือกักตัว
14 วัน โดยนำตัวไปกักตัวที่
สนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]