ปี 63 กรมโรงงานฯคุมเข้มรง.ปล่อยมลพิษ-เร่งพัฒนาอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-กรมโรงงานอุตสาหกรรมเผยปี 2562 สั่งปิดโรงงานไปแล้ว 6
โรงงานและสั่งแก้ปัญหากรณีถูกร้องเรียน 35 โรงงาน ส่วนแผนงานปี 2563 เน้นดำเนินงาน
4 แผนงาน มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ยุค 4.0 และยังเน้นตรวจเข้ม 5,000-6,000
โรงงาน ป้องกันความเสี่ยงน้ำเสีย อากาศเสีย กากอุตสาหกรรมและความปลอดภัย
  


นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวถึงผลการดำเนินในรอบปี
2562 ว่า ได้มีคำสั่งกรณีที่มีการร้องเรียนและตรวจพบว่าโรงงานมีการกระทำความผิด
โดยมีคำสั่งปิดโรงงานปี 2561 จำนวน 4 โรงงาน และในปี 2562 จำนวน 6 โรงงาน
พร้อมทั้งสั่งการให้ดำเนินการแก้ไขปี 2561 จำนวน 36 โรงงาน และปี 2562 จำนวน 35
โรงงาน ส่วนกรณีการทิ้งกากอุตสาหกรรมที่จังหวัดสระแก้ว
ถือเป็นหนึ่งในกรณีที่มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้เวลาเพียง 12 วัน
ดำเนินการตั้งแต่การตรวจสอบ การดำเนินคดี และการสั่งปิดโรงงานชั่วคราว

นอกจากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม
ยังประสานการทำงานแบบบูรณาการโดยตรวจกำกับร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆ
นอกเหนือจากการทำงานตามปกติ เช่น บูรณาการทำงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงแรงงาน ตรวจกำกับด้านความปลอดภัย
บูรณาการในการตรวจกำกับดูแลกับหน่วยราชการอื่น ตามพ.ร.บ.โรงงาน
และพ.ร.บ.วัตถุอันตราย เช่น
การดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้ว
(เศษพลาสติก
E-Waste และ Used –E)   โดยทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด,
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์,
กรมศุลกากร, กรมควบคุมมลพิษ
และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ในจังหวัดที่มีปัญหา
รวมถึงการแก้ปัญหาเรื่องการอนุญาตนำเข้า-นำผ่านของสารโซเดียมไซยาไนด์ร่วมกับหน่วยงานต่าง


ส่วนผลงานด้านอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในรอบปี 2562 เช่น
การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมสู่
Factory 4.0, การอนุรักษ์และประหยัดพลังงาน
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทำความเย็นและหม้อน้ำในโรงงาน
, การส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้โรงงานปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
โดยได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรในโรงงาน
กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแล้วกว่า 2,131 เครื่อง หรือจำนวนโรงงาน 107 โรงงาน
,
การส่งเสริมสนับสนุนเพื่อยกระดับโรงงานเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียวจำนวน
2,921 ราย จากเป้าหมายที่ 2,000 ราย ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2554
ถึงปัจจุบันมีจำนวนโรงงานที่ได้รับเครื่องหมายอุตสาหกรรมสีเขียวแล้วกว่า 37,412
ราย
, ส่งเสริมโรงงานให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR-
DIW) จำนวน 353 ราย โดยปัจจุบันมีจำนวนรวมแล้วกว่า 4,547 ราย

สำหรับ ข้อมูลโรงงานที่เปิดใหม่และขยายกิจการในปี 2562 มี จำนวน 4,379
โรงงานลดลงจากปีก่อนร้อยละ 15.80 เกิดการจ้างงาน 207,602 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ
1.52  มีเงินลงทุน 483,672.29 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.86  
ส่วนโรงงานที่ขอเลิกกิจการมี 1,743 โรงงาน ลดลงร้อยละ 12.89  จำนวนคนงาน 43,987 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ
5.68  และจำนวนเงินทุน 56,562.52 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.10   

ด้านการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในปี 2563 น่ามีการตั้งและขยายโรงงานที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา 
เห็นได้จากสถิติย้อนหลังประกอบกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลด้านต่าง
ๆ ที่ทำให้โรงงานเข้ามาลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตามประเมินว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ภาคอุตสาหกรรมของไทยมีการปรับตัวตามแนวทางการพัฒนาของประเทศ
หรือการปรับตัวสู่อุตสาหกรรม 4.0 สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
เพราะภาคอุตสาหกรรมของไทยจะมีความพร้อมที่จะไปแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีศักยภาพ
และเป็นมิตรกับชุมชน
ซึ่งถือเป็นหัวใจของการส่งเสริมทิศทางภาคอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบัน


นายประกอบ กล่าวถึง แผนดำเนินงานในปี 2563 ว่า ปีนี้ กรมฯ เน้น 4
แผนงานหลัก ประกอบด้วย การดำเนินนโยบายการปกป้องสิ่งแวดล้อม และปราบปรามผู้ประกอบการที่กระทำผิด
จนเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแบบเข้มงวดมากขึ้น
  การพัฒนากฎหมาย และระบบดิจิทัล
เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
, การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้มีการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
และการพัฒนาบุคลากร

ด้านสิ่งแวดล้อมมีแผนในการตรวจกำกับโรงงาน 5,000 – 6,000 โรงงาน
เพื่อเฝ้าระวังเรื่องของความเสี่ยงด้านต่าง ๆ อาทิ น้ำเสีย อากาศ กากอุตสาหกรรม
ความปลอดภัย เกี่ยวกับสารเคมี อัคคีภัย ระบบไฟฟ้า หม้อน้ำ หลังจากพบว่าในปี 62
มีชาวบ้านหรือชุมชนร้องเรียนโรงงานที่สร้างความเดือดร้อนมายัง กรอ. จำนวน 594
เรื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 61 เล็กน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของกลิ่นเหม็นมากที่สุด
389 เรื่อง รองลงมาเป็นเสียงดังจำนวน 200 เรื่อง
, เรื่องฝุ่นละอองจำนวน 136 เรื่อง,
ทำงานกลางคืนจำนวน 89 เรื่อง และเรื่องเขม่าควันจำนวน 79 เรื่อง

ขณะเดียวกัน หากพบว่าโรงงานมีการปล่อยมลพิษทางกรมฯจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าระงับ
และจัดการ เพื่อความรวดเร็ว แม่นยำ
เนื่องจากกรมมีระบบรายงานมลพิษแบบอัตโนมัติต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ทั้งน้ำ อากาศ
และกากอุตสาหกรรม  รวมทั้งยังเดินหน้าพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและพัฒนาระบบอนุญาตและการกำกับดูแล
ทั้งข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการวัตถุอันตราย 
เชื่อมโยงเอกสารและข้อมูลประชาชนและบริการภาครัฐ  การนำระบบบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมและทำเนียบสารเคมีและวัตถุอันตราย
รวมถึงการผลักดันโครงการต่าง ๆ ที่จะช่วยลดมลพิษ

การดำเนินการตาม พ.ร.บ. โรงงานฉบับใหม่ นับเป็นงานใหม่ในปี 2563
ซึ่งนอกจากจะสร้างระบบ มาตรฐานในการบริหารจัดการ
และกำกับดูแลโรงงานให้มีความคล่องตัวและสร้างบรรยากาศการลงทุนที่มีความน่าสนใจ
สามารถดึงดูดนักลงทุนได้แล้วนั้น ยังมีเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการ
เช่น เรื่องการรับรองตนเองของผู้ประกอบการ และการกำกับดูแล
Third Party แล้วยังต้องอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรให้
สามารถปฏิบัติงานรองรับได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะประเด็น
การถ่ายโอนภารกิจให้แก่หน่วยงานท้องถิ่นในการกำกับดูแลโรงงาน

นอกจากนี้ ในปี 2563 จะผลักดันโครงการต่าง ๆ เช่น
โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว
ที่ส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียวเบื้องต้นมอบหมายให้
กองส่งเสริมเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมโรงงาน (กทส.)
ประสานการดำเนินการกับอุตสาหกรรมจังหวัดอย่างใกล้ชิด

โครงการอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนในพื้นที่ จะประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมจังหวัด
โดยแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มที่มีโรงงานอุตสาหกรรมหนาแน่น
กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
และกลุ่มพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และ
โครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสายหลัก เริ่มจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา
และคลองอู่ตะเภา ซึ่งจะขยายผลไปอีก 25 ลุ่มน้ำสายหลัก และโครงการอื่น ๆ
ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศการน่าลงทุน เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนและต้องเป็นการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่เคียงข้างชุมชนได้อย่างมีความสุข.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]