วิษณุแจงพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไม่ประกาศเคอร์ฟิว ประชาชนยังเดินทางได้

ทำเนียบฯ 25 มี.ค.- “วิษณุ” แจงข้อกำหนดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ  ยันไม่ประกาศเคอร์ฟิว ประชาชนสามารถเดินทางได้ แต่ถ้าไปต่างจังหวัดต้องผ่านการตรวจเข้มข้น ห้ามผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป บุคคลที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี งดออกจากบ้านพัก ห้ามการชุมนุม เตือนสื่อหากเสนอข่าวโควิด-19 บิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด จะมีโทษตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงภายหลังนายกรัฐมนตรีประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19)  ว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ผ่านมาเป็นการประกาศในกรณีความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศ แต่ครั้งนี้นำมาใช้ในสถานการณ์ที่ต้องต่อสู้กับโรคระบาดร้ายแรงเป็นครั้งแรก แต่ก็สามารถทำได้ นิยามของคำว่าสถานการณ์ฉุกเฉินในกฎหมายนั้น รวมไปถึงภัยสาธารณะคือโรคภัยไข้เจ็บ

ตามกฎหมายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต้องทำโดยมติคณะรัฐมนตรีและให้อำนาจนายกรัฐมนตรีลงนามเป็นผู้ประกาศและเผยแพร่ในวันนี้แต่จะมีผลจริงในวันที่ 26 มีนาคม นั่นหมายความว่าหลังเที่ยงคืน วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งประกาศได้ไม่เกิน 3 เดือน แต่สามารถขยายเวลาต่ออายุได้อีก  ซึ่งขณะนี้ประกาศตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 แล้วจึงประเมินสถานการณ์พิจารณาต่ออายุเป็นครั้งคราวไป คราวละไม่เกิน 3 เดือน


นายวิษณุ กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีที่ออกมาเมื่อวานนี้  แต่การบังคับใช้ให้มีผลวันที่ 26 มีนาคม เพราะรัฐบาลต้อง ให้เจ้าหน้าที่เตรียมตัวรับรู้และเตรียมการปฏิบัติ รวมถึงตัวประชาชนเองที่จะต้องเตรียมตัวจึงต้องเตือนประกาศให้รู้และเมื่อถึงเวลาก็จะบังคับใช้จริง แล้วก็ถือเป็นการเตือนให้รู้มากกว่า 24 ชั่วโมงล่วงหน้า และจะบังคับใช้จริงจังตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันนี้เป็นต้นไป

รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า สถานการณ์ฉุกเฉินกฎหมายกำหนดเบื้องต้นไว้ว่าสามารถโอนอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตามกฎหมาย มาเป็นของนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอกระทรวงต่าง ๆ และจะมีการออกคำสั่งให้โอนอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ตามพระราชบัญญัติ 40 ฉบับในเบื้องต้นมาเป็นของนายกรัฐมนตรี แต่รัฐมนตรีแต่ละคนก็ยังดำรงตำแหน่งเจ้ากระทรวงเหมือนเดิม สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้รวมถึงเจ้าหน้าที่ก็สามารถปฏิบัติตามคำสั่งเดิมทุกอย่าง เพียงแต่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนายกรัฐมนตรีจะเข้าไปสู่อำนาจเมื่อใดก็ได้  ซึ่งคำสั่งที่ออกมาจะเป็นเรื่องโอนอำนาจตามพระราชบัญญัติ 40 ฉบับเพื่อความรวดเร็วและบูรณาการ

นายวิษณุ กล่าวว่า คำสั่งที่ 2 เกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้รักษาสถานการณ์ โดยนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ทั่วประเทศ และตั้งรองนายกรัฐมนตรีทุกคน เป็นผู้ช่วยในการอำนวยการรักษาสถานการณ์ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ทั่วประเทศ ขณะที่ผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ารับผิดชอบด้านต่าง ๆ ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นหัวหน้ารับผิดชอบด้านสาธารณสุขทั่วราชอาณาจักร ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้ารับผิดชอบด้านการปกครองเกี่ยวกับผู้ว่าราชการจังหวัดและกรุงเทพฯ


ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้ารับผิดชอบเกี่ยวกับผู้ควบคุมสินค้าไม่ให้ขาดแคลนขาดตลาดขึ้นราคา ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับการสื่อสารมวลชนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารออนไลน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน นอกจากนั้นมีหัวหน้าผู้รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับด้านการประสานงาน โดยมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประสานงาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ

รองนายกรัฐมมนตรี กล่าวว่า คำสั่งฉบับที่ 3 ที่จะออกมาตราการเกี่ยวกับการตั้งศูนย์หรือหน่วยบริหาร เรียกว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19)  ยกระดับขึ้นมาเป็น ศอฉ. ซึ่งนายกรัฐมนตรีสามารถใช้อำนาจสั่งการผ่านศูนย์โดยไม่ต้องเรียกคณะกรรมการก็ได้ หรือมีการประชุมมีมติโดยไม่ต้องเรียกประชุมเต็มคณะ อย่างไรก็ตามพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้นายกรัฐมนตรีออกข้อกำหนดต่าง ๆ ได้ซึ่งจะกระทบต่อวิถีชีวิตและทำให้สถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีข้อย่อยประมาณ 15 ถึง 17 ข้อ โดยจะลงในราชกิจจานุเบกษาและเผยแพร่ต่อไป โดยจะกำหนดพฤติกรรมต่าง ๆ เอาไว้อยู่ 3 ประเภท คือประเภทห้ามทำ ประเภทให้ทำ และประเภทควรทำ

นายวิษณุ กล่าวว่า มาตรการที่เกี่ยวกับการห้ามทำคือ ห้ามประชาชนเข้าพื้นที่เขตกำหนด เหมือนคำสั่งของผู้ว่าฯ กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ปิดสถานที่ต่าง ๆ สนามกีฬา สถานบริการ สถานบันเทิง ก็ยกมาซ้ำในข้อกำหนดนี้อีก จังหวัดใดยังไม่สั่งห้ามก็ให้ทำในลักษณะเดียวกัน เพื่อป้องกัน การแพร่ระบาด  ส่วนสถานที่บางอย่างที่ยังไม่ได้ห้ามไว้ก่อน ให้พิจารณาตามความเหมาะสม เช่นแหล่งท่องเที่ยวสาธารณะตามธรรมชาติ อย่างชายหาดบางแสน ชายหาดพัทยา ชายหาดหัวหินชายหาดสัตหีบ ขอให้พิจารณาตามความเหมาะสม 

ห้ามบุคคลทั้งหลายเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ว่าจะมาทางบก ทางเรือหรือท่าอากาศ ยกเว้น 1.คนไทยที่ตกค้างอยู่ต่างประเทศซึ่งมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 39 ที่จะเข้ามาในราชอาณาจักร แต่ต้องมีเอกสารสำคัญคือใบรับรองทางการแพทย์ว่ามีสภาพที่สามารถบินได้หรือไม่ หรือใบรับรองอื่น ๆ ก็ให้ติดต่อสถานทูต  2.บุคคลที่เป็นคณะทูตซึ่งพำนักอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้วออกไปและต้องการกลับเข้ามาในประเทศ ก็สามารถแจ้งกระทรวงการต่างประเทศของไทยและมีใบรับรองเช่นเดียวกันจึงจะกลับเข้ามาได้ 3.ผู้ขนส่งสินค้าที่เข้ามาและกลับออกไปโดยเร็ว 4. กรณีผู้ที่มากับยานพาหนะเช่น นักบิน สจ๊วต แอร์โฮสเตส เข้ามาอยู่ในเวลาจำกัดและต้องรีบกลับออกไป 5. และบุคคลที่ได้รับการยกเว้นโดยคณะรัฐมนตรีหรือหัวหน้าที่รับผิดชอบ 

นอกจากนี้ ห้ามชุมนุม จึงต้องมีการระวังการเว้นระยะห่างเพราะการชุมนุมรวมกันมาก ๆ ห้ามเผยแพร่ข่าวสารปลอม ยืนยันว่าไม่ได้ลิดรอน เสรีภาพ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการรวมกลุ่มและการแพร่ข่าว ที่เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกและเกิดความเสียหายขึ้น

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนการบังคับให้ทำเรื่องต่าง ๆ เป็นการบังคับส่วนราชการเช่นให้กระทรวงทบวงกรม และหน่วยงานของรัฐ เตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชนให้ศูนย์ราชการหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมโรงพยาบาลสนามยาเวชภัณฑ์ หาหมอที่เกษียณไปแล้ว มาขึ้นทะเบียนเพื่อระดมสรรพกำลังเตรียมบุคลากร เตรียมยา เตรียมเวชภัณฑ์ เตรียมเตียง โรงพยาบาล จนไปถึงการเช่าโรงแรม หอประชุม ศาลาวัด อาคารเอกชน มาเป็นที่พักรักษาผู้ป่วย ซึ่งหลายที่มีการเตรียมการไว้แล้วรวมถึงโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งใช้ที่จอดรถเตรียมการไว้แล้ว

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเภทเรื่องที่ควรทำ 1. ควรที่จะอยู่บ้าน ควรที่จะไม่ออกนอกบ้าน แต่ไม่ได้สั่งห้ามทันที  แต่ควรร่วมมือ คือบุคคล 3 ประเภท ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการแพทย์ระบุว่ามีความเสี่ยงสูงมาก จึงขอให้อยู่ที่บ้าน เว้นแต่จะออกไปทำธุรกิจ ธุรกรรมบางอย่างที่จำเป็น ประกอบด้วย บุคคลที่สูงอายุเกินกว่า 70 ปี  บุคคลอายุเท่าไหร่ก็ตามที่เป็นโรคประจำตัว  และ เด็กอายุตั้งแต่ 5 ขวบลงมา ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดโรคสูงมากเป็นขอให้อยู่กับบ้าน เว้นแต่จะออกมาทำกิจกรรมต่าง ๆ

นายวิษณุ กล่าวว่า อีกเรื่องนึงคือเรื่องการเดินทางไปต่างจังหวัด หรืออยู่ต่างจังหวัดกลับเข้ามาในกรุงเทพฯ การเดินทางข้ามจังหวัดยังอยู่ในมาตรการควรทำตามข้อกำหนดฉบับที่ 1 ขณะนี้ไม่ได้ห้ามยังสามารถเดินทางได้ แต่จะมีมาตรการเข้าไปเกี่ยวข้อง จนทำให้การเดินทางยากและลำบาก โดยฝ่ายความมั่นคงจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กองอาสาสมัครไปตั้งจุดสกัดหรือด่าน โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างจังหวัด และตรวจสอบยานพาหนะว่ายืนหรือนั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตรหรือไม่,ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าหรือไม่ ,มีการตรวจวัดอุณหภูมิ      เจลล้างมือทำความสะอาด ,ตรวจดูว่ามีการดื่มสุราบนยานพาหนะหรือไม่ ซึ่งอาจจะดำเนินคดีได้ 

หรือบางกรณีมีมาตรการข้อกำหนดอนุญาตให้ทำได้ซึ่งกระทรวงมหาดไทยกำลังจะร่วมกับกระทรวงคมนาคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติหาทางปิด Application ติดตามตัวแก่ผู้โดยสารทั้งหลาย ที่สำคัญต้องเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อให้กรอกแบบฟอร์ม เพื่อตรวจสอบติดตามหากมีการแพร่ระบาดไวรัส และอาจจัดการคนที่เกี่ยวข้องซึ่งรัฐจำเป็นต้องมีข้อมูลโดยหลักคือสามารถเดินทางได้แต่จะไปโดยยากลำบาก 

ข้อกำหนดฉบับที่ 2 และ 3 เตรียมจะออกแต่ยังไม่ออกจะมีความเข้มข้นขึ้น อาจออกเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 

นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ปิดประเทศ ให้คนไทยกลับเข้ามาได้ แต่ปิดสำหรับชาวต่างประเทศ ไม่สั่งให้ปิดบ้านสามารถเดินทางได้ออกนอกบ้านได้ไม่จำกัดเวลายังไม่ประกาศเคอร์ฟิว  แต่มีข้อแนะนำสำหรับทุกคนสามประเภทที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดโรค  โรงงาน ธนาคาร เปิดตาม ปกติ ห้างสรรพสินค้าเปิดเฉพาะที่ กทม. แถลง ห้ามกักตุนสินค้า ประชาชนสามารถสั่งสินค้าผ่านเดลิเวอรี่ ออนไลน์ ยังไม่มีคำสั่งห้ามออกจากบ้าน  สื่อมวลชนสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ ไม่ปิดสถานี แต่จะเข้มงวดกับสื่อที่นำเสนอข่าวบิดเบือนเกี่ยวกับโควิด-19 

นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่จะส่งผลให้มีการประกาศเคอร์ฟิว จะมีการพิจารณารายวันทุกวัน และประเมินจากข้อมูลสถานการณ์ คนเจ็บ คนตาย และความน่ากังวลของการแพร่ระบาด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ประเมิน สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บาท

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการกักตุนอาหารในเวลานี้ว่า การกักตุนอาหารไม่มีนิยาม แต่จะปรากฎตามข้อเท็จจริง จะพยายามตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่ถึงขั้นต้องดำเนินคดีกับผู้กักตุนอาหารหรือไม่นั้น ก็ต้องดูอีกครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นการประกาศจำกัดโควต้าในการซื้อสินค้า ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รับผิดชอบ

ส่วนการขนส่งสาธารณะนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีการห้ามการเดินทาง เพียงแต่จะเข้มงวดในการจัดระเบียบเรื่องการจัดที่นั่งเว้นที่นั่งของรถสาธารณะทุกชนิด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกำลังหารือกับนายกรัฐมนตรี ขณะที่กระทรวงมหาดไทย ก็กำลังหารือกับนายกรัฐมนตรีเรื่องช่วยฝ่ายความมั่นคงตั้งจุดสกัดคัดกรองระหว่างจังหวัดเช่นเดียวกัน วันนี้ขออย่าถามว่าถึงระดับ 3 หรือไม่ ให้แพทย์เป็นผู้ชี้แจง เพราะมาตรการขณะนี้ไปถึงระดับ 10 แล้ว

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีการเดินทางข้ามจังหวัดในการทำงานเช่น ผู้ที่อาศัยอยู่ปริมณฑลอย่าง นนทบุรี สมุทรปราการ แล้วต้องเดินทางมา กทม.ว่า ยังสามารถเดินทางมาได้ เพียงแต่ต้องผ่านจุดสกัด ทั้งนี้ หากเดินทางไปกลับบ่อยมาก ก็อาจจะมีใบอนุญาตออกให้ เพียงแต่ต้องมีการวัดอุณหภูมิทุกครั้งเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในข้อกำหนด ได้ย้ำมาตรการป้องกันโรคสำหรับทุกคนที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 5 ข้อ คือ สถานที่ต้องทำความสะอาด ปราศจากขยะมูลฝอย ไม่แออัดยัดเยียด มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ทุกคนต้องสวมหน้ากาก หมั่นใช้สบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 

ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าข่าย 3 กลุ่ม และไม่มีบ้านพักอาศัยนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ขอให้แจ้งให้รัฐบาลทราบ ผ่านทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือศูนย์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาลได้ ซึ่งสถานที่ที่รัฐเตรียมเอาไว้ ก็เพื่อรองรับผู้ที่ต้องกักตัวเอง ผู้ที่ต้องกักกัน และผู้ที่ติดโรคแต่สถาบันบำราศนราดูรรับไม่ได้

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่สถานการณ์โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ประกอบกับมีสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ มีพิธีการซึ่งรัฐบาลได้นำความกราบบังคมทูลว่า งานใดที่เป็นราชพิธีซึ่งมีหมายของพระราชวัง ยังจัดได้ภายใต้มาตรการป้องกันโรค 5 ประการ เช่น วันจักรี วันสงกรานต์ วันฉัตรมงคล จัดผู้คนให้เหลือน้อย จัดสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรการ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนด และงานที่ทางรัฐบาลเคยจัด อย่าง งานสโมสรสันนิบาตนั้น รัฐบาลได้ขอพระราชทานเลื่อนหรืองด  รวมถึงงานพระราชทานปริญญาบัตรช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน รัฐบาลก็ได้ขอพระราชทานเลื่อนหรืองด ซึ่งก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นไปตามนั้น

ส่วนที่มีแพทย์เตือนว่า หากภายใน 30 วันยังไม่มีการปิดเมือง จะทำให้มีผู้ติดเชื้อมากถึง 3 แสนคนนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า มีการประเมินสถานการณ์รายวันอยู่แล้ว ไม่ได้อยากจะบอกว่ารัฐรับความเสี่ยงได้ ซึ่งรัฐประเมินอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ทั้งหมดรัฐฟังภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น รัฐไม่สามารถหยั่งรู้เองได้อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]