อดีตโฆษก กรธ.ยืนยัน รธน. 60 ก้าวหน้าในหลายเรื่อง

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 9 ก.ค.-อดีตโฆษก กรธ.ยืนยันรัฐธรรมนูญ 60 ก้าวหน้าในหลายเรื่อง เชื่อจะทำให้ประเทศเดินหน้า แต่นักวิชาการติงระบบเลือกตั้งมีปัญหา ทำให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว แนะปรับแก้หากใช้แล้วส่วนไหนมีปัญหา ส่วน “อภิสิทธิ์” มอง รธน. 60 ทำให้การเมืองไทยล้าหลัง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานเสวนาวิชาการ เรื่อง “การเมืองไทยภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560” โดยมีนายอุดม รัฐอมฤต อดีตโฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษา กรธ. นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นายอุดม กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญปี 60 มีความก้าวหน้าในหลายเรื่อง มีความเข้มงวดไม่ให้คนไม่ดีเข้าสูระบบการเมือง และออกแบบให้คนที่เข้ามาแล้วไม่สามารถทำสิ่งที่ไม่ดีได้ การตรวจสอบจึงเป็นไปอย่างเข้มข้น และเป็นฉบับเดียวที่มีเรื่องการปฏิรูปประเทศ และมีการพัฒนาระบบการศึกษา ที่กำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้บอกว่าจะต้องมีนักการเมืองที่ดีเท่านั้นที่จะมาทำให้ประเทศพัฒนา แต่เรามีความเชื่อในเบื้องต้นว่าถ้าระบบดี ประชาชนเข้าใจ ระบบการเมืองที่จะเปลี่ยนแปลงก็น่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งจากประสบการณ์ร่างรัฐธรรมนูญในประเทศต่าง ๆ มีทั้งสำเร็จและล้มเหลว ทั้งนี้ตนไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย  แต่เป็นการให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม เพราะตราบใดที่มีการเลือกตั้งที่ใช้เงินและไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม การเมืองก็ยังไม่ก้าวหน้า


“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ปิดห้องร่าง ระบบการเลือกตั้งที่ออกแบบมา ไม่มีใครเดาออก มีแต่ผู้เล่นที่เดาออก จึงมีการแตกแบงค์ ผมยืนยันว่าคนที่ออกแบบระบบไม่ได้คิดถึงพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เห็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 40 , 50 คนที่ได้อำนาจแล้วเอามาอ้างว่าประชาชนเลือกมา แต่ท้ายสุด ไม่ว่าวันนี้ให้ตัวแทนประชาชนร่าง หรืออาจารย์ร่าง ก็มีคนไม่ชอบเสมอ เพราะมีจุดเน้นจุดต่างที่แตกต่างกัน ทุกคนมีส่วนทำให้รัฐธรรมนูญนี้ออกมา” นายอุดม กล่าว

นายปริญญา กล่าวว่า ผลจากรัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้มีผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเพิ่มมากเป็น 11,128 คน หรือ 5 เท่าตัว มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครเพิ่มเป็นเท่าตัว ประชาชนถูกบังคับให้เลือกระหว่างตัวผู้สมัครและพรรค ด้วยบัตรเลือกตั้งใบเดียว และเมื่อมีผู้สมัครมาก ทำให้ประชาชนสับสน ส่งผลให้มีบัตรเสียตามมาจำนวนมาก ต้องใช้งบประมาณเลือกตั้งมากขึ้น และเมื่อเลือกตั้งเสร็จ ประกาศผลคะแนนแล้วยังไม่สามารถทราบจำนวน ส.ส. เนื่องจากสูตรคำนวณต้องตีความ กลายเป็นการเลือกตั้งที่เสร็จไปนานแล้วยังไม่ทราบผลการเลือกตั้ง และยังไม่ได้พูดถึงกรณีที่มีใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม ใบดำ ตามมาอีก จะทำให้ตัวเลข ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่นิ่ง เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาที่มีการเลือกตั้งใหม่ และผลจากสูตรคำนวณทำให้มี ส.ส.จากหลายพรรค และกลายเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีพรรคการเมืองมากที่สุด ตั้งคณะรัฐมนตรีช้าที่สุด นอกจากนี้ยังมีผู้แทนปวงชน ในส่วนของ ส.ว.ที่ชุดแรกมาจาก คสช. และ ส.ว.ยังมีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีใน 5 ปีแรก จึงขอเรียกระบบการเมืองไทยในช่วง 5 ปีแรกคือระบบไฮบริด คือมาจาก 2 ระบบ ส.ส.ที่ประชาชนเลือก และ ส.ว.ที่มาจาก คสช.ตั้ง ซึ่งขณะนี้ยังมีประเด็นว่าหัวหน้า คสช.เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่

“ขอตั้งข้อสังเกตว่าผลจากรัฐธรรมนูญ ระบุให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ให้มาจากความเห็นชอบของ ส.ว. ซึ่ง 5 ปีแรก ส.ว.มาจากการแต่งตั้งของ คสช. จึงมีคำถามว่าจะมีการตรวจสอบคนที่ตั้งตัวเองหรือไม่ และยังเห็นว่ารัฐบาลฉบับนี้ให้ คสช.อยู่ต่อไปจนกว่า ครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้าทำหน้าที่ จึงเป็นที่มาที่นายกรัฐมนตรีไม่รีบตั้ง ครม. และยังคงมีมาตรา 44 ใช้อยู่ ดังนั้นเราอยากเห็นประชาธิปไตยก้าวไปทุ่งไหน ก็ขึ้นกับความประสงค์ของคนไทย ถ้าจะให้เดินหน้าไปสู่การปกครองที่มีประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ  ทุกอย่างก็มีกติกามาแล้ว หากสิ่งใดใช้แล้วไม่ดี ก็ควรแก้ไขปรับเปลี่ยนไป” นายปริญญา กล่าว


ด้านนายเจษฎ์ กล่าวว่า หากมาถามความชอบธรรม เพราะคนที่ยกร่างก็มาจากการแต่งตั้งโดย คสช. ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจดีต่อประเทศชาติ แต่สิ่งที่น่าเสียดาย คือ ไม่ได้มีการอธิบายในรายละเอียดของรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบ โดยเฉพาะเรื่องวิธีการคำนวณ ส.ส. และเห็นว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้การเมืองเป็นอย่างไร คือ ผู้เล่นควรเป็นผู้เล่น แต่รัฐธรรมนูญปี 60 กลับมีกรรมการลงมาเป็นผู้เล่นด้วย สุดท้ายเชื่อว่าคงต้องมีการแก้ไข และหวังให้มีการแก้ในรัฐสภา ไม่ใช่การฉีกรัฐธรรมนูญ โดยการรัฐประหาร

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากจะพูดด้วยความเป็นธรรม ความก้าวหน้าของการเมือง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว แต่กฎหมายลูก สูตรคำนวณ ส.ส. ผู้เล่น คือนักการเมือง หรือกรรมการ ล้วนมีผลต่อความก้าวหน้าการเมืองไทย แต่สิ่งสำคัญคือ ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมให้มากที่สุด และต้องทำให้ตัวแทนประชาชนที่มาใช้อำนาจ ต้องใช้อำนาจที่สุจริต ดังนั้นการเมืองจะก้าวหน้าแค่ไหน ต้องนำเรื่องดังกล่าวมาวัดว่าประชาชนมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน และตรวจสอบการใช้อำนาจได้อย่างไร แต่ต้องยอมรับว่าหากมองมุมนี้ ถือว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้การเมืองถอยหลัง แม้จะมีบทบัญญัติเรื่องการปฏิรูปมาก ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการปฏิรูป และเมื่อบวกกับยุทธศาสตร์ชาติ จะเป็นการทำให้เพิ่มกลไกในราชการมากขึ้น แต่ไม่มีการปฏิรูปที่แท้จริง จะเห็นได้ว่าการปฏิรูปการศึกษาและตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการแยกออกมา แต่กลับไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม จึงคาดหวังได้ยาก อีกทั้งผลที่ออกมาเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเป็นผลพวงจากกติกาที่ตั้งใจออกแบบมาให้เป็นเช่นนี้ เพราะเชื่อว่าหากไม่มีวุฒิสภามามีส่วนร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี คงไม่มีพรรคการเมืองเข้ามาเป็นรัฐบาลถึง 19 พรรค จึงเถียงไม่ได้ว่ากติกาไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เป็นเช่นนี้ และขอยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการใช้เงินและอำนาจรัฐในทางไม่ชอบมากที่สุด

“ผมผ่านการเลือกตั้งมาหลายรอบ ยืนยันว่ามีการใช้เงินไม่ต่างจากปี 2548 โจ่งแจ้ง ถ้าไม่มีการรู้กันของเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีการใช้อำนาจรัฐ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผลเลือกตั้ง ดังนั้นปัญหาไม่ใช่เพียงแต่อออกมาเอื้อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่พฤติกรรมยังตอกย้ำอีก” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต่างจากฉบับอื่น ในเรื่องการยากที่จะแก้ไข ให้เดินไปข้างหน้าได้ เพราะต้องได้เสียง ส.ว. 1 ใน 3  จึงมองไม่เห็นว่าจะได้เสียงมาจากไหน โดยเฉพาะเรื่องการลดอำนาจของ ส.ว. และหากปล่อยให้รัฐธรรมนูญเดินไปเช่นนี้ โดยผู้ที่ได้อำนาจใช้เพื่อตัวเอง จะทำให้เกิดปัญหาสังคมไม่ยอมรับ และหากเป็นเช่นนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ใช่ฉบับสุดท้ายของไทยแน่นอน

“หากฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนในการที่จะเป็นเจ้าของอำนาจอย่างเต็มที่ จะมีความขัดแย้งในสังคมเกิดขึ้น ดังนั้นต้องช่วยกันสร้างแรงกดดันผู้มีอำนาจช่วยคลายเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]