COVID-19 กับ 5 เหตุการณ์ที่สุดเป็นประวัติการณ์

กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เสนอบทวิจัย COVID-19  กับ 5 เหตุการณ์สำคัญ สั่นคลอนเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลก


ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือนที่ COVID-19  แพร่ระบาดอย่างรุนแรงไปทั่วโลก ทำให้มีผู้ติดเชื้อจนถึงปัจจุบันกว่า 800,000 คน และคร่าชีวิตผู้คนกว่า 40,000  ราย สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เศรษฐกิจโลกปีนี้มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ขณะเดียวกันยังก่อให้เกิด 5 เหตุการณ์สำคัญที่สั่นคลอนเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยจะขออธิบายแต่ละเหตุการณ์ผ่านคำว่า “C-O-V-I-D” ดังนี้

Circuit Breaker (CB)  มาตรการระงับการซื้อขายชั่วคราวถูกนำมาใช้มากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกวิกฤติในอดีต ตั้งแต่ต้นปีที่ COVID-19 เริ่มระบาด ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงรุนแรงกว่า 30% ส่งผลให้ตลาดหุ้นหลายประเทศต้องงัดมาตรการ CB มาใช้มากเป็นประวัติการณ์ อาทิ ตลาดหุ้นสหรัฐที่ต้องใช้ CB ถึง 4 ครั้งในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา มากกว่าช่วงวิกฤต Hamburger ที่ใช้เพียง 2 ครั้ง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่มีการใช้ CB ถึง 3 ครั้งในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกที่ตกต่ำลงอย่างรุนแรง


Oil Price  ราคาน้ำมันดิ่งลงแรงที่สุด นับตั้งแต่ต้นปีราคาน้ำมันดิบปรับลงกว่า 60% มากที่สุดและเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากปัจจัยบั่นทอนทั้งทางด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยอุปสงค์น้ำมันถูกกดดันจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่หดตัวจาก COVID-19  อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมจากอุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้นหลังมีการทำสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียกับรัสเซีย ซึ่งถือเป็นสงครามราคาครั้งใหญ่อีกครั้งในอุตสาหกรรมน้ำมันโลก จนมีการคาดการณ์อย่างสุดโต่งว่าราคาน้ำมันอาจลดลงแตะระดับ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สะท้อนให้เห็นว่าวิกฤติราคาน้ำมันรอบนี้อาจรุนแรงกว่าทุกครั้ง และย่อมส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Volatility ความผันผวนรุนแรงที่สุด เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ดัชนีความผันผวน (VIX Index) ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถือเป็นดัชนีที่นิยมใช้เป็นตัวแทนความกลัวของนักลงทุนพุ่งขึ้นไปแตะ 82.69 จุด สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีครั้งแรกในปี 2473 สูงกว่าช่วงวิกฤติ Hamburger ซึ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 80.86 จุด ขณะเดียวกันดัชนี Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีสะท้อนความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยก็พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปีภายใน 2 วัน (17-19 มีนาคม 2563) หลังนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ทุกประเภททั้งหุ้น พันธบัตร และทองคำ เพื่อหันมาถือเงินสด สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความกลัวและความผันผวนในตลาดการเงินที่รุนแรงที่สุดเมื่อเทียบกับวิกฤติหลายครั้งที่ผ่านมา

Interest Rate  อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่หดตัวอย่างรุนแรงจาก COVID-19 ทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศต่างงัดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมาใช้กันอย่างถ้วนหน้า ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย รวมถึงไทย ขณะที่หลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐ และยุโรปก็มีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มูลค่ามหาศาลกว่าช่วงวิกฤติ Hamburger สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการใช้ยาแรงผ่านการอัดสภาพคล่องครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งต้องจับตามองว่าวิธีการข้างต้นจะได้ผลเหมือนวิกฤติหลายครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ และจะทิ้งปัญหาไว้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะในประเทศที่มีปัญหาด้านการเงินและมีหนี้ในระดับสูงอยู่แล้ว 


Double Shock  ภาวะชะงักงันด้านอุปสงค์และอุปทานที่เกิดขึ้นพร้อมกัน วิกฤติเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติต้มยำกุ้งหรือวิกฤต Hamburger มักมีต้นตอมาจากปัญหาในภาคการเงินที่ลุกลามจนกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านอุปสงค์เป็นหลัก (Demand Shock) แต่การระบาดของ COVID-19 รอบนี้ไม่เพียงกระทบด้านอุปสงค์จากเศรษฐกิจที่ชะลอลง แต่ยังส่งผลกระทบถึงด้านอุปทาน (Supply Shock) อย่างรุนแรงจากการที่ภาคธุรกิจ ร้านค้า และโรงงานอุตสาหกรรมต้องหยุดดำเนินการเป็นวงกว้าง และอาจนำมาซึ่งการปิดกิจการในท้ายที่สุด ทำให้การเกิด Double Shock ข้างต้นอาจส่งผลให้เกิด Domino Effect เป็นวงกว้าง และแก้ไขได้ยากกว่าวิกฤตหลายครั้งที่ผ่านมา

จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ข้างต้น คงพอจะเห็นได้ว่ากำลังอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจที่อาจรุนแรงและยืดเยื้อกว่าทุกครั้ง ท่ามกลางภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความผันผวน ดังนั้น ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ส่งออกจำเป็นต้องตั้งสติและเตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย การบริหารสภาพคล่องให้เพียงพอ รวมถึงการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรอโอกาสที่จะกลับมาหลังวิกฤติผ่านพ้นไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]