เกษตรฯ เสนอแผนฟื้นฟู-เยียวยาเกษตรกรเข้า ครม.วันนี้

กรุงเทพฯ 7 ต.ค. – ก.เกษตรฯ เสนอแผนฟื้นฟูเกษตรกรประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 62 และแผนส่งเสริมอาชีพเข้า ครม.วันนี้  คาดใช้งบประมาณ 5,400 ล้านบาท เน้นช่วยเหลือเกษตรกรกลับมาประกอบอาชีพได้ทันทีและสร้างรายได้ระยะเวลาอันรวดเร็ว 


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้จะเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติแผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกรที่ประสบทั้งภาวะฝนทิ้งช่วง เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนสิงหาคมและอุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลพายุโพดุลและคาจิกิตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมเป็นต้นมา 

ทั้งนี้ พื้นที่ที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงส่งผลให้พื้นที่การเกษตรเสียหายสิ้นเชิงมี 19 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี กำแพงเพชร เชียงราย น่าน นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว ลพบุรี สระบุรี และพัทลุง เกษตรกร 398,428 ราย พื้นที่ 4.64 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าว 3.83 ล้านไร่ พืชไร่-พืชสวนและอื่น ๆ 810,000 ไร่ สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยมี 30 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ แพร่ น่าน พิจิตร พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สกลนคร หนองคาย อำนาจเจริญ อุดรธานี อุบลราชธานี ตราด นครนายก กระบี่ สุรินทร์ และสระแก้ว พื้นที่เกษตรที่เสียหายสิ้นเชิง 1.20 ล้านไร่ เกษตรกร 139,888 ราย แบ่งเป็น ข้าว 1.14 ล้านไร่ พืชไร่-พืชสวนและอื่น ๆ 60,000 ไร่ และพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเสียหาย 3,686 ไร่ กระชัง 1,628 ตารางเมตร สัตว์ตายหรือสูญหาย 44,798 ตัว 


นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ผลจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นซ้ำซ้อนปีนี้ ทำให้รอบระยะเวลาการเพาะปลูกทางการเกษตรไม่เป็นไปตามฤดูกาลกระทบต่อปริมาณผลผลิต รายได้ลดลงจนอาจไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพและนำไปสู่การก่อหนี้สินเพิ่มขึ้น จึงต้องช่วยเหลือเยียวยาเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้ทันทีหลังน้ำลด กระทรวงเกษตรฯ จึงจัดทำแผนช่วยเหลือขึ้น 5 โครงการ กรอบวงเงิน 3,766.753 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วเขียว เกษตรกรเป้าหมาย 150,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1.4 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเกษตรกรเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ ให้ความช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริง รายละไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 844.074 ล้านบาท

2.โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/2564 เกษตรกรเป้าหมาย 827,000 ครัวเรือน เมล็ดพันธุ์ข้าว 63,200 ตัน พื้นที่ 6.32 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรไร่ละ 10 กิโลกรัม ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ วงเงิน 1,739.429 ล้านบาท ทั้งนี้ จะจัดส่งเมล็ดพันธุ์ข้าวกลุ่มไม่ไวแสงให้ช่วงเดือนกลางเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนธันวาคม 2562 ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกลุ่มข้าวไวแสงจะจัดส่งในฤดูกาลเพาะปลูกหน้า ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2563

3. โครงการพัฒนาเสริมทางเลือกอาชีพด้านประมงเป็นการเลี้ยงปลานิลในบ่อดิน เกษตรกรเป้าหมาย 50,000 ราย พื้นที่ 50,000 ไร่ โดยสนับสนุนพันธุ์ปลารายละ 800 ตัว และอาหารสัตว์น้ำ 120 กิโลกรัม วงเงิน 260 ล้านบาท 4. โครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมงในแหล่งน้ำชุมชน ซึ่งกรมประมงจะปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามในแหล่งน้ำชุมชนขนาดกลางหรือขนาดเล็ก 1,935 แห่ง ในพื้นที่ 129 อำเภอ จำนวน 200,000 ตัวต่อแห่ง วงเงิน 683.250 ล้านบาท 5. โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีกโดยมีเกษตรกรเป้าหมาย 48,000 ครัวเรือนซึ่งจะสนับสนุนเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเกษตรกรเพื่อซื้อพันธุ์ไก่ไข่และเป็ดไข่ ครัวเรือนละ 10 ตัว ไก่พื้นเมืองคละเพศครัวเรือนละ 30 ตัว พร้อมค่าอาหารและค่าวัสดุในการเลี้ยง วงเงิน 240.000 ล้านบาท


นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเสนอแผนปฏิบัติการส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่องแก่เกษตรกรที่เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติซ้ำซากและและความผันผวนทางเศรษฐกิจให้รายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงชีพ โดยเกษตรกรรายย่อยขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อใช้ฟื้นฟูหรือปรับเปลี่ยนอาชีพตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอ 2 โครงการ กรอบวงเงิน 1,634.14 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตและการกระจายเมล็ดพันธุ์ โดยส่งเสริมให้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว เกษตรกรมีเป้าหมาย 200,000 ครัวเรือน พื้นที่ 50,000 ไร่ เมล็ดพันธุ์ 45,000 ตัน วงเงิน 562.19 ล้านบาท และผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว เกษตรกรมีเป้าหมาย 10,500 ครัวเรือน พื้นที่ 5,000 ไร่ เมล็ดพันธุ์ 500 ตัน วงเงิน 23.50 ล้านบาท

2. โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ การเลี้ยงโคขุน เกษตรกรมีเป้าหมาย 100,000 ราย พันธุ์โคเนื้อ 500,000 ตัว โดยเกษตรกรกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาซื้อโคขุนรายละไม่เกิน 5 ตัวและสนับสนุนการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ซึ่งเกษตรกรจ่ายร้อยละ 30 รัฐสมทบร้อยละ 70 รวมทั้งค่าเบี้ยประกันภัย วงเงิน 706.750 ล้านบาท  การส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อสร้างอาชีพ ระยะที่ 3 มีเป้าหมาย เกษตรกรเป้าหมาย 10,000 ราย พันธุ์โคเนื้อ 50,000 ตัว โดยให้องค์กรเกษตรกรกู้ยืมเพื่อจัดหาปัจจัยให้แก่เกษตรกร รายละไม่เกิน 250,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 รัฐบาลสนับสนุนร้อยละ 3 และเกษตรกรสบทบร้อยละ 1 วงเงิน 110.500 ล้านบาท 

การพัฒนาศักยภาพตลาดนัดโค-กระบือ เกษตรกรเป้าหมาย 2,430 ราย โดยสนับสนุนเงินกู้สำหรับพัฒนาตลาดเข้าสู่มาตรฐาน 30 แห่ง จากทั้งหมด 118 แห่ง แห่งละไม่เกิน 3 ล้านบาท และสนับสนุนเงินกู้ให้แก่ผู้ค้าโค-กระบือ รายละไม่เกิน 200,000 บาท วงเงิน 17.100 ล้านบาท การเพิ่มปริมาณการผลิตโคเนื้อพันธุ์ดี เกษตรกรเป้าหมาย 10,000 ราย พันธุ์โค 1,008 ตัว โดยซื้อโคเนื้อพันธุ์ชาร์เบรย์ซึ่งเป็นลูกผสมพันธุ์ชาโรเล่ส์กับบราห์มัน โดยนำเข้าจากต่างประเทศ เป็นเพศเมีย 1,000 ตัว เพศผู้ 8 ตัว พร้อม ทั้งสนับสนุนค่าเครื่องจักรกลการเกษตร โรงเรือน วัสดุอุปกรณ์ วงเงิน 196.10 ล้านบาท  การก่อสร้างศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์โดยกรมปศุสัตว์จะขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และการส่งเสริมการเลี้ยงแพะเนื้อสร้างอาชีพ เกษตรกรเป้าหมาย 5,000 ราย โดยเกษตรกรกู้เงินจาก ธ.ก.ส. ซื้อแพะพ่อแม่พันธุ์รายละไม่เกิน 21 ตัวและแพะขุนรายละ 55 ตัว อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 รัฐบาลสนับสนุนร้อยละ 3 เกษตรกรสบทบร้อยละ 1 วงเงิน 18 ล้านบาท

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ตุลาคม 2562 – 30 กันยายน 2563 โดยขอให้ ครม. อนุมัติหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งใช้งบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 รวมทั้งสิ้น 5,400.893 ล้านบาท

“แผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยาฯ และแผนส่งเสริมอาชีพนี้จะช่วยให้เกษตรกรประกอบอาชีพได้ทันทีหลังน้ำลด ส่วนจะส่งเสริมให้ทำการเกษตรฯ ใดนั้น พิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่และปริมาณน้ำต้นทุนให้เหมาะสม โดยฤดูแล้ง 2562/2563 บางพื้นที่มีน้ำจำกัด จึงให้ปลูกข้าวโพดและถั่ว รวมถึงเลี้ยงสัตว์ ซึ่งใช้น้ำน้อยเชื่อมโยงแหล่งผลิตกับแหล่งรับซื้อ เพื่อจะได้ขายผลผลิตได้แน่นอน ที่สำคัญ คือ พันธุ์สัตว์และสัตว์น้ำที่แจกจ่ายกำหนดอายุให้สามารถจำหน่ายได้ภายใน 2 – 4 เดือน เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เร็วที่สุดและมีรายได้ต่อเนื่องจนกว่าจะถึงฤดูกาลเพาะปลูกหน้าเดือนพฤษภาคม 2563” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]