ศาล รธน.ไต่สวน 3 พยานคดีหุ้น “ดอน”

ศาลรัฐธรรมนูญ 25 ก.ย.-ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน 3 พยานคดีหุ้น “ดอน” โดยประธานคณะกรรมการไต่สวนของ กกต. ยันทำเอกสารโอนหุ้นย้อนหลัง พบพิรุธไม่แจ้ง ป.ป.ช. ไม่มาชี้แจง ด้านกรรมการ 2 บริษัทฯ แจงไม่ขึ้น ปมต้องจัดประชุมวิสามัญรับรองการโอนหุ้น-ไร้หนังสือนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแจ้งเปลี่ยนแปลงหุ้น ศาลนัดพิจารณาคดีนี้ครั้งต่อไป 17 ต.ค.61


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25ก.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสามว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 และต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสองหรือไม่ โดยศาลได้ให้พยาน 3 ปาก คือ นายมนัส สุขสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวของสำนักงาน กกต.  , นายภัฏฏการก์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการบริษัทปานะวงศ์ รีแอลที่ จำกัด และนายตรีวัฒน์ ทังสุบุตร กรรมการผู้จัดการบริษัทปานะวงศ์ จำกัด เข้าไต่สวน  โดยนายดอน และนายเสรี สุวรรณภานนท์ ทนายความของนายดอน ได้เข้าร่วมรับฟังและซักถามพยานด้วย

ในการไต่สวน ศาลได้พยายามสอบถามเรื่องของข้อบังคับบริษัทเกี่ยวกับการโอนหุ้น การลงรายการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท การมีหนังสือนำส่งรายงานการโอนหุ้นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และการจัดประชุมสามัญและวิสามัญประจำปีของบริษัทที่มีข้อสังเกตว่าวาระการประชุมของปี 2557-2559  มี 5 วาระที่ดำเนินการเป็นประจำในทุกปี โดยไม่พบว่ามีเรื่องการรับรองการแจ้งเปลี่ยนแปลงผู้มีถือหุ้นเลย แต่มาพบเป็นวาระการประชุมเดียวในวาระการประชุมวิสามัญของปี 2560


นายมนัส ในฐานะประธานคณะกรรมการไต่สวนคดีนี้ของ กกต. ชี้แจงว่า ในการสอบสวนเมื่อมีเหตุสงสัยเรื่องพยานเอกสารได้ให้โอกาสนายดอน ผู้ถูกร้องมาชี้แจงหลายครั้ง แต่ไม่มา ส่งเป็นเอกสารมาเท่านั้น โดยพยานเอกสารที่นายดอนส่งมาแม้จะเป็นหนังสือของนางนรีรัตน์ ปรมัตถ์วินัย ภรรยายนายดอน ที่แสดงเจตนาโอนหุ้นให้นายเพื่อน ปรมัตถ์วินัย บุตรชายในวันที่ 10 เมษายน 2560 และมีการโอนหุ้นในวันที่ 27 เมษายน และวันที่ 30 เมษายน 2560 ถ้ามีการดำเนินการจริงในวันเวลาดังกล่าว ทำไมจึงไม่มีการแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับทราบ และแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นในบริษัทแล้ว ขณะเดียวกันกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และประธาน ป.ป.ช.แจ้งมาเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นระยะเวลาหลังรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ไปแล้ว 4 เดือนว่าการถือหุ้นของนางนรีรัตน์ในบริษัททั้งสอง ยังคงเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้น ประกอบกับทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทภายในครอบครัว จึงทำให้คณะกรรมการไต่สวนฯ เห็นว่าการชี้แจงของนายดอนที่ว่าภรรยามีการโอนหุ้นให้นายเพื่อนใน 30 วันหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ไม่น่าเชื่อถือ

“ผมในฐานะประธานคณะกรรมการไต่สวนฯ มีหนังสือไปยังประธานบริษัททั้งสองเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ขอให้ชี้แจงว่าระหว่างปี 58-60 นางนรีรัตน์ ได้ถือหุ้นในบริษัทเท่าไร คิดเป็นละร้อยละเท่าไรจนถึงปัจจุบัน และได้หุ้นมาด้วยวิธีใด ซึ่งบริษัทก็ตอบมาเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ว่าการถือหุ้นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะบริษัทปานะวงศ์ จำกัด  ระบุว่านางนรีรัตน์ถือหุ้น 7,200 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 12 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ตรงกับข้อมูลที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและประธาน ป.ป.ช.ส่งมา เมื่อพยานหลักฐานเป็นเช่นนี้ คณะกรรมการไต่สวนฯ ก็ไม่อาจฟังเป็นอย่างอื่นได้” นายมนัส กล่าว

นายมนัส ยังยอมรับกับคำถามที่นายเสรี ทนายความของนายดอน ซักค้านว่าที่นายมนัสเห็นว่าพยานหลักฐานที่นายดอนนำเสนอไม่น่าเชื่อถือและเป็นการทำย้อนหลังเพื่อเอาไว้ชี้แจงต่อศาลเท่านั้นเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่มีอยู่ในมติของคณะกรรมการไต่สวนฯ  หรือในการพิจารณาของ  กกต. เป็นการตอบในประเด็นที่ศาลตั้งประเด็นขอความเห็นว่ามีความเห็นเพิ่มเติมต่อกรณีนี้อย่างไร


ด้านนายภัฏฏการก์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการบริษัทปานะวงศ์ รีเอลที่ จำกัด ชี้แจงว่า หุ้นของบริษัทเป็นใบหุ้นระบุชื่อโดยมีข้อบังคับบริษัทว่าถ้ามีการโอนหุ้นต้องแจ้งบริษัททราบเพื่อป้องกันคนนอกไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อโอนหุ้นแล้วต้องเข้าที่ประชุมเพื่อรับทราบทุกครั้ง แล้วจึงมอบสำนักบัญชีไปดำเนินการแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าฯ ส่วนการโอนหุ้นในอดีต เคยมีของนายตรีวัฒน์ โอนให้บุตรแต่จำไม่ได้ชัดว่าปีอะไร ยอมรับว่าในปี 2557-2559  ไม่มี เพิ่งจะปรากฎเป็นครั้งแรก คือ กรณีของนางนรีรัตน์ ซึ่งเห็นว่าเมื่อบริษัทรับทราบสัญญาการโอนหุ้นในวันที่ 30 เมษายน  ก็น่าจะถือว่าการโอนหุ้นมีผลตามกฎหมายในวันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายจรัญ  ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สอบถามถึงการแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นไปยังกรมธุรกิจการค้าว่าต้องมีหนังสือนำส่ง นายภัฏฏการก์  ได้เคยเซ็นหรือเห็นหนังสือฉบับนี้หรือไม่ เพราะตามแบบพิมพ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้เป็นกรรมการบริษัทต้องลงนามและประทับตราบริษัท รวมทั้งจากเอกสารกาประชุมสามัญปี 2557-2559 ที่บริษัทนำส่งทุกครั้งจะมี 4-5 วาระ เช่น การรับรองผลการดำเนินการประจำปีที่ผ่านมา การตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและการกำหนดค่าตอบแทน การรับรองงบดุล แต่เหตุใดในการประชุมสามัญปี 2560 กลับไม่มีวาระเหล่านี้ และมามีในการประชุมวิสามัญครั้งที่ 2  ซึ่งก็ไม่มีวาระในเรื่องแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและค่าตอบแทน

ขณะที่นายตรีวัฒน์ ทังสุบุตร กรรมการผู้จัดการบริษัทปานะวงศ์ จำกัด ชี้แจงว่า หุ้นของบริษัทเป็นประเภทระบุชื่อ บริษัทไม่มีข้อบังคับ แต่เมื่อมีการโอนหุ้นต้องเข้าที่ประชุมเพื่อแจ้งผู้ถือหุ้นทราบ โดยจะนำเข้าที่ประชุมหลังเปลี่ยนแปลงกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงจะมีอยู่ในสมุดบัญชีผู้ถือหุ้น ยืนยันการเปลี่ยนแปลงหุ้นในกรณีนี้มีบันทึกอยู่ในสมุดทะเบียนและนำส่งภายหลัง

นายตรีวัฒน์ กล่าวอีกว่า การประชุมสามัญประจำปี 2560 มีวาระ 2 เรื่อง คือ รับรองงบการเงิน กับเรื่องอื่น ไม่มี 5 วาระเหมือนปี 2557-2559  รวมทั้งไม่มีวาระการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี เพราะเจ้าหน้าที่ที่รับดำเนินการทำไม่ทัน และในเมื่อการประชุมสามัญไม่ได้อนุมัติแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทน จึงต้องมีการประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องที่ขาด แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ส่วนการแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ดำเนินการ จึงไม่ทราบเรื่องหนังสือนำส่งและกระบวนการ เพราะเป็นการแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การที่คณะกรรมการไต่สวนของ กกต.ส่งหนังสือไปสอบถามเรื่องการถือหุ้นของนางนรีรัตน์นั้น เจ้าหน้าที่บริษัทได้ตอบตามเอกสารที่ปรากฎกับกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่ได้ตอบตามที่มีการโอนหุ้นจริง เพราะยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ ประกอบกับเจ้าหน้าที่เร่งรัดในเรื่องการตอบโดยให้เวลาเพียง 10 วันนับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 แต่บริษัทก็ตอบภายใน 3 วัน

หลังการไต่สวนเสร็จสิ้น นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้แจ้งต่อคู่กรณีว่า ศาลนัดพิจารณาคดีนี้ในครั้งต่อไปวันที่ 17 ตุลาคม 2561 เวลา 13.30 น. ขณะที่นายดอน ได้เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]