รัฐขอให้คนเดินทางกลับต่างจังหวัดกักตัวเอง 14 วัน

ทำเนียบฯ 23 มี.ค.- “เทวัญ” เผย รัฐบาลห้ามคนเดินทางกลับต่างจังหวัดไม่ได้ แต่ขอให้กักตัวเอง 14 วัน กำชับจังหวัดทำแผน ป้องกันโรคระดับชุมชน หมู่บ้าน ประธานสมาคมธนาคารไทย ยันเงินสดมีเพียงพอ เอทีเอ็มกดใช้ได้ ธนาคารพร้อมให้บริการ  ด้านมหาดไทย มอบผู้ว่าคัดกรอง สั่งกักตัว 14 วันกลุ่มเสี่ยง ตามความเหมาะสม


นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  แถลงผ่านศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาลว่า สถานการณ์ผู้ป่วยที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ในวันนี้ 122 ราย และมียอดผู้ป่วยสะสม 721 ราย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานมานั้น รัฐบาลยังต้องขอความร่วมมือประชาชน ในเขต กทม. และปริมณฑล ให้อยู่บ้าน งดเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งหลังจากมีประกาศจากกรุงเทพมหานคร ปิด สถานที่หลายแห่ง จนประชาชนและแรงงานต่างด้าวกลับภูมิลำเนา เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถห้ามได้ จึงมีมาตราการรองรับที่ต่างจังหวัดด้วยการให้แต่ละจังหวัดทำแผน ป้องกันโรคระดับชุมชน หมู่บ้าน และขอให้คนที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ แยกตัวพร้อมสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมมนตรี กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้เดินทาง ออกจากกรุงเทพฯ รัฐบาลอยากให้อยู่ในกรุงเทพฯ ต่อไปก่อน เพราะกังวลว่าอาจเป็นผู้นำเชื้อไปติดญาติ ส่วนคนไทยที่เสียชีวิตที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ กระทรวงการต่างประเทศจะให้ความช่วยเหลือและประสานงานในเรื่องนี้ต่อไป 


นายเทวัญ กล่าวว่า ทางรัฐบาลจีนได้บริจาค เวชภัณฑ์ชุดตรวจคนไข้ตลอดจนหน้ากากอนามัยให้กับประเทศไทยซึ่งทางรัฐบาลไทยขอขอบคุณรัฐบาลจีนเป็นอย่างสูง ขณะเดียวกันคณะกรรมการเยียวยา เตรียมมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ซึ่งจะมีการเสนอรายละเอียดในการประชุมครม.วันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.)

ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องคำสั่งปิดสถานที่ต่าง ๆ เป็นการชั่วคราว ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทวีความรุนแรงมากขึ้น เป็นที่มาให้ทาง กทม.ต้องดำเนินการไม่ให้สถานการณ์การระบาดดังกล่าวขยายวงกว้าง จึงได้ประชุมร่วมกับทีมแพทย์โรงพยาบาลในพื้นที่ กทม. อาทิ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฯลฯ ซึ่งลงความเห็นว่าวิธีป้องกันยับยั้งไม่ให้ผู้คนเดินทางออกจากบ้านหรือมาอยู่รวมกัน โดยเฉพาะในสถานที่ปิด ห้างสรรพสินค้า สนามมวย ฯลฯ ทั้งยังป้องกันไม่ให้ผู้คนเคลื่อนย้าย ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทาง กทม. จึงออกมาตรการประกาศดังกล่าวออกมา 

โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ส่วนที่มีคำถามว่าภายหลังจากมีคำสั่งดังกล่าว ส่งผลให้มีประชาชนเดินทางกลับบ้านจนแน่นสถานีขนส่งหมอชิตนั้น การเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนนั้นอยู่เหนืออำนาจของ กทม.ในการสั่งห้ามเดินทาง แต่ข้อมูลตัวเลขผู้โดยสารที่เดินทางกลับด้วยรถโดยสารประจำทาง พบว่า 90% เป็นผู้ใช้แรงงานต่างชาติ ลาว เมียนมา กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่าน ขณะที่อีก 10% เป็นพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 


ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า ส่วนธนาคารที่อยู่ทั้งใน-นอกห้างสรรพสินค้า เปิดให้บริการตามปกติ  ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ทุกแห่งยังคงเปิดให้บริการตามปกติ  แต่เป็นการให้ซื้อกลับไปรับประทานเท่านั้น ยกเว้นในพื้นที่สนามบินที่จะยังคงมีโต๊ะให้นั่งรับประทาน แต่จะมีมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย

นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้โรคระบาดไปไกลที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา สถานการณ์นี้จึงต้องการความร่วมแรงร่วมใจและปฎิบัติตามที่กระทรวงสาธารณสุข และแพทย์แนะนำ สำหรับการแพร่เชื้อทางอากาศที่หลายคนวิตกกังวลว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถอยู่ในอากาศได้นานขึ้นนั้น ขอชี้แจงว่าเชื้อไวรัสฯนี้สามารถแพร่เชื้อได้ทางอากาศแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล แต่พบไม่มาก ดังนั้นในทางการแพทย์จึงแนะนำให้ใส่หน้ากาก n95 

นายแพทย์ทวี  กล่าวว่า ขอแนะนำประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน ให้ทยอยกันเดินทาง อย่าไปเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะมีโอกาสสูงในการแพร่เชื้อได้ และเมื่อกลับถึงบ้านให้ล้างมือ ทำความสะอาดร่างกาย ใส่หน้ากากอนามัย ก่อนมาพบครอบครัว สิ่งสำคัญคือต้องระวัง ไม่พาตัวเชื้อไปแพร่เชื้อเพิ่มและอดใจกักตัวเองไว้ 14 วัน เพราะถึงแม้จะไม่แสดงอาการ แต่ก็มีโอกาสที่เชื้อจะอยู่ในระยะอาการน้อย หรือฟักตัวแล้วกลับไปแสดงอาการที่บ้านได้

นายสมคิด  จันทมฤก  รองปลัดกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย  กล่าวถึงมาตรการการรองรับคนในกรุงเทพฯเดินทางกลับภูมิลำเนา เพราะอาจจะเป็นเสียงนำเชื้อโรคไปต่างจังหวัดว่า ได้วางกรอบแนวทางโดยมีทีมดูแล ค้นหา เฝ้าสังเกตการณ์ ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ผู้ช่วยสารวัตร เจ้าหน้าที่ อสม. ผู้ที่นายอำเภอแต่งตั้ง ซึ่งทีมดังกล่าวจะกระจายอยู่ทุกหมู่บ้านทุกตำบล นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเน้นย้ำให้ดูแลผู้สูงอายุเพิ่มเติม เพราะเสี่ยงการติดเชื้อ โดยมี อสม. ให้คำแนะนำเป็นพิเศษ รวมถึงมีแผนปฏิบัติการจะดูแลผู้กักตัวที่เดินทางจาก กทม.ให้ครบ 14 วัน

ส่วนกรณีที่มีคนไม่ยอมกักตัวและยังใช้ชีวิตตามปกติ จะสามารถกำกับดูแลควบคุมได้อย่างไรนั้น นายสมคิด กล่าวว่า หากฝ่าฝืนไม่ยอมกักตัว ก็จะมีโทษทั้งจำและปรับ ลำดับแรกจะขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ หากไม่ปฏิบัติตาม เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่แต่งตั้งโดยกระทรวงมหาดไทยก็สามารถเอาผิดได้

ขณะที่นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ยืนยันมีเงินสดเพียงพอที่จะให้ประชาชนมาเบิกถอนนำไปใช้จ่ายได้ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ผ่านตู้เอทีเอ็มในระบบของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ 54,000 ตู้ ในส่วนของสาขาธนาคารต่างๆ นับรวมทั้งสาขาที่อยู่ในและนอกห้างสรรพสินค้า ปัจจุบันมี 6,800 กว่าแห่ง ซึ่งธนาคารทุกแห่งยังเปิดให้บริการตามปกติ และยังมีช่องทางการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ทางอินเตอร์เน็ต และทางโมบายแบงค์กิ้ง

นายปรีดี กล่าวว่า สำหรับการให้บริการเรื่องสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อผู้ประกอบการและสินเชื่อบุคคลที่ใช้บริการกับธนาคารต่างๆ กว่า 3-4 ล้านราย ยังให้บริการเป็นปกติ แม้การค้าขายจะมีอาการหยุดชะงักไปบ้าง จึงมีมาตรการต่างๆ เช่น การพักชำระเงินต้น หรือการพิจารณาว่าลูกค้ารายใดมีความสามารถในการชำระลดลงไป เราจะช่วยเหลือลูกค้าได้ประมาณ 3 หมื่นราย ซึ่งความช่วยเหลือในส่วนนี้จะต้องมาเรื่อยๆ

“ในเรื่องของสภาพคล่องทางธนาคารพาณิชย์ได้ร่วมมือกับทางภาครัฐ ซึ่งทางภาครัฐได้จัดเตรียมวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารออมสินมาให้ทางธนาคารพาณิชย์เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับลูกค้าในวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 2% ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในส่วนนี้แล้ว นอกจากนี้ภาครัฐยังมี บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันลูกค้าให้กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินถึง 6 หมื่นล้านบาท”

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโควิด19 อย่างเป็นทางการ รวมอยู่ในเวปไซด์ของทำเนียบรัฐบาล www.thaigov.go.th และเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะใช้ยาแรงหากมีความจำเป็น โดยก่อนตัดสินใจจะสอบถามข้อมูลรอบด้านจากทุกฝ่าย  ส่วนมาตรการเยียวยา ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกจ้าง โดยในที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้จะมีมติออกมาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในหลายด้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]