เตือนคนทุจริตเคลมโควิดหวังเงินประกันผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 22 มี.ค. – สมาคมประกันวินาศภัยไทยเตือนคนทุจริตเคลมประกันภัยโควิด-19 หาทางติดเชื้อ หวังเงินประกันมีความผิดตามกฎหมาย และจะไม่ได้รับการชดใช้เงินตามสัญญาประกันภัย


นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนสนใจทำประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองโรคดังกล่าวจำนวนมาก ขณะนี้มีผู้ทำประกันแล้วกว่า 2 ล้านกรมธรรม์ โดยปัจจุบันกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 มีหลายแบบให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ตามความต้องการ เช่น 1. ความคุ้มครองกรณีตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือเจอ จ่าย จบ 2. ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลจากการติดเชื้อ 3. คุ้มครองการเจ็บป่วยขั้นโคม่าและเสียชีวิต และ 4. การชดเชยรายได้กรณีพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และบางกรมธรรม์มีการแถมความคุ้มครองการเสียชีวิตและทุพพลภาพจากอุบัติเหตุทุกชนิดด้วย ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของตนเองได้

ซึ่งช่วงแรกกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองแบบเจอ จ่าย จบ ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมาก แต่จากการที่อัตราการระบาดของโควิด-19 ช่วงหลังนี้มีความรุนแรงต่างจากช่วงแรกมาก ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนอัตราการการระบาดประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 50 คน แต่ปัจจุปันเพิ่มขึ้นกว่า 600 คนแล้ว ประกันแบบเจอ จ่าย จบ จึงมีโอกาสจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูง เพราะความถี่คนที่ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น การกำหนดอัตราเบี้ยก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุ ถ้าความเสี่ยงสูงขึ้นต้องมีการปรับขึ้นค่าเบี้ยประกันภัยหรือจำกัดเงื่อนไขสำหรับคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การกำหนดให้มีระยะเวลารอคอย 14 วัน เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงของบริษัทลง ซึ่งการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยออกมาขายแต่ละครั้ง บริษัทจะต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงสะสมที่ได้รับประกันภัยไว้ และบริษัทมีสัญญาประกันภัยต่อรองรับขนาดไหน บริษัทมีสถานะเงินกองทุนที่มั่นคงเพียงใด ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ก็สามารถรับประกันภัยได้มาก บริษัทเล็กก็รับได้น้อย จึงเป็นข้อจำกัดของแต่ละบริษัทจะเห็นว่าบางบริษัทขายเต็มจำนวนเต็มขีดความสามารถในการรับแล้วก็ต้องหยุดการขาย เพราะไม่มีเงินกองทุนเพียงพอที่จะรองรับได้ 


ส่วนแนวโน้มการเติบโตของการประกันภัยโควิด-19 มองว่ายังสามารถเติบโตได้อีก เพราะว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะจบลงเมื่อใด ยังคงขายต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับภาครัฐออกนโยบายเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 ว่าหากมีประกันสุขภาพหรือประกันภัยโควิด-19  ที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลก็ควรเคลมประกันภัยก่อน เพื่อแบ่งเบาภาระของรัฐ ส่วนใครที่มีประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองที่เพียงพอแล้วก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม แต่คนที่ยังไม่มีประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพ ประกันภัยโควิด-19 ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะราคาไม่สูงมากและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสถานการณ์เช่นนี้ได้เป็นอย่างดี

นายอานนท์ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มคนตระเวณซื้อกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 แบบเจอ จ่าย จบ จำนวนหลายกรมธรรม์เกือบทุกบริษัทและประกาศว่าจะยอมเสี่ยงให้ตนเองติดเชื้อ เพื่อจะได้เงินค่าสินไหมทดแทนว่า  การกระทำลักษณะนี้ถือว่าไม่ใช่การบริหารความเสี่ยงภัยของตัวเอง แต่เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ  ซึ่งกลุ่มคนที่มีความคิดและกระทำเช่นนี้ถือว่าอันตรายมาก เพราะจะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงและจะเป็นเครื่องมือในการแพร่กระจายของโรคมากขึ้น เพราะไม่กลัวและยอมให้ตัวเองเสี่ยงที่จะติดโรค สิ่งเหล่านี้จะทำให้ระบบประกันภัยและระบบการควบคุมการระบาดของโรคเสียหายไปด้วย ขอเตือนกลุ่มคนที่กระทำการลักษณะนี้ว่าการประกันภัยจะให้ความคุ้มครองเฉพาะผู้เอาประกันภัยที่ใช้สิทธิ์โดยสุจริตเท่านั้น หากพิสูจน์ได้ว่าใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต ทำประกันภัยและจงใจให้ตัวเองติดเชื้อเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและจะไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทน 

นอกจากนี้ อยากให้ผู้บริโภคตระหนักว่า “การประกันภัยเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ไม่ใช่เครื่องมือเสี่ยงโชค” ใครมีความเสี่ยงเท่าไหร่ก็ซื้อประกันภัยให้เหมาะสม ครอบคลุมกับความเสี่ยงของตัวเอง กลัวการซื้อประกันภัยจำนวนมากแล้วไปแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ อยากให้ซื้อเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงของตัวเองมากกว่า 


“อยากคุ้มครองประชาชนผู้สุจริตให้มีหลักประกันราคาถูกที่สุดเพียง 99 บาท ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงการประกันภัยมาช่วยดูแลตัวเองได้ โดยใช้เงินแค่ไม่ถึง 100 บาท ก็ซื้อกรมธรรม์ได้แล้ว อยากให้คนกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบประกันภัยมากขึ้น รู้จักการใช้ประกันภัยเป็นเครื่องมือในการดูแลตัวเองในยามที่ประสบเคราะห์ร้าย และอยากจะฝากไว้สำหรับผู้แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบว่าประกันภัยเป็นการช่วยบริหารความเสี่ยง ไม่ใช่การเสี่ยงโชค” นายอานนท์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]