กทม.21 พ.ย.-ผู้ว่า กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของโป๊ะเรือตามท่าเรือต่างๆ รองรับวันลอยกระทงวันพรุ่งนี้ โดยสามารถเปิดใช้บริการได้ 348 ท่าจาก 436 ท่า พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและติดป้ายแสดงจำนวนสูงสุดที่สามารถรับน้ำหนักได้
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.)พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกียวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยท่าเทียบเรือ และโป๊ะบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดงานลอยกระทงในวันพรุ่งนี้ (22พ.ย.) โดยเริ่มตรวจ ตั้งแต่ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือพระปิ่นเกล้า ฝั่งเขตธนบุรี เขตบางกอกน้อย พระราม 8 เขตบางพลัด
ผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบท่าเรือและโป๊ะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่ามีท่าเรือโป๊ะอยู่ในสภาพใช้งานได้ทั้งหมด 348 ท่า ชำรุด 88 ท่า จากทั้งหมด 436 ท่า ซึ่งในส่วนของท่าเรือและโป๊ะที่ใช้งานได้จะเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาลอยกระทงและจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทุกจุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาลอยกระทงพร้อมติดป้ายแสดงจำนวนสูงสุดที่โป๊ะ และท่าเรือจะรับน้ำหนักได้ เพื่อเตือนประชาชนแล้ว
สำหรับท่าเรือขนาดเล็ก กำหนดให้ลงได้ประมาณ 20-30 คน ขณะที่ท่าเรือขนาดใหญ่รองรับได้ 60-80 คน ส่วนท่าเรือที่ชำรุดได้สั่งปิด ห้ามใช้งานและติดป้ายประกาศเตือนห้ามเข้าและเชือกกั้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติแล้ว
สำหรับเทศกาลลอยกระทง ปี 2561 กทม.ได้จัดงานวันลอยกระทงบริเวณ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด และบริเวณคคองโอ่งอ่าง เขตพระนคร และเปิดสวนสาธารณะให้ประชาชนได้เข้ามาลอยกระทง จำนวน 30 แห่ง ทั่ว กทม.ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น.
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน งดเล่นพลุ ตะไล ปล่อยโคมลอย หรือบั้งไฟ เด็ดขาด และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีบุคคลใดฝ่าฝืน จุดและปล่อยโคมลอย โคมควัน บั้งไฟ ตะไล พลุ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ .-สำนักข่าวไทย
