สองสาวร้องเรียนความจริงกลับตกเป็นผู้ต้องหา

กทม.26 ก.ค.-สองพี่น้องขอความเป็นธรรม หลังร้องเรียนโรงงานปล่อยมลพิษ จนศาลสั่งคุ้มครอง  สุดท้ายกลับตกเป็นผู้ต้องหา แจ้งความเท็จ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.สมจิตร สืบวงศ์นิรัตน์ พร้อม น.ส.สมหมาย น้องสาว นำเอกสารหลักฐานที่ถูกเจ้าของโรงงานกลึงโลหะ ย่านบางขุนเทียน กรุงเทพฯดำเนินคดี ฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน มาร้องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ว่าเป็นการแจ้งข้อหาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 

น.ส.สมจิตร และ น.ส.สมหมาย ระบุว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่ตนไปร้องต่อศาลปกครองให้ตรวจสอบกรณีพิพาทกับโรงงานกลึงโลหะ ที่ปล่อยมลพิษ ต่อมาศาลปกครองพิพากษาคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้โรงงานปล่อยควันพิษอีก แต่โรงงานก็ยังฝ่าฝืน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็ปล่อยปละละเลย ตนจึงโทรศัพท์ไปแจ้งสายด่วน 1555 ของ กทม.แต่หลังจากนั้น กลับถูกเจ้าของโรงงานไปแจ้งความดำเนินคดีตนที่ สน.สำราญราษฎร์ ในข้อหา แจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานโดยกล่าวหาว่า ที่ตนไปแจ้งข้อมูลกับสายด่วนนั้นไม่เป็นความเป็นจริง ขณะที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ก็รับเรื่องจนยื่นขอศาลออกหมายจับตนทั้งที่ไม่ใช่ท้องที่รับผิดชอบ เมื่อสอบถามตำรวจว่ามีการไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าวหรือไม่ ตำรวจแจ้งว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเพราะกฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา และมีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่สายด่วนที่รับแจ้งเหตุแล้ว ทำให้ตนตกเป็นผู้ต้องหาทันที  วันนี้จึงมาร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ตรวจสอบการทำของตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ที่รับแจ้งความทั้งที่ไม่ใช่ท้องที่รับผิดชอบพร้อมยืนยันว่า โรงงานกลึงโลหะแห่งนี้ ก็ยังคงปล่อยมลพิษ สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง แม้ว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวแล้วก็ตาม.-สำนักข่าวไทย