รัฐบาลประกาศยกเลิก VOA 18 ประเทศ- Free Visa 3 ประเทศ

ทำเนียบฯ 11 มี.ค.-รัฐบาล ออกมาตรการเข้มรับมือโควิด-19 ยกเลิกฟรีวีซ่า 3 ประเทศ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง และ Visa on Arrival ( VOA)  18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ (ไต้หวัน) สั่งปิดศูนย์กักตัวสัตหีบ และทั่วประเทศ ให้กักตัวที่บ้านพักแทน ตั้งเจ้าพนักงานมาดูแล หากผ่าฝืนดำเนินคดีตามกฏหมายเด็ดขาดทั้งจำและปรับ ยันมาตรการที่ออกมาไม่ได้ปิดประเทศ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งด่วน เพื่อติดตามและรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 หลังจากพบการแพร่ระบาดในต่างประเทศมากขึ้น

ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมแถลงข่าว 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะมีการคัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้าประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้มงวดขึ้นโดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยมีการคัดกรองมาตั้งแต่ประเทศต้นทาง จึงขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตาม ต่อจากนี้สถานการณ์อาจจะควบคุมต่อไปไม่ได้ และเพื่อไม่ให้ประเทศเข้าสู่ระดับที่ 3 จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติมออกมา ขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่ 2 

นายกรัฐมมนตรี กล่าวว่า มีข้อเสนอให้ปิดประเทศ แต่รัฐบาลคงไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจะส่งผลกระทบตามมาในหลายด้าน แต่การเข้มงวดในการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวน้อยลง จึงขอให้ผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิการทำงานของรัฐบาลตาม Social Media ใช้คำสุภาพ และรู้สึกไม่สบายใจ  

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เพื่อลดโอกาส เสี่ยงของการแพร่ระบาดในอนาคต จึงจะใช้อำนาจตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง ประกาศยกเลิก Visa on Arrival (VOA) 18 ประเทศเป็นการชั่วคราว หากนักท่องเที่ยวจาก 18 ประเทศดังกล่าวต้องการเดินทางเข้ามาประเทศไทยจะต้องไปติดต่อสถานทูตไทยในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังให้ยกเลิก Free Visa เป็นการชั่วคราวกับนักท่องเที่ยว 3 ประเทศ คือ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศจะต้องผ่านการตรวจร่างกายและมีใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 3 วัน มายืนยันกับสถานทูต หรือสถานกงศุล เพื่อเป็นการยืนยัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย  และหากชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน เมื่อผ่านเข้ามาประเทศไทย จะต้องถูกกักตัวไว้ ที่โรงแรมโนโวเทล สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากไม่ยินยอมจะส่งกลับประเทศต้นทางทันที สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง กระทรวงคมนาคมจะจัดรถรับส่งตั้งแต่สนามบินจนถึงบ้านพัก และไม่อนุญาตให้แวะส่งกลางทาง การดำเนินการมาตรการต่าง ๆ จะใช้ อำนาจตามมาตรา 16 ของกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ 

” มาตรการนี้ถือเป็นการคัดกรองจากประเทศต้นทาง โดยคนที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องได้รับอนุญาตจากสถานทูตในประเทศนั้น ๆ จะต้องมีใบรับรองแพทย์และต้องได้รับการยืนยันว่า มีสุขภาพแข็งแรงไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขึ้นเครื่องบินเดินทางไปไหนมาไหนได้ ในส่วนนี้เป็นไปตามมาตรฐานการบินสากล ที่จะมีการคัดกรองในอีกชั้นหนึ่ง ดังนั้นคนไทยที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศก็อาจจะมีขั้นตอนการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะปิดศูนย์ควบคุมที่ อำเภอสัตหีบ และ ในจังหวัดต่าง ๆ โดยผู้ที่ถูกควบคุมในศูนย์ต่าง ๆ ทางสาธารณสุขจะส่งแพทย์ไปตรวจคัดกรองเชื้อก่อนส่งไปเฝ้าระวังที่บ้านพักของตนเองในภูลำเนาต่าง ๆ จะมีการใช้อำนาจตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร เพื่อไปติดตามดูแลผู้ที่ถูกส่งกลับมาดูอาการต่อที่บ้านพักอย่างต่อเนื่อง และหากผู้ที่กลับมาไม่กักตัว หรือ ไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษตามกฎหมาย คือถูกจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ 

ถ้าหากกลับมากักตัวที่บ้านพัก อาจถูกกระแสต่อต้านจากคนในพื้นที่นั้น  พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนมีสิทธ์ กลับมาอยู่ในแผ่นดินไทย และหากต้องกลับ พื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือบ้านพัก ในภูมิลำเนาต่าง ๆ จึงอยากให้สังคมเข้าใจและอธิบายว่าการกลับมากักตัวจะมีเจ้าหน้าที่ ช่วยในการดูแลและตรวจตราหากพบว่ามีอาการป่วย ผู้ที่กลับมา และบุคคลในครอบครัวจะต้อง ถูกนำตัวไปทำการรักษา เพราะบ้านพักถือเป็นพื้นที่ควบคุม 

“กระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่าหากนำเอาบุคคลที่กลับจากประเทศเสี่ยง หรือบุคคลที่มีความเสี่ยง มากักตัวรวมกันเป็นจำนวนมาก โอกาสที่จะมีการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 สูง เหมือนกรณีของเรือ Diamond Princess  ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือจะต้องไปกักตัวอยู่บ้านพักภายในภูมิลำเนา โดยใช้เจ้าหน้าที่พนักงานที่แต่งตั้งขึ้นรวมถึงคนในครอบครัวช่วยดูแล” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวไม่ใช่เป็นการปิดประเทศ หรือห้ามคนเดินทางเข้าประเทศไทย แต่การที่จะเดินทางเข้าประเทศจะต้องมีเงื่อนไขบางประการที่มากขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการสากลที่สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงมาตรการดูแลการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ในหลายพื้นที่ จึงได้เรียกประชุมด่วน โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการเชิงรุก ปรับแผนการทำงานจากเดิม โดยสอบถามถึงแนวทางการปิดประเทศ ไม่ให้คนจาก 4 ประเทศเสี่ยง เข้ามายังประเทศไทย แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์กับประเทศนั้น ๆ 

พล.อ.อนุพงษ์ จึงสอบถามกระทรวงสาธารณสุขว่าหากไม่ปิดประเทศจะรับมือไหวหรือไม่ สำหรับบุคคลที่จะเข้าและออก จาก 4 ประเทศเสี่ยง ซึ่งผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะรับมือไหวหรือไม่ แต่เมื่อกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า ไม่ควรใช้แนวทางการปิดประเทศ จึงเป็นที่มาของมาตรการยกเลิกฟรีวีซ่า และ Visa On Arrival  

นายกรัฐมนตรี ได้ตำหนิและสั่งให้ฝ่ายบริหารไปฟังความเห็นจากลูกน้องผู้ปฏิบัติงานบ้าง ว่าจะปฏิบัติงานไหวหรือไม่ เพราะเท่าที่ได้รับการร้องเรียนมานั้น ผู้ปฏิบัติงานหลายคนเหนื่อยล้า ทำจะไม่ไหวอยู่แล้ว 

สำหรับรายชื่อ 18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ (ไต้หวัน) ที่สามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival มี  1. สาธารณรัฐบัลแกเรีย (The Republic of Bulgaria) 2. ราชอาณาจักรภูฏาน (Kingdom of Bhutan) 3. สาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) 4. สาธารณรัฐไซปรัส (Republic of Cyprus) 5. สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย (Federal Democratic Republic of Ethiopia) 6. สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ (The Republic of Fuji)

7. จอร์เจีย (Georgia) 8. สาธารณรัฐอินเดีย (Republic of India) 9. สาธารณรัฐคาซัคสถาน (The Republic of Kazakhstan) 10. สาธารณรัฐมอลตา (The Republic of Malta)11. สหรัฐเม็กซิโก (The United Mexican States) 12. สาธารณรัฐนาอูรู (The Republic of Nauru) 13. ปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea) 14. โรมาเนีย (Romania) 15. รัสเซีย (The Russian Federation) 16. ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (Kingdom of Saudi Arabia) 17. ไต้หวัน (Taiwan – China) 18. อุซเบกิสถาน (The Republic of Uzbekistan) 19. สาธารณรัฐวานูอาตู (The Republic of Vanuatu) ยกเลิก Free Visa 3 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]