สตช.สนองนโยบายนายกฯ ออกมาตรการเข้มก่อนปีใหม่ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติสนองนโยบายนายกฯ ออกมาตรการเข้มสั่งระดมทั่วประเทศกวาดล้างคดีอาชญกรรมทุกรูปแบบและออกหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ก่อนเทศกาลปีใหม่ เน้นย้ำให้เอาจริงกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น 


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ โดนเน้นการอำนวยความสะดวกประชาชน ด้านการดูแลความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านจราจร ประกอบกับการเฝ้าระวังสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงปีใหม่อย่างใกล้ชิดนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับ สั่งการ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อน ในการเพิ่มมาตรการดังกล่าว อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชนชน นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ดังต่อไปนี้

 มาตรการด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้สั่งการมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ระหว่าง 24 ธ.ค. 2561 – 2 ม.ค. 2562 โดยเน้นการป้องกันและปราบปรามคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ในสถานที่สำคัญ เช่น สถานีขนส่ง ที่พักผู้โดยสาร แหล่งท่องเที่ยว พร้อมตรวจสอบบุคคลตามหมายจับค้างเก่า บุคคลเฝ้าระวัง บุคคลพ้นโทษ , สืบสวนหาข่าวและข้อมูลเชิงลึกเพื่อปิดล้อมตรวจค้นสิ่งของอาวุธต่างๆ ที่จะใช้ในการก่อเหตุ เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด  ด่านตรวจบุคคลและยานพาหนะ เพื่อตรวจค้นอาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด และ สิ่งของผิดกฎหมาย , ขอความร่วมมือสถานบริการและสถานบันเทิงต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. การเปิด – ปิดให้ตรงเวลา การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การปล่อยปะละเลยให้เด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ รวมไปถึงการลักลอบค้าบริการทางเพศและการลักลอบเล่นการพนัน พร้อมทั้งกวดขันจับกุมการเล่นดอกไม้เพลิง พลุประทัด และการปล่อยโคมลอย , จัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ ระหว่าง 24 ธ.ค. 2561 – 2 ม.ค. 2562 ระยะเวลา 10 วัน , ให้ บช.ปส.จัดกำลังสนับสนุนการปฏิบัติของตำรวจท้องที่ สุ่มตรวจมิให้มีการใช้ยาเสพติดชนิดต่างๆ ในสถานบันเทิง ,  สตม. ตรวจคัดกรองการเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักรโดยละเอียด โดยเฉพาะ กลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง บุคคลต้องห้าม บุคคลที่มีหมายจับ และ การร่วมมือกับภาคประชาชนในการป้องกันเหตุโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์ 191 เป็นช่องทางหลักในการรับแจ้งเหตุ รวมทั้งข้อมูลการจราจรการนำผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเหตุอื่นๆ เข้ารับการรักษาพยาบาล และ ใช้แอพพลิเคชั่น Police I Lert Uเป็นช่องทางสื่อสารสองทางกับประชาชนอีกทางหนึ่ง


มาตรการป้องกันเหตุการณ์การก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยเพิ่มความเข้มในการตรวจรักษาความปลอดภัยสถานที่ที่มีการจัดงานเคาท์ดาวน์ สถานที่ราชการ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม และสถานที่สำคัญต่างๆ จัดชุดปฏิบัติการทางยุทธวิธี โดยเฉพาะชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด ชุดตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ ชุดตรวจบันทึกภาพ สนับสนุนการปฏิบัติได้โดยเร็วที่สุดเมื่อเกิดเหตุ , ให้ สันติบาล สนับสนุนด้านการข่าวด้านต่างๆ , สตม. กำชับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบเอกสารการเดินทางด้วยความละเอียดรอบคอบ

มาตรการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในการบริหารจัดระเบียบการจราจร เส้นทางหลัก เส้นทางรอง จุดบริการประชาชน บริเวณที่จัดงานเคาท์ดาวน์ , เร่งการระบายรถ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรการเดินทางของประชาชนในการกลับภูมิลำเนาและกลับ กทม. , เตรียมความพร้อมของรถยก รถกู้ภัย เพื่อช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุและเปิดเส้นทางการจราจรโดยเร็ว , จัดให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์กับผู้ขับขี่รถ กวดขันจับกุมตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ขับรถเร็ว , ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร , ย้อนศร , ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ,ไม่มีใบขับขี่ , แซงในที่คับขัน , เมาแล้วขับ , ไม่สวมหมวกนิรภัย , มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย , ใช้มือถือขณะขับขี่รถ และ การออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร ทั่วราชอาณาจักรว่าด้วยการกำหนดช่องแนวทางเดินรถขึ้นและล่องในถนนบางสายและห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเดินในถนนบางสาย , ตรวจสอบรถบัส รถตู้โดยสารสาธารณะ จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก มีป้าย มีการเสียภาษี มีเส้นทางการวิ่งที่ชัดเจน วิ่งในความเร็วที่กำหนด โดยพนักงานขับรถต้องได้รับอนุญาต มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ มีจำนวนพนักงานที่เพียงพอ พักผ่อนเพียงพอ ไม่ขับรถขณะเหนื่อยล้า

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีความเป็นห่วงเป็นในพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ปีใหม่ 2562 จึงได้กำชับให้กองบัญชาการทุกภาคส่วน เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และอำนวยความสะดวกการจราจรแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวได้อย่างมีความสุขและเดินทางด้วยความปลอดภัย  


 ทั้งนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้ร่วมมือในการป้องกันอาชญากรรม หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2562  โดยห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอยในลักษณะที่จะสร้างความหวาดกลัวและก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรือเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น , การยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร , การแต่งกายไม่ควรประดับของมีค่าหรือนำทรัพย์สินสินติดตัวไปจำนวนมากเพื่อป้องกันมิให้มิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ , ผู้ปกครองควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังเพื่อมิให้ถูกลอกหลวงไปในทางมิชอบ หรือประพฤติตนไม่สมควร  รวมถึงไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานโดยลำพัง รวมไปถึง ผู้ปกครองที่จะนำบุตรหลานออกมาเที่ยวในช่วงวันหยุดให้เขียนชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ไว้ในกระเป๋า เพื่อสะดวกในการติดตามกรณีเกิดการพลัดหลง และ ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ เมาไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถ การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัยและไม่ขับรถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]