ครม.ลดปัญหาฝุ่นละออง เห็นชอบลดภาษีรถกระบะ-รถยนต์ไฟฟ้า

ทำเนียบฯ 6 มี.ค.- ครม.ลดปัญหาฝุ่นละออง เห็นชอบลดภาษีรถกระบะ แนะปรับเครื่องยนต์  เติมดีเซลบี 20 ปล่อยค่า PM ไม่เกิน 0.005 เก็บภาษีลดลงร้อยละ 1-2 พร้อมยกเว้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าก่อนปี 66 ยอมสูญเสียรายได้เข้าคลัง  1,300 ล้านบาท ดูแลสิ่งแวดล้อมลดมลพิษทางอากาศ 


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เพราะถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ  กรมสรรพสามิตจึงเสนอแนวทางลดการปล่อยมลพิษฝุ่น PM ด้วยการกำหนดอัตราภาษีควบคู่ไปกับหลักการปล่อยก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ (CO2) ซึ่งได้จัดเก็บภาษีรถยนต์เดิมอยู่แล้ว   

สำหรับการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์กระบะ  ปัจจุบันจัดเก็บทั้งหมด 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.รถกระบะไม่มีแค็ป (No Cab) ปัจจุบันมีการหากปล่อย CO2 ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษีร้อยละ 2.5 ขณะที่โครงสร้างภาษีใหม่ ค่า PM เกิน 0.005 เสียภาษีร้อยละ 2.5  และค่า PM ไม่เกิน 0.005 หรือสามารถใช้ดีเซล  B20 เสียภาษีร้อยละ 2 ส่วนรถกระบะไม่มีแค็ป แต่มีค่า CO2 เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษีร้อยละ 4  โครงสร้างภาษีใหม่ ค่า PM เกิน 0.005 เสียภาษีร้อยละ 4  และค่า PM ไม่เกิน 0.005 หรือสามารถใช้ B20 เสียภาษีร้อยละ 2


2.รถยนต์กระบะ (Space Cab) ปัจจุบันหากปล่อย CO2 ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษี ร้อยละ4 โครงสร้างภาษีใหม่ ค่า PM เกิน 0.005 เสียภาษีร้อยละ 4  และค่า PM ไม่เกิน 0.005 หรือสามารถใช้ B20 เสียภาษีร้อยละ 3 ส่วนรถที่ค่า CO2 เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษีร้อยละ 6  โครงสร้างภาษีใหม่ ค่า PM เกิน 0.005 เสียภาษีร้อยละ 6 และค่า PM ไม่เกิน 0.005 หรือสามารถใช้ B20 เสียภาษีร้อยละ 5    

3.รถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ปัจจุบันหากปล่อย CO2 ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษีร้อยละ 10 โครงสร้างภาษีใหม่ ค่า PM เกิน 0.005 เสียภาษีร้อยละ 10  และค่า PM ไม่เกิน 0.005 หรือสามารถใช้ B20 เสียภาษีร้อยละ 9  ส่วนที่ค่าCO2 เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษีร้อยละ 13  โครงสร้างภาษีใหม่ ค่า PM เกิน 0.005 เสียภาษีร้อยละ 13  และค่า PM ไม่เกิน 0.005 หรือสามารถใช้ B20 เสียภาษีร้อยละ 12  และ 4.รถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า หากปล่อย CO2 ไม่เกิน 175 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษีร้อยละ 8 โครงสร้างภาษีใหม่ ค่า PM เกิน 0.005 เสียภาษีร้อยละ 8 และค่า PM ไม่เกิน 0.005 หรือสามารถใช้ B20 เสียภาษีร้อยละ 8 

นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติปรับลดอัตราภาษีรถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle) หรือ EV โดยปรับลดอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างเป็นรูปธรรรมและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย รถยนต์อีวีที่ไม่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอเสียภาษีร้อยละ 8 อัตราภาษีใหม่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2563-31 ธันวาคม 2565 เสียภาษีร้อยละ 8  อัตราภาษีระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2566 -31 ธันวาคม2568 เสียภาษีร้อยละ 8  ขณะที่รถยนต์อีวีที่ได้รับการส่งเสริมการบีโอไอ ปัจจุบันเสียภาษีร้อยละ 2  ทำให้อัตราภาษีใหม่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2563-31 ธันวาคม 2565 จะได้รับการยกเว้นภาษีเหลือร้อยละร้อยละ 0 อัตราภาษีระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2566 -31 ธันวาคม 2568 เสียภาษีร้อยละ 2  โดยคาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท ทั้ง 2 มาตรการยอมรับว่า การพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อส่งเสริมการลดค่า PM ให้น้อยลง และรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันดีเซล B20 มากขึ้น เพราะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลจะทำให้มีการปล่อยฝุ่นละอองจากรถยนต์ลดลง และยังลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศอีกทางหนี่ง  คาดว่าจะกระทรวงรายได้กรมสรรพสามิตหายไป รวมแล้วประมาณ 1,300 ล้านบาท 


มาตรการครั้งนี้ส่งผลดีให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถ ยนต์พัฒนามาตรฐานการปล่อยมลพิษของรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยลดฝุ่น PM ให้ได้ตามมาตรฐานยูโร 5 เร็วยิ่งขึ้น และปัจจุบันมาตรฐานยูโร 4 กำหนดให้ปล่อยฝุ่น PM ได้ไม่เกิน 0.025 กรัมต่อกิโลเมตร ดังนั้น ภายใต้สมมติฐานกำหนดให้รถยนต์วิ่งระยะทาง 20,000 กิโลเมตรต่อปี ส่งผลให้รถยนต์ปัจจุบันปล่อยฝุ่น PM เท่ากับ 500 กรัมต่อคันต่อปี หากกำหนดให้มาตรฐานการปล่อยฝุ่น PM ได้ไม่เกิน 0.005 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานยูโร 5 ส่งผลให้รถยนต์ดังกล่าวปล่อยฝุ่น PM ลดลงเท่ากับ 100 กรัมต่อคันต่อปี ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2561 มีปริมาณรถยนต์กระบะและรถยนต์กระบะ 4 ประตู ชำระภาษีสรรพสามิต 190,000 คัน ดังนั้น มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้มีการลดฝุ่น PM ของรถยนต์ที่ชำระภาษีสรรพสามิตในแต่ละปีลดลงประมาณ 76 ล้านกรัมต่อปี

และยังช่วยลดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนและค่าใช้จ่ายภาครัฐเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล โดยฝุ่น PM2.5 เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะสามารถเดินทางผ่านทางเดินหายใจสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย เพิ่มโอกาสของโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ และต้องป้องกันด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานป้องกันฝุ่นขนาดเล็กโดยเฉพาะ ส่ง ผลกระทบไปถึงระบบเศรษฐกิจ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่รัฐจะต้องสูญเสียเกี่ยวเนื่องกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากมลภาวะทางอากาศนี้อีกด้วย โดยคาดว่าจะมีผลหลังจากลงในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมเป็นต้นไป  

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีรถยนต์ตามอัตราการปล่อย CO2 ตั้งแต่ปี2559 บนหลักการด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก CO2 จากภาคการขนส่งเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เมื่อถูกเผาไหม้จึงปล่อย CO2 ในชั้นบรรยากาศก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุหลักให้เกิดสภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ตาม แม้ว่า มาตรการการจัดเก็บภาษีรถยนต์ตามอัตราการปล่อย CO2 จะมีส่วนช่วยในการลดก๊าซเรือนกระจก แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงปัญหามลพิษจากท่อไอเสียที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ได้แก่ รถยนต์กระบะ และรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ทั้งนี้ ปัจจุบันรถยนต์ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศต้องมีการทดสอบค่ามลพิษอ้างอิงมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งกำหนดให้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลปล่อยฝุ่น PM ได้ไม่เกิน 0.025 กรัมต่อกิโลเมตร

ดังนั้น การใช้มาตรการภาษีเพื่อยกระดับมาตรฐานการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจากมาตรฐาน ยูโร 4 (PM ไม่เกิน 0.025) ปัจจุบันเป็นมาตรฐาน ยูโร 5 (PM ไม่เกิน 0.005) ให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อลดอัตราการปล่อยฝุ่นจากท่อไอเสียของรถยนต์ใหม่ ย่อมจะส่งผลประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่คุ้มค่ากับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับนโยบายสนับสนุนรถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอให้ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้าจากอัตราร้อยละ 8 เหลือร้อยละ 2  ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวยังมีราคาสูงเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีขนาดใกล้เคียงกัน จึงเห็นควรสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนให้มีอัตราภาษีพิเศษ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากท่อไอเสีย. -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]