อุดรธานี 12 ธ.ค.- “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” ผบช.สตม. แถลงจับ “เสี่ยตี๋” นายทุนเงินกู้เมืองอุดรฯ มีผู้เสียหายนำโฉนดที่ดินมาจำนองนับ 10 ราย รวมทั้งนักธุรกิจหญิงคู่กรณี “นกน้อย อุไรพร” หมอลำดัง โดยเจ้าหน้าที่ยึดอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ รวมมูลค่า 527 ล้านบาท
เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (11 ธ.ค.) ที่ สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. แถลงข่าวการจับกุมนายบัญชา ฐิติวัฒนาการ หรือเสี่ยตี๋ อายุ 50 ปี อยู่บ้านใน ถ.ประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี เจ้าของกิจการโรงนม ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้เงิน หรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางให้กู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ตำรวจตรวจค้นในสำนักงาน บ.อุดรแดรี่ฟูดส์ จำกัด พบโฉนดที่ดิน 25 ฉบับ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบว่าเป็นโฉนดที่ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากก่อนที่ตำรวจจะขออนุมัติหมายจับและหมายค้น มีผู้เสียหายนำโฉนดที่ดินมาจำนองกับนายบัญชา 10 ราย และถูกยึดโฉนดที่ดินไปแล้ว โดยหนึ่งในลูกหนี้ของนายบัญชา มีนางสุดารัตน์ ภูผานี อายุ 43 ปี นักธุรกิจไทยในสหรัฐ ที่นำโฉนดที่ดิน 33 ไร่ ราคา 49 ล้านบาท มาจำนองกับนายบัญชา 3.8 ล้านบาท เพื่อให้นางอุไร ฉิมหลวง หรือนกน้อย อุไรพร นำไปทำวงต่อ จนเป็นข่าวดังเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตำรวจยังติดประกาศอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ เช่น อาคารโรงงานผลิตนม บรรจุนม ออฟฟิศ รถยนต์หรู 4 คัน และตู้เซฟ 1 ตู้ รวมทั้งบ้านของนายบัญชา ที่ให้เช่าอยู่ที่ตลาดไทยอีสาน เขตเทศบาลนครอุดรธานี ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี
โดยคดีสืบเนื่องจากนางสุดารัตน์ ภูผานี แจ้งความจับ นกน้อย อุไรพร หมอลำชื่อดังวงเสียงอิสาน โดยระบุว่าถูกเบี้ยวหนี้ 3.8 ล้านบาท หลังยืมโฉนดที่ดิน 33 ไร่ มูลค่า 49 ล้านบาท ไปจำนองกับเสี่ยตี๋ นายทุนที่ถูกจับกุมในวันนี้ ซึ่งผ่านไป 3 ปี นางสุดารัตน์ ยังไม่ได้โฉนดคืน เนื่องจากทางนกน้อย ไม่มาเคลียร์หนี้คืนโฉนดตามนัด ทำให้นางสุดารัตน์ ต้องต้องเลื่อนตั๋วเครื่องบินกลับอเมริกามากกว่า 6 ครั้ง
ต่อมานางสุดารัตน์ และนกน้อย อุไรพร ตกลงจะไถ่ถอนที่ดินคืน แต่เสี่ยตี๋ ไม่ยอมให้ไถ่คืน บอกว่า หากจะไถ่จะต้องนำเงินมา 4.5 ล้านบาท เมื่อ น.ส.สุดารัตน์ เตรียมเงินมาไถ่ถอนคืนอีก นายทุนไม่ยอมให้ไถ่อีก จึงมีการร้องเรียนไปยัง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นเหตุให้มีการจับกุมนายทุนครั้งนี้
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เปิดเผยว่า การเข้าจับนายทุนเงินกู้นอกระบบ คดี “นกน้อย อุไรพร” มีการนำโฉนดไปจำนอง ไปค้ำประกันเอาไว้ ซึ่งศาลจังหวัดอุดรธานีอนุมัติหมายจับในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” และได้เข้าจับกุมแล้ว 2 คน นายทุนและนายหน้า โดยได้ยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ ประกอบด้วยรถยนต์ รถตู้ รถจักรยานยนต์ 14 คัน ที่ดิน 14 ไร่ บ้านและที่ดิน 1 หลัง อาคารที่พักอาศัย 1 หลัง อาคารซักรีดพร้อมเครื่องจักร 1 หลัง อาคารห้องเย็น 1 หลัง อาคารเก็บสินค้า 1 หลัง ห้องแถวตลาดไทยอีสาน 1 คูหา เอกสารสัญญากู้เงิน รวมมูลค่าทั้งหมด 527 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจค้นบ้านนายทุนเงินกู้นอกระบบในเขต อ.สร้างคอม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนมา จำนวน 5 จุด ยึดโฉนดที่ดินได้ 249 ฉบับ ทำให้การตรวจค้นเมื่อวานนี้ได้ตรวจยึดและอายัดทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 1,649 ล้านบาท
ผบช.สตม.ระบุด้วยว่า การเอารัดเอาเปรียบประชาชนในลักษณะเช่นนี้ ขอเตือนให้หยุด กรณีของคุณนกน้อย เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
ด้าน น.ส.สุดารัตน์ ภูผานี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ได้นำเงิน 4 ล้าน ซึ่งเป็นเงินที่ตนไปยืมมาทั้งหมด โดยแม่นกน้อย ไม่นำเงินมาช่วยไถ่โฉนด บอกจะนำเงินไว้ช่วยลูกวง แม้ตำรวจจะช่วยประสานก็ตาม ซึ่งวันนัดไถ่ถอน ตนและตำรวจได้นั่งรออยู่สำนักงานที่ดิน อ.หนองหาน นายบัญชา ผิดนัดไม่ยอมมา โดยให้เหตุผลว่าต้องจ่ายเพิ่มอีก 2 ล้าน เป็นค่าฟ้องว่าตนเองหมิ่นประมาท ทำให้นึกถึง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เป็นที่พึ่งสุดท้าย ส่วนจะให้ไถ่ถอนโฉนดกี่บาท ก็ต้องให้ท่านช่วยเจรจา หลังไถ่มาแล้วจะนำโฉนดไปขายเพื่อนำเงินไปลงทุนธุรกิจที่อเมริกา ส่วนแม่นกน้อย ยังคงถูกดำเนินคดีต่อไป ทราบว่าตำรวจส่งฟ้องไปยังอัยการแล้ว.-สำนักข่าวไทย
