ผู้การสั่งรื้อคดีเด็กหญิงรุมตบ 4 ต่อ 1 จนตกน้ำ

บึงกาฬ 1 พ.ย.-ผู้การบึงกาฬ สั่งตำรวจสอบสวนคดี เด็กหญิง 14 ปี 4 คน รุมตบ เด็กหญิง 16 ปี อีกครั้ง หลังมีคลิปเผยแพร่ในโซเชียล ขณะที่แม่ย้ำเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เรียกร้องพ่อ-แม่เด็กรับผิดชอบ


กรณีที่เฟซบุ๊ก  Social Hunter V.ss เผยแพร่เรื่องราวเด็กวัยรุ่นกลุ่ม 1 ราว 4-5 คนกำลังร้ายร่างกายคู่กรณีหญิงวัย 16 ปี แคปชั่น นี้หรอสังคมไทย น้องสาวโดนรุมตี 4 ต่อ 1 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 พร้อมระบุ ว่าไงครับ สภ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ทำไรมากกว่านี้ไม่ได้หรอ เอาพ่อแม่มัน มารับแทนซิ #เลี้ยงลูกไม่ใช่แค่สอนให้มันดีควรดูแลพฤติกรรมมันด้วย


หลังมีกระแสจากสังคม ล่าสุด พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สนง.คุมประพฤติจังหวัดบึงกาฬ ยุติธรรมจังหวัด ฝ่ายปกครองอำเภอโซ่พิสัย ลงพื้นที่สภ.โซ่พิสัย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าวเกิดเหตุขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 นางประนอม อายุ 47 ปี ได้พา ลูกสาว อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความว่าถูกกลุ่มเด็กหญิงวัยรุ่น 4-5 คน รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ จึงส่งตัวไปให้แพทย์ รพ.โซ่พิสัย ทำการตรวจร่างกาย ผลการตรวจของหมอออกมาว่าไม่พบบาดแผล พบกล้ามเนื้ออักเสบบางแห่ง ไม่มีกระดูกหักรักษาด้วยการให้ยา 3-5 วันคงปกติ จากนั้นได้ติดตามกลุ่มที่รุมทำร้ายมาสอบปากคำ และต้องลงกัน ซึ่งในวันนั้นทั้ง 2 ฝ่ายยินยอมไม่เอาเรื่องกันขอแค่เพียงให้อีกฝ่ายที่ถูกกระทำได้อบรมนิสัยเท่านั้น ซึ่งคลิปเห็นการณ์ที่รุมทำร้ายกันในวันนั้นไม่มี เมื่อตกลงกันได้ก็ปล่อยให้กับบ้านทั้งสองฝ่าย

พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลและรับฟังคดีและตรวจดูคลิปจากร้อยเวรเรียบร้อยแล้ว จึงสั่งการให้ตำรวจสอบสวนคดีขึ้นใหม่ โดยนำตัวเยาวชนทั้ง 4 มาดำเนินคดีทางกฎหมายเพราะเป็นความผิดชัดเจน และจะได้เรียกผู้เสียหายมาสอบสวนอีกครั้ง ถึงข้อเท็จจริงในวันนั้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปมีมากกว่านั้นหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นตั้งข้อหาเยาวชนหญิงทั้ง 4 คน(อายุ 13 จำนวน 1 คนและอายุ 14 จำนวน 3 คน)ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและส่งให้สถานพินิจควบคุมตัว ส่วนคนที่เหลือจะเรียกมาสอบสวนอีก หากมีความผิดก็จะดำเนินการเช่นกัน สอบถามเด็กทั้ง 4 คน รับว่าไม่ได้โพสต์คลิปดังกล่าว เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีที่ส่งไปเยาะเย้ยกัน จนทำให้พี่สาวเห็นว่าการกระทำดังกล่าวแล้วไม่พอใจ  จึงโพสต์ผ่านโซเซียลตามที่เป็นข่าวออกไป ซึ่งตำรวจ สภ.โซ่พิสัย กระทำตามขั้นตอนทุกอย่างเมื่อตกลงกันได้ ก็ปล่อยกับบ้าน แต่คลิปที่ออกมาทีหลังเป็นหลักฐานชัดที่จะแจ้งความผู้กระทำผิด และดำเนินการตามกฎหมายกับคนที่เกี่ยวข้องต่อไป 


หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หมูน้อย ตัวอ้วน” โพสต์คลิปพร้อมเล่าเหตุการณ์น้องสาวของเธอถูกกลุ่มวัยรุ่นหญิงรุมทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา เธอพาน้องสาวกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วไปช่วยเพื่อนหยอดน้ำกรดที่สวนยาง จากนั้นมีเพื่อนมารับไปกินส้มตำ พอกินเสร็จเพื่อนก็พาน้องสาวที่อ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่ง อ้างว่านัดกับเพื่อนไว้ แต่พอไปถึงก็ไม่เห็นใคร น้องสาวจึงบอกเพื่อนว่าขอกลับบ้าน แต่แล้วก็มีกลุ่มผู้หญิงอายุประมาณ 14-15 ปี 4 คน ขี่รถจยย.มาหาน้องสาวแล้วบอกว่าลูกพี่สั่งให้มาจัดการ จากนั้นก็รุมตบตี ทำร้ายร่างกาย โดยที่น้องสาวไม่มีทางสู้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 พื้นที่ สภ.โซ่พิสัย 

น.ส.มายด์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ทราบว่าวันเกิดเหตุตนกลับบ้าน ที่ จ.บึงกาฬ เพื่อนชวนไปทานข้าวเที่ยง หลังจากทานข้าวเสร็จเพื่อนคนดังกล่าวได้บอกกับตนว่ามีเพื่อนคนหนึ่งรอเจออยู่ เป็นเพื่อนสนิท เมื่อตนไปตามที่บอกแต่ไม่เจอ แต่มีกลุ่มคนที่รุมทำร้ายขับรถจยย.มา เข้ามาถามตนว่าจะเอายังไงลูกพี่เขาสั่งมา ไม่จัดไม่ได้แล้ว และถามตนว่าจะเอาเดี่ยวหรือรุม ตนก็พยายามจะขอตัวกลับบ้าน แต่กลุ่มนั้นก็รุม ตนและเพื่อนที่พาไปไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อก่อนก็สนิทกันรู้จักกันเรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกัน ปกติเมื่อก่อนตนอยู่ที่ จ.บึงกาฬ เพิ่งจะย้ายมาอยู่ จ.นนทบุรี ได้ 1 ปี ตอนนี้ตนไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว คนกลุ่มนั้นไม่ได้บอกว่ามาทำร้ายตนทำไมแต่บอกแค่ว่าลูกพี่เขาสั่งมาแค่นั้น เพื่อนตนที่ไปด้วยก็ไม่กล้าช่วยเพราะกลัวเด็กกลุ่มนั้นทำร้ายเหมือนกัน ตนถูกทำร้ายเป็นรอยข่วนและช้ำตามร่างกาย ตนได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ แต่เอาผิดเขาไม่ได้เพราะตำรวจบอกว่ากลุ่มเขาอายุไม่ถึง 18 ปี แม่หลังเห็นคลิปภายหลัง แม่เสียใจมาก ร้องไห้ แม่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะไปแจ้งความอีก สภาพจิตใจตนตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่คนกลุ่มนั้นก็ยังส่งแชทมาข่มขู่ว่าถ้าเจออีกตายแน่ ตนเสียความรู้สึกที่ไว้ใจเพื่อนมาก ตอนนี้กลัวไม่กล้าที่กลับไปบ้าน อยากให้ตำรวจทำคดีนี้ให้ยุติธรรม เพราะตนเจ็บตัวฟรี อยากเตือนเพื่อนๆหรือน้องๆว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครให้คิดว่าเป็นตัวเอง ส่วนเรื่องคดีต้องถามแม่และพี่สาวว่าจะทำอย่างไรต่อ ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องที่แฟนเก่าของแฟนที่ตนเลิกไปสั่งคนมาทำร้ายตน

ด้าน นางประนอม เหล่าสุนา อายุ 48 ปี มารดาน้องมายด์ เปิดเผยว่า เด็กกลุ่มที่ทำความรุนแรงกับลูกตน ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ครั้งแรกที่แจ้งความลงบันทึกประจำวันครั้งแรกเพราะตนอยากให้โอกาสเด็ก หลังจากกลับมาที่ จ.นนทบุรี ตนจึงเห็นคลิปที่ลูกถูกทำร้าย ตนเสียใจมากอยากให้พ่อแม่เด็กออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ ตนไม่ได้อยากได้เงิน ตนอยากให้เด็กกลุ่มนี้ถูกดำเนินคดี เพราะอายุแค่ 14 ปียังทำแบบนี้ โตขึ้นจะเป็นอย่างไร อาการลูกตนมีใบแพทย์ออกมาว่ามีร่องรอยทำร้ายและเส้นเลือดในสมองช้ำ ครั้งแรกที่กลุ่มเด็กมาที่โรงพักตนไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี ทางตำรวจแจ้งแค่เรื่องทะเลาะวิวาท ลูกตนก็ถูกทำร้ายฟรี ถ้าถูกกดน้ำตายไปจะทำอย่างไร หลังสอบสวนเสร็จก็แยกย้ายไป และไม่มีการขอโทษ หลังจากเห็นคลิปตนยอมไม่ได้ ถ้าเป็นลูกเขาจะทำอย่างไร ตนจะกลับไปแจ้งความและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไปทุกหน่วยงานที่ไปได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากรุ่นพี่คนหนึ่ง สามีเขาได้มาติดต่อกับน้องมายด์แต่หลังจากนั้นน้องมายด์ก็ย้ายมาอยู่นนทบุรี คนชื่อมิลล์หาว่าน้องมายด์แย่งสามีเขา แต่ตนยืนยันว่าน้องมายด์ไม่เคยติดต่อกับผู้ชายคนนั้น เพราะหลังจากออกจากโรงเรียนตนได้พาน้องมายด์มาอยู่ที่นี่ ไม่ได้เจอกับผู้ชายคนนั้น อยากให้ผู้ปกครองเด็กกลุ่มนั้นดูแลลูกและสั่งสอนลูกให้ดีกว่านี้ ตนอยากได้ความยุติธรรมให้ลูกตน ตนไม่อยากได้เงิน หลังจากตนไปแจ้งความยังมีการเขียนข่มขู่มาอีกและหาว่าตนกระจอกมากที่เดินเรื่องให้ลูกได้แค่นี้ ตำรวจที่นั้นก็เฉยเมย ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันรุนแรงเกินไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]