ครม.เห็นชอบมาตรการพยุงเศรษฐกิจ

ทำเนียบฯ 30 เม.ย. – ครม.เห็นชอบมาตรการพยุงเศรษฐกิจรองรับก่อนรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร ใช้งบ 13,200 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการ รับมือเปิดเทอม  หนุนการท่องเที่ยว ส่งเสริมการอ่าน ลดภาระซื้อบ้านหลังแรก คาดดันจีดีพีทั้งปีโตร้อยละ 3.9 


นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนกนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงสั้นรองรับการเข้ามาบริหารของรัฐบาลชุดใหม่ หลังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจนกระทบต่อการส่งออก การใช้จ่ายในประเทศทรงตัวจากกำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศน้อย รัฐบาลจึงต้องออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจ  4 มาตรการ วงเงินช่วยเหลือทั้งหมด 13,200 ล้านบาท 


ประกอบด้วย 1. มาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  14.5 ล้านคน  ด้วยการเติมเงินให้ผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมีบัตรประจำตัวผู้พิการ 1.16 ล้านคน  วงเงิน 1,160 ล้านบาท จ่ายเพิ่มให้คนละ 200 บาทต่อเดือน เริ่มจ่ายตั้งแต่ 9 พฤษภาคม-กันยายน 2562 เพื่อใช้ซื้อสินค้าผ่านร้านธงฟ้า  ถอนเงินสดผ่านเครื่อเอทีเอ็ม  มาตรการเติมเงินลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้ถือบัตรสวัสดิการ ในเรื่องค่าปุ๋ยและปัจจัยการผลิต ลดภาระเกษตรกรที่ถือบัตรคนจน 4.1 ล้านคน วงเงิน 4,100 ล้านบาท โดยจ่ายให้ครั้งเดียวคนละ 1,000 บาท เริ่มจ่าย 8 พฤษภาคมนี้ 

มาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้ปกครองที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ด้วยการเติมเงินเข้าไปให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ เพื่อลดภาระก่อนเปิดเทอมหวังดูแลผู้ปกครองมีบุตรศึกษาตั้งแต่มัธยมศึกษาลงมา  บุตร 1 คนได้รับเงินอุดหนุน 500 บาท หากมีบุตร 3 คนได้รับเงิน 1,500 บาทต่อครอบครัว กลุ่มเป้าหมาย บุตรในช่วงเปิดเทอม  2.7 ล้านคน วงเงินรวม 1,350 ล้านบาท  ส่งเงินให้ใช้เพียงครั้งเดียว 500 บาทต่อบุตรหนึ่งคน เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตรฯ ตั้งแต่ 8 พฤษภาคม 2562 รวมทั้งมาตรการลดค่าครองชีพแก่ผู้มีรายได้น้อยผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ใช้เงิน 6,600 ล้านบาท รัฐบาลเติมให้ไปใช้จ่าย หรือกดเป็นเงินสดเพิ่มเติมคนละ 500 บาท จากปัจจุบันได้รับเงิน 200 หรือ 300 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน เริ่มจ่ายเงิน  1 พฤษภาคม-มิถุนายน 2562 รวมทั้งหมดใช้เงินช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการ 13,200 ล้านบาท


มาตรกรที่ 2  เป็นมาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ  เปิดให้นำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบริการนำเที่ยว ค่าที่พักโรงแรม โฮมสเตย์ไทย และสถานที่พักไม่ได้เป็นโรงแรมมาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจริง จากเดิมครบกำหนดไปแล้วเมื่อปลายปี จึงได้ขยายวงเงินลดหย่อนให้มากกว่า 15,000 บาท  สำหรับเมืองหลัก  ส่วนเมืองรองหักลดหย่อนเพิ่มเป็น  20,000 บาทต่อคน เพื่อจูงใจให้เกิดการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ เริ่มมาตรการตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน- 30 มิถุนายน 2562     มาตรการภาษี สำหรับส่งเสริมด้านกีฬา การศึกษา หากซื้ออุปกรณ์กีฬา ชุดกีฬา การศึกษา จากผู้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริงไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน เริ่ม 1 พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2562 ไม่นับรวมการซื้อคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต   

มาตรการภาษี สำหรับส่งเสริมการอ่านหนังสือ รวมทั้ง E-Book จ่ายตามจริงไม่เกิน 15,000 บาท เริ่มย้อนหลังจาก 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2562 ตลอดทั้งปี 2562 รวมถึงมาตรการช้อปช่วยชาติ สำหรับการซื้อสินค้าโอทอป  มาตรการภาษีสำหรับการซื้อบ้านหลักแรก เพื่อลดภาระทางภาษีให้นำค่าใช้จ่ายซื้อบ้านหักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย สำหรับราคาบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท ต้องถือครองบ้านในช่วง 5 ปี ไม่นับรวมการทำสัญญาโอน  เริ่มนับการซื้อบ้านตั้งแต่ 30 เมษายน-ธันวาคม 2562 โดยต้องโอนภายในปี 2562 ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสอง แต่ต้องเป็นบ้านหลังแรกของคนซื้อบ้าน

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบมาตรการภาษีสำหรับส่งเสริมการลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งระบบเครื่องคิดเลขชำระเงิน POS เชื่อมโยงข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร ติดตั้งระบบหัก ณ ที่จ่าย นำค่าใช้จ่าย หักลดหย่อน 2 เท่าของเงินลงทุน มาตรการทั้งหมด ด้านการท่องเที่ยว ภาครัฐสูญเสียรายได้ 1,000 ล้านบาท ด้านซื้ออุปกรณ์กีฬา การศึกษา กระทบรายได้ 1,500 ล้านบาท สินค้าโอทอป 150 ล้านบาท ส่งเสริมการอ่าน 2,250 ล้านบาท การลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์ กระทบ 2,370 ล้านบาท การซื้อบ้านหลังแรก กระทบ 1,350 ล้านบาท 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับผู้บริหารกรมสรรพากร แถลงว่า มาตรการพยุงเศรษฐกิจจะส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวถึงร้อยละ 3.9 ในปี 2562 จากการคาดการณ์ของกระทรวงการคลังจะเติบโตได้ร้อยละ 3.8 โดยขณะนี้เงินกองทุนบัตรสวัสดิการใช้จ่ายไปแล้ว 80,000 ล้านบาท เหลือ 140,000 ล้านบาท ได้เสนอของบประมาณปี 2563 รองรับการใช้เงินอีก 63,000 ล้านบาท และยังศึกษาร่วมกับจุฬาฯ เพื่อปรับระบบการลงทะเบียนปีต่อไป เพื่อลดปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มเติม .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]