เด็กแว้นแข่งซิ่งชน จยย.สาวประเภทสองดับ-ประจวบฯ รถทัวร์คว่ำเจ็บ 22 ราย

ภูมิภาค 21 เม.ย.- เมื่อคืนที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายราย โดยที่ จ.เพชรบุรี เด็กแว้นเฉี่ยวชนจักรยานยนต์สาวประเภทสองดับ ส่วนที่ จ.นครปฐม ผู้ใหญ่บ้านขับเก๋งชนเกาะกลางเสียชีวิต ขณะที่ จ.ชลบุรี สาวท้องถูกหนุ่มควบจักรยานยนต์ชนบาดเจ็บ และที่ประจวบคีรีขันธ์ รถทัวร์เสียหลักตกร่องกลางถนนชนต้นไม้ บาดเจ็บ 22 คน 


ตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุบนถนนเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพฯ บริเวณหน้าค่ายนเรศวร อ.ชะอำ พบร่างนายสันติ มิตรดี อายุ 48 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ที่เลนขวาสุดติดกับเกาะกลางถนน สภาพศพมีเลือดออกที่ศีรษะจำนวนมาก จึงส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่ รพ.ชะอำ ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์สีบรอนซ์ดำ ทะเบียนเพชรบุรี สภาพรถมีรอยถูกเฉี่ยวชน พังเสียหายยับเยิน ถัดมาอีก 15 เมตร พบรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพหน้ารถพังเสียหายยับเยินเช่นกัน ผู้ได้รับบาดเจ็บคาดว่าถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงบาลหัวหิน


ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงมีการแข่งรถจักยานยนต์หลายคัน จากนั้นก็ได้ยิงเสียงดังเหมือนรถเฉี่ยวชนกันจนล้ม จึงออกมาดู พบว่ามีคนนอนอยู่กลางถนน 1 ราย ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน ซึ่งได้รับบาดเจ็บ มีเพื่อนที่แข่งรถมาด้วยกันเข้ามาช่วยนำตัวและรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนรถคันที่พังเสียหายไม่สามารถนำไปได้ ก็จอดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลหัวหิน พบนายวัชระ สมิงทอง อายุ 17 ปี เข้าไปรับการรักษาตัวโดยมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และสารภาพว่า เกิดเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตจริง


เกิดอุบัติเหตุนายกิติภูมิ ลิ้มต่อสกุล อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.ดอนตูม  อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ขับรถเก๋งสีเทา ทะเบียนกรุงเทพฯ เสียหลักพุ่งชนเกาะกลางถนน และอัดกระแทกเข้ากับเสาไฟส่องสว่างบนถนนสายดอนตูม-หนองปลาไหล เยื้องกับทางเข้าวัดลำเหย ร่างติดอยู่ภายในรถ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้โดยสารที่ติดอยู่ในรถด้วยอีกคน คือ นายวรณุ ทองเถื่อน อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลดอนตูม

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถคันเกิดเหตุวิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนเกาะกลางถนนและชนกับเสาไฟส่องสว่าง ทำให้โคมไฟหลุดลงมากองที่พื้นถนน ส่วนสาเหตุคาดน่าจะมองไม่เห็นเกาะกลางถนน เนื่องจากไฟส่องสว่างดับมาหลายวันแล้ว รถที่ไม่ทันระวังอาจจะเสียหลักชนเกาะกลางถนนได้ สำหรับสาเหตุที่แท้จริง ต้องรอการตรวจพิสูจน์อีกครั้งว่าเกิดจากการมองไม่เห็นเกาะกลางถนน หรือผู้ขับขี่เมาสุรา

ตำรวจ สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ 22 ล้อ บรรทุกน้ำมันเตา 40,000 ลิตร วัตถุไวไฟ ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนต้นไม้พลิกคว่ำลงข้างทางบน ถนนมิตรภาพ ขาออก เลยสี่แยกบ้านโพธิ์ อ.เมือง มาประมาณ 200 เมตร มีน้ำมันรั่วไหลเล็กน้อย ส่วนหัวของรถกระแทกกับต้นไม้และคันดินข้างทางพังยับเยิน คนขับถูกอัดก๊อบปี้เสียชีวิตติดคาซากรถ ทราบชื่อคือ นายปิยะชัย ศรีสันต์ อายุ 41 ปี ชาว อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกมาจากรถ ก่อนนำส่ง รพ.มหาราชนครราชสีมา

สอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตขับรถบรรทุกน้ำมันเตา 40,000 ลิตร มาลำพังคนเดียว จาก จ.ระยอง เพื่อไปส่งที่ จ.อุดรธานี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งถนนมีลักษณะเป็นทางตรง ผ่านสี่แยกไฟแดง จู่ๆ ก็เกิดเสียหลักพุ่งลงข้างทางชนต้นไม้และกระแทกคันดินจนพลิกคว่ำ เสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นสันนิษฐาน สาเหตุอาจเกิดจากคนขับหลับใน

ส่วนที่พัทยา จ.ชลบุรี ตำรวจเข้าตรวจสอบอุบัติเหตุบนถนนสุขุมวิท เส้นทางบางเสร่-สัตหีบ บริเวณหน้าหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ 31 ต.สัตหีบ พบรถจักรยานยนต์ สีแดง ทะเบียนชลบุรี พลิกคว่ำเสียหายอยู่ในเลนซ้าย ใกล้กันพบผู้ขับขี่ คือ นายสมชาติ รุ่งแจ้ง อายุ 41 ปี นอนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถลอกที่ใบหน้า และตามร่างกายหลายแห่ง ยังอยู่ในอาการมึนงง ห่างออกไปอีก 10 เมตร ในป่าหญ้าข้างทางพบ น.ส.สายธาร ฉลองกลาง อายุ 17 ปี ตั้งครรภ์ 2 เดือน นอนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามใบหน้า และฟกช้ำตามร่างกาย เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยให้การช่วยเหลือนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลแล้ว 

น.ส.สายธาร เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้เดินออกจากบ้านพักไปตามไหล่ทาง เพื่อไปหาเพื่อนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จู่ๆ รถจักรยานยนต์คู่กรณี ที่ขี่มาจากทางบางเสร่มุ่งหน้าเข้าสัตหีบ พุ่งชนก่อนกระเด็นไปคนละทิศละทาง จนต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ

ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารสายนครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร ทะเบียน กทม. เสียหลักตกร่องกลางถนน ชนกับต้นไม้พลิกคว่ำบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 293-294 หมู่ที่ 13 บ้านหนองบุญยงค์ ต.บ่อนอก อ.เมือง พบรถทัวร์คันดังกล่าวอยู่ในสภาพกระจกด้านหน้าพังแตกเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บมีแผลฉีกขาดและแผลถลอกชาย-หญิง รวมจำนวน 22 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลประจวบฯ

นายสุกรี ดาราไก่ อายุ 51 ปี หนึ่งในผู้โดยสาร เล่าว่า นั่งอยู่หลังคนขับมาจาก จ.นครศรีธรรมราช จะไปลงที่สายใต้ กทม. ช่วงก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงบีบแตรดังสนั่น จากนั้นรถเสียหลักส่ายไป-มา ตนคิดว่ารถตกถนนแน่นอน จึงคว้าหลานมากอดไว้ในอ้อมแขน แต่โชคดีที่พวกตนไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนาย อารอนิง มูหะหมัด อายุ 44 ปี คนขับรถทัวร์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนไม่ได้หลับใน กำลังพาผู้โดยสารจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปส่งที่สายใต้และหมอชิต ก่อนเกิดเหตุมีรถบรรทุกสิบล้อห้องเย็นวิ่งแซงรถไปด้านหน้า แล้วเปลี่ยนเลนมาทางเลนส์ขวา ซึ่งเป็นเลนที่ตนวิ่งอยู่อย่างกะทันหัน ทำให้ท้ายรถบรรทุกมาเบียดกระจกมองข้างของรถตนจนหัก จึงทำให้รถเสียหลักส่ายไป-มา ก่อนที่จะตกร่องกลางถนน อย่างไรก็ดี สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง  ตำรวจต้องสอบสวนอีกครั้งต่อไป

เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองลำสามแก้ว เข้าตรวจสอบเหตุมีกลุ่มควันเกิดขึ้นที่รถบรรทุกน้ำมัน บนถนนลำลูกกามุ่งหน้าขาเข้าใกล้เคียงปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบรถบรรทุกน้ำมันทะเบียน กทม. ซึ่งเป็นรถของบริษ์ท เอส แคริเออร์ จำกัด มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาที่บริเวณล้อซ้ายด้านหลัง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเร่งฉีดน้ำเข้าที่ล้อเป็นการด่วน เนื่องจากที่เกิดเหตุใกล้กับปั๊มน้ำมัน และกันพื้นที่ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ เกรงว่าจะได้รับอันตรายกับเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีน้ำมันบางส่วนค้างอยู่ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที ก็ควบคุมกลุ่มควันไว้ได้

สอบถามนายแดง ไม่ทราบนามสกุล ผู้ขับขี่รถบรรทุกน้ำมัน บอกว่า ตนเองและเพื่อนร่วมงานได้ไปลงน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซล ประมาณ 20,000 ลิตรที่ จ.ราชบุรี หมดแล้ว และเดินทางกลับ อยู่ระหว่างวิ่งเข้าคลังน้ำมันคลองห้าลำลูกกา พอมาถึงที่เกิดเหตุพบว่าลมเบรกหมด จึงให้เพื่อนร่วมงานลงมาดู ก็พบว่ามีกลุ่มควันพุ่งขึ้นที่ล้อซ้ายข้างหลังอย่างแรง จึงรีบโทรแจ้งตำรวจเพื่อขอรถน้ำให้มาช่วยเหลือ เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าโชคดี เพราะไม่มีน้ำมันในถัง  

ด้านนายขุนพลเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองลำสามแก้วเล่าว่า ขณะที่มาพบก็เห็นกลุ่มควันออกมาจากล้อหลังด้านซ้ายเป็นจำนวนมาก จึงรีบใช้น้ำฉีดเลี้ยงไปที่ต้นเหตุ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังจุดอื่นหรือเกิดไฟลุกไหม้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]