สภาอุตฯ เสนอวิธีลด PM 2.5

กรุงเทพฯ 27 ม.ค. – ส.อ.ท.ห่วงปัญหา PM2.5 พร้อมเสนอชุดมาตรการต่าง ๆ ที่ควรทำรวมถึงการใช้รถไฟฟ้า(EV)สำหรับรถสาธารณะ


หลังจากคณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอการยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤต และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการนั้นสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย( ส.อ.ท.) ระบุว่า ส.อ.ท. มีความกังวลในการขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ จากวงแหวนรัชดาภิเษก เป็นวงแหวนกาญจนาภิเษก และห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ในวันคี่ ระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งอาจสร้างผลกระทบเป็นอย่างมาก อาทิ การดำเนินงาน บริหารจัดการพนักงานขับรถ และการขนส่งสินค้าให้เป็นไปตามกำหนดเวลา ซึ่งจะกระทบต่อทั้งการขนส่งภายในประเทศ และการขนส่งเพื่อส่งออกผ่านทางเรือขนส่ง ประกอบกับผู้ประกอบการอาจขาดสภาพคล่องจากการได้รับเงินล่าช้า นอกจากนี้ จะเกิดมลพิษเพิ่มทางอากาศในวันคู่ที่มีรถบรรทุกเข้ามาวิ่ง ซึ่งจะต้องมีการวิ่งรถในหลายเที่ยว เพื่อทดแทนวันคี่

ดังนั้น ทาง ส.อ.ท.จีงมีข้อเสนอและแนวทางดำเนินการของ ส.อ.ท. ในภาคขนส่งและโลจิสติกส์ ระยะเร่งด่วน ดังนี้  สนับสนุนการตรวจสอบสภาพรถ การทำความสะอาดท่อไอเสีย และห้ามรถที่ปล่อยควันดำวิ่งออกนอกโรงงาน มีมาตรการสนับสนุนให้รถยนตร์ใช้น้ำมันดีเซล B10 และ B20  มีมาตรการสนับสนุนโครงการการปรับปรุงสภาพเครื่องยนต์ ทั้งการหา Model และหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการฯ อาทิ การสนับสนุนค่าแรง การเปลี่ยนอะไหล่ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง มาตรการระยะยาว  ให้มีนโยบายให้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) สำหรับรถสาธารณะ เช่น รถประจำทาง รถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง 


สำหรับข้อเสนอและแนวทางดำเนินการของ ส.อ.ท. ในภาคอุตสาหกรรม ระยะเร่งด่วน ให้ขอความร่วมมือให้โรงงานทำกระบวนการผลิตในการปรับหัวเผาไหม้ (Burner) ของหม้อไอน้ำ (Boiler) ให้มีการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ ขอความร่วมมือให้โรงงานทำการตรวจติดตามและป้องกันผลกระทบ ได้แก่ ขออความร่วมมือให้โรงงานอุตสาหกรรมทำความสะอาด (Big Cleaning) และให้มีการหยุดซ่อมบำรุงตามตารางดำเนินการ และในช่วงวิกฤต รวมถึง ตรวจสอบ ซ่อมบำรุง,  มีการทำความสะอาดอุปกรณ์กำจัด/บำบัดฝุ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องกรองฝุ่นหรือดักฝุ่น  จัดทำข้อมูลรายการชนิดของแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองของโรงงาน เพื่อตรวจสอบวิเคราะห์จุด Hot Spot ที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น และเพิ่มมาตรการในการตรวจติดตามและป้องกันอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการตรวจวัดปล่องระบายอากาศ จุดที่ทำให้เกิดฝุ่นให้ถี่ขึ้นกว่าเดิมเพื่อควบคุมและลดผลกระทบ

ส่วนมาตรการระยะยาว ส.อ.ท. จะขอความร่วมมือผ่านภาครัฐกับบริษัท Huawei ซึ่งมีประสบการณ์ในการสำรวจพื้นที่ในประเทศจีนว่ามีฝุ่นละออง (PM) ขนาดใดบาง ตามวิธีดำเนินการ เพื่อวางแนวทางแก้ไขฝุ่นละออง (PM) ของประเทศไทย ในระยะยาว และ ให้มีการใช้เชื้อเพลิงสะอาดในอุปกรณ์และเครื่องจักรของโรงงาน รวมทั้ง การขนส่งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ เช่น ก๊าซธรรรมชาติ เพื่อลดปัญหา PM 2.5 อย่างยั่งยืน  มีการให้การส่งเสริมเพื่อการสนับสนุนโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ให้มากขึ้น 

ด้านปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในภาคเกษตร การทำไร่พืชเชิงเดี่ยวอย่างข้าว ข้าวโพด และอ้อย ซึ่งการเผาทำให้เก็บเกี่ยวได้ง่าย แต่การฝังกลบหรือกำจัดวัชพืชด้วยวิธีฝังกลบมีค่าใช้จ่ายสูง ประกอบกับเกษตรกรขาดแคลนแรงงาน และขาดแคลนเงินทุนในการจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงเกษตรกรเร่งรีบในการปลูกในรอบถัดไป จึงทำให้การเผาเป็นวิธีเดียวที่เลือกใช้ทำการเกษตร เนื่องจากง่าย รวดเร็ว และต้นทุนต่ำ การเผาในที่โล่งในภาคการเกษตรเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM ในบรรยากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาป่า


ข้อเสนอและแนวทางดำเนินการของ ส.อ.ท. ในภาคเกษตร เสนอให้มีการร่วมตัวและแบ่งปันอุปกรณ์ เครื่องมือทางการเกษตร ในรูปเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ในแต่ละจังหวัดจัดทำเป็นรายพื้นที่ โดยนำรูปแบบของจังหวัดชัยนาทมาเป็นต้นแบบในการดำเนินการ ซึ่งมีการร่วมกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ และใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในการเก็บเกี่ยวร่วมกัน ขอให้ภาครัฐให้เกษตรกรสามารถกู้ยืมเต็มจำนวนในการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร โดยผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือผ่านกองทุนหมู่บ้าน ขอให้ภาครัฐสนับสนุนการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร โดยวิธีการใช้งบประมาณกองทุนหมู่บ้านร้อยละ 50 และเกษตรกรจ่ายเองร้อยละ 50  สนับสนุนการวางแผนการปลูกพืช (Crop Planning) โดยกำหนดให้มีระยะเวลาปลูกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวไม่พร้อมกัน และส่งผลดีกับการบริหารจัดการเครื่องจักรกลการเกษตรที่ใช้งานร่วมกันในพื้นที่ โดยจัดสรรน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะการปลูกอ้อยและข้าวโพด . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]