วปอ.แถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร ตั้งเป้าไทยเป็นประตูสู่เอเชีย

64หอประชุมกองทัพเรือ 1 ก.ย.-วปอ.จัดแถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร ระยะ 20 ปี พ.ศ.2560-2579 ตั้งเป้าไทยเป็นประตูสู่เอเชีย เสริมสร้างกำลังรบ ทั้งทางบก เรือ อากาศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการเเถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร ระยะ 20 ปี พ.ศ.2560-2579 ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 58 และนักศึกษาวิทยาลัยเสนาธิการทหารรุ่นที่ 57 นักศึกษาวิทยาลัยการทัพบกชุดที่ 61 นักศึกษาวิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 58 และนักศึกษาวิทยาลัยการทัพอากาศรุ่นที่ 50 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ นักศึกษา วปอ.รุ่นที่ 58 และ 59 ร่วมงานอย่างคับคั่ง

พล.ท.ไชยอนันต์ จันทคณานุรักษ์ ผอ.วปอ. กล่าวว่า ปีนี้ จัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เป็นวาระพิเศษ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อมีส่วนสำคัญในการปฏิรูปประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นการทำยุทธศาสตร์ชาติในปีนี้จึงแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการปรับกระบวนการและขั้นตอนในโครงสร้างยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องรองรับกับภาพสถานการณ์ประเทศไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยแบ่งเป็นกลุ่มยุทธศาสตร์ 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านความมั่นคง ความมั่งคั่ง คุณค่าและค่านิยม และการมีส่วนร่วมในสังคมโลก ซึ่งจะครอบคลุมวิสัยทัศน์และสอดคล้องกับแนวคิดของรัฐบาล คือ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน


ด้าน พล.ร.ต.คำรณ พิสณธ์ยุธการ ตัวแทนนักศึกษา วปอ. รุ่นที่ 58 เเถลงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่า ในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติในครั้งนี้ได้สร้างภาพสถานการณ์ประเทศไทย 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.ภาพสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด 2.สถานการณ์ตามที่เป็นอยู่ และ 3. สถานการณ์ที่ดีที่สุดเพื่อทำนายอนาคตประเทศไทยใน 20 ปีข้างหน้า จากนั้นจึงกำหนดเป็นความต้องการของคนในชาติ 4 ด้าน  ได้แก่ 1.ด้านความมั่นคงปลอดภัย 2.ด้านความเจริญรุ่งเรืองผาสุกมั่งคั่ง 3.ด้านการเสริมสร้างคุณค่าเกียรติยศค่านิยมความเป็นไทย และ 4.การมีส่วนร่วมและอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกในสังคมโลก โดย วปอ.ได้นำผลประโยชน์ทั้ง 4 ด้านมาเป็นตัวตั้งในการพัฒนายุทธศาสตร์ย่อย โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศไทยไว้ว่า “ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยั่งยืนภายในปี พ.ศ. 2579”  โดยประเทศไทยจะต้องเป็นประตูสู่เอเชียและหัวใจของอาเซียนให้ได้ มีการเสริมสร้างกำลังรบ ทั้งทางบก เรือ อากาศ

66ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในด้านความมั่นคงและปลอดภัย ระบุไว้ว่า ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยั่งยืนได้นั้น ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นพื้นฐานที่ทำให้ทุกภาคส่วนราชการสามารถทำตามแผนงานได้ คือ ความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ที่จะเป็นเสมือนฐานรองรับ เป็นกำแพงป้องกันที่แข็งแกร่ง ดังนั้นสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะต้องได้รับการปกป้อง ธำรงไว้อย่างมั่นคงถาวร การป้องกันประเทศจะต้องมีประสิทธิภาพ พร้อมเผชิญภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ และต้องพึ่งพาตนเองได้ มีความรักความสามัคคีของคนภายในชาติ เป็นสังคมที่มีคุณธรรม ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น และปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องถูกขับเคลื่อนตามแผนงานและนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะต้องยุติความขัดแย้งภายใน 5 ปี และเกิดความยั่งยืนภายใน 10 ปี คือปี พ.ศ.2569

ในส่วนยุทธศาสตร์ทหาร 20 ปี กำหนดไว้ว่า กองทัพต้องการสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เสริมสร้าวงเสถียรภาพความมั่นคงด้านพลังงาน การเงินและการคลัง การเตรียมกำลังเเละใช้กำลังเพื่อการป้องปรามและการผนึกกำลังเพื่อการป้องกันประเทศ และการป้องกันเชิงรุก รวมทั้งการปฏิบัติการร่วม โดยในอนาคตประเทศไทยจะมีกองทัพไทยในรูปแบบใหม่ เริ่มต้นจากการปรับโครงสร้างกองบัญชาการร่วมกองทัพไทย ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของศูนย์บัญชาการทางทหาร เพื่อรองรับการเชื่อมโยงและเเลกเปลี่ยนข้อมูลในส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคพื้นดิน ทะเล อากาศ และอวกาศ รวมถึงดาวเทียมทางทหาร ในการปฏิบัติการจำเป็นจะต้องพัฒนาหลักนิยมปฏิบัติการร่วมและผสมที่เหมาะกับบทบาทของกองทัพไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า การแสดงบทบาทต่าง ๆ ของกองทัพไทย การแสดงบทบาทต่าง ๆ ในเวทีสากล เช่น การฝึกร่วมผสมกับมิตรประเทศ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ การเเพทย์ทหารและการรักษาความมั่นคงทางทะเล การรักษาสันติภาพ ตามกรอบของสหประชาชาติ


ในส่วนของการจัดหายุทโธปกรณ์ จำเป็นต้องดำเนินการในลักษณะพึ่งพาตนเองด้วยอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ตามแนวทางประเทศไทย 4.0 พัฒนาตัวบุคคลให้รองรับแนวทางปฏิบัติการ การพัฒนาองค์บุคคลให้รองรับแนวคิดการปฏิบัติการ โดยจัดทำโครงการศึกษาด้านยุทธศาสตร์และวิชาการทางทหาร ได้แก่ การตั้งศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ และโรงเรียนเสนาธิการร่วม รวมทั้งศูนย์การฝึกทหารอาเซียนด้านต่าง ๆ โดยในส่วนของกำลังทางบก ต้องรองรับการปฏิบัติการจากมิตรประเทศ บทบาทด้านการรบ จะต้องพัฒนาและจัดระเบียบชายแดน มีกำลังเตรียมพร้อมที่มีระบบควบคุมและบังคับบัญชาที่ทันสมัย เชื่อมโยงระบบข้อมูลและข่าวกรองกับทุกเหล่าทัพ มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีขีดความสามรถ โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อลดจำนวนคนที่เข้าปฏิบัติการ และเมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤติ กรมผสมจะเป็นหน่วยดำเนินกลยุทธ์หลัก มีการยิงระดับยุทธการที่มีความเเม่นยำสูงใช้ในที่มีการปฏิบัติร่วม เชื่อมโยงกับกำลังทางอากาศเพื่อโจมตีเป้าหมาย

65ส่วนบทบาทที่ไม่ใช่การรบ จะมุ่งเน้นขีดความสามารถในการถวายความปลอดภัยและพระเกียรติของหน่วยทหารรักษาพระองค์ และการเสริมสร้างความมั่นคงร่วม รวมทั้งจัดการกำลังประชาชน ตามแนวทางผนึกกำลังป้องกันประเทศ ในขณะที่หน่วยทหารส่วนภูมิภาคต้องสามารถอำนวยการบรรเทาสาธารณภัยภายในประเทศและช่วยเหลือประชาชน โดยประสานกับกำลังในพื้นที่ ในส่วนกำลังทางเรือจะต้องพัฒนาเป็นกำลังทางเรือ 2 มหาสมุทร โดยการใช้กำลังทางเรือได้ทั้ง 2 ฝั่งอย่างสมดุล โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายกำลังขนาดใหญ่ มีการวางกำลังที่มีขีดความสามารถในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจให้การคุ้มครองและช่วยเหลือเรือ รวมทั้งแหล่งผลประโยชน์ของชาติ ตลอด 24 ชม.

ส่วนกำลังทางอากาศ จะต้องมีบทบาทสำคัญในด้านการปกป้องเเละใช้ประโยชน์ทางอากาศและในมิติใหม่ในห้วงอวกาศ เพื่อสร้างการรับรู้ในการปฏิบัติการทางอากาศของต่างชาติ การตรวจการณ์ทางอวกาศ การสื่อสารและโทรคมนาคมทางอากาศ และสนับสนุนการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางกองทัพไทย เพื่อให้เห็นภาพสถานการณ์รบร่วมกัน ทั้งในมิติทางอากาศและมิติใหม่ในห้วงอวกาศ พร้อมเพิ่มเติมปฏิบัติการสงครามไซเบอร์ สงครามเครือข่าย และการป้องกันไว้ด้วย

ส่วนการใช้กำลังทางรบ จะใช้การปฏิบัติการร่วม ทั้งกำลังทางเรือและทางบก แต่จะต้องบรรจุอากาศยานให้เพียงพอ เพื่อตอบสนองภารกิจที่ไม่ใช่การรบทั้งในและนอกประเทศ ที่สำคัญกองทัพต้องปรับโครงสร้าง มุ่งเน้นการเป็นที่พึ่งของประชาชน มียุทโธปกรณ์ปฏิบัติการร่วมที่ทันสมัย บนพื้นฐานการพึ่งพาตนเองและส่งออก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ กำลังพลทุกคนต้องเป็นทหารอาชีพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]