กลุ่มผู้เสียหายคดีไนซ์รีวิว ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ชี้แจงกรณีปล่อยตัวผู้ต้องหา

กรุงเทพฯ 21 ก.พ.- กลุ่มผู้เสียหายคดีไนซ์รีวิว ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ชี้แจงกรณีปล่อยตัวผู้ต้องหา อัยการแจง ดีเอสไอส่งสำนวนท่ีให้สอบเพิ่มกลับมาไม่ทันฝากขัง 7 ผัด จำเป็นต้องปล่อยตัวไปตามกฎหมาย


กลุ่มผู้เสียหายคดีไนซ์รีวิว เกือบ 30 คน เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กับอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ขอให้ชี้แจงกรณีการปล่อยตัวผู้ต้องหาในคดี คือ นายณรงค์ อินลี เจ้าของบริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด หรือเจ้าของไนซ์รีวิว ที่หลอกลวงผู้เสียหายชวนลงทุนโดยเปิดเว็บไซต์และเฟซบุ๊กไนซ์รีวิว ให้ผู้เสียหายกดไลค์กดแชร์โปรโมทสินค้า 

คดีนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้นำสำนวนการสอบสวนจำนวน 350 แฟ้ม หรือประมาณ 121,000 แผ่น ไปส่งให้พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งยังเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับความผิดฐานฟอกเงินด้วย แต่ภายหลังกลับได้รับการปล่อยตัวไป โดยไม่มีหลักทรัพย์ประกัน ทั้งที่คดีนี้มีมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท และยังไม่มีการส่งฟ้องคดีนี้ ผู้เสียหายจึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม


อย่างไรก็ตาม หลังผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือ นายประยุทธ เพชรคุณ  รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายกิตติศักดิ์ วงศ์สวัสดิ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด คณะทำงานเจ้าของสำนวนคดีได้ชี้แจงว่า หลังจากดีเอสไอส่งสํานวนให้อัยการสูงสุด พนักงานอัยการได้ตรวจดูสำนวนแล้ว เห็นว่า สำนวนการสอบสวนของดีเอสไอที่ส่งมายังสอบสวนไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ อัยการจึงจำเป็นต้องส่งคืนสำนวนให้กับดีเอสไอ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่ง ดีเอสไอ ส่งสำนวนแก้ไขกลับมาให้ไม่ทัน ก่อนที่ผู้ต้องหาจะครบกำหนดฝากขัง 7 ฝาก ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาไปตามกฎหมาย เพราะหมดอำนาจการควบคุมตัว เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

สำหรับประเด็นที่อัยการ เห็นว่าดีเอสไอต้องไปแก้ไขสำนวน มีถึง 7 ประเด็นประกอบด้วย 

1.ให้สอบผู้เสียหายเพิ่มเติมอีกกว่า 1,000 ปาก ที่ยังไม่มีการสอบสวนเลยเนื่องจากเป็นผู้เสียหายที่เข้าร้องทุกข์ภายหลัง โดยให้ตอบทั้งประเด็นพฤติกรรมการถูกหลอกและมูลค่าความเสียหาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระบุในสำนวนเพื่อให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 


2.ให้นำผู้เสียหายที่ไปแจ้งความกับตำรวจภายหลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษมารวมในสำนวนเดียวกัน

3.ให้ DSI ตรวจสอบเว็บไซต์ไนซ์รีวิว ว่าเปิดขึ้นในประเทศหรือต่างประเทศ เพราะหากเป็นเว็บที่เปิดขึ้นในต่างประเทศ จะกลายเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุด ดีเอสไอไม่มีอำนาจในการสอบสวน

4.ในสำนวนยังพบพฤติกรรมของผู้เสียหายบางรายซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีนี้รวมอยู่ด้วย จึงให้ดีเอสไอไปแก้ไขให้ถูกต้อง 

5.ให้ใส่รายละเอียดการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ ว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่างไร 

6.ให้ระบุพฤติการณ์ว่าผู้กระทำผิดข้อหาฟอกเงินมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินอย่างไร

7.ให้สรุปสำนวนคดีใหม่

ส่วนหลังจากนี้ หากดีเอสไอทำสำนวนแล้วเสร็จ และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ดีเอสไอก็จะเป็นผู้ไปนำตัวผู้ต้องหากลับมาฟ้องคดีต่อไป 

ขณะที่สำนวนการยึดอายัดทรัพย์สินของ ปปง. ซึ่งมีมติอายัดทรัพย์สินไว้แล้วกว่า 200 ล้านบาท ก็จะต้องส่งสำนวนให้อัยการภายใน 90 วันหลังอายัด เพื่อให้อัยการไปฟ้องต่อศาลแพ่ง ให้ศาลมีคำสั่งเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้เหลืออีกประมาณ 20 วันเศษ อัยการเชื่อว่าสำนวนของ ปปง. จะสามารถส่งได้ทันตามกำหนดอย่างแน่นอน เพราะมีความสลับซับซ้อนน้อยกว่าสำนวนคดีอาญา ดังนั้นทรัพย์สินที่อายัดไว้ จะไม่มีการเพิกถอนการอายัด ซ้ำรอยสำนวนคดีอาญาแน่นอน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]