ไทยตั้งเป้าผลิตรถไฟฟ้าร้อยละ 25 ในปี 79

กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – กระทรวงอุตสาหกรรมย้ำตั้งเป้าภายในปี 2579 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 25 ของการผลิตทั้งหมด แนะอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่


นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานสัมมนา “20 ปี สถาบันยานยนต์ ทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์” ว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายที่จะให้การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV คิดเป็นร้อยละ 25 ของการผลิตทั้งหมดภายในปี 2579 และมั่นใจว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีความพร้อม ทั้งบุคลากรและซัพพลายเชนที่เข้มแข็ง และจะสามารถรักษาการเป็นฐานการผลิตสำคัญในอาเซียนต่อไป

นายสมชาย กล่าวว่า 5 ปีนับจากนี้จะอยู่ในช่วงของการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการลงทุนผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทุกประเภท เพื่อให้ครอบคลุมเทคโนโลยีของแต่ละค่ายที่มีทิศทางแตกต่างกันทั้งรถยนต์ประเภทไฮบริด ไฮบริดปลั๊กอิน รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ รวมถึงชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าและสถานีอัดประจุไฟฟ้าภายใต้การส่งเสริมของกระทรวงพลังงาน  ด้านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีเงื่อนไขที่ดีสำหรับผู้ลงทุน ปัจจุบันมีผู้ยื่นลงทุน 4-5 ราย โครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น  สถานีชาร์จ ด้านมาตรฐานรถยนต์ไฟฟ้าก็พร้อมแล้ว ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) 


ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในภาพรวมขณะนี้ แบ่งได้ 3 กุล่ม คือ กลุ่มแรก เมื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้วชิ้นส่วนที่ผลิตจะไม่ถูกนำใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า กลุ่มที่ 2 ยังมีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในปัจจุบันบางส่วน และกลุ่มที่ 3 จะต้องลงทุนผลิตชิ้นส่วนใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับการพัฒนาเอสเอ็มอีที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือพัฒนายกระดับ โดยใช้บิ๊กบราเธอร์ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอี โดยมีบริษัท เด็นโซ่ เข้ามาช่วยเหลือ นำ การพัฒนา Lean Automation System  Integrator  หรือ LASI Project   

ด้านสถาบันยานยนต์จึงตั้งศูนย์วิจัยยานยนต์สมัยใหม่หรือ Next Generation Automotive Research Center เพื่อศึกษาและวิจัยแนวโน้มเทคโนโลยีและนวัตกรรมของยานยนต์ พร้อมเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้สอดคล้องกับเทคโนโลยียานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป

นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์สำคัญ เป็นผู้ผลิตยานยนต์อันดับ 12 ของโลก แต่จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการที่ไทยมีโปรดักส์แชมป์เปี้ยน คือ รถกระบะและอีโคคาร์ ซึ่งใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ขณะที่แนวโน้มการผลิตรถยนต์สมัยใหม่มุ่งสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตรถยนต์ไทยจึงต้องปรับตัว ซึ่งสถาบันยานยนต์ไทยเตรียมพร้อมด้วยการปรับนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปรับตัวและก้าวทันกระแสการเปลี่ยนแปลง


ส่วนการปรับสายการผลิตรถอีโคคาร์ไปสู่อีโคอีวีนั้น อีโคคาร์และอีโคอีวี มีหลักการการผลิตแนวเดียวกัน แต่เมื่อจะปรับไปสู่การผลิตอีโคอีวีจะต้องปรับปรุงมาตรฐานต่าง ๆ เพิ่ม เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ทั้งแบตเตอรี่ และอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งสถาบันยานยนต์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้สามารถก้าวหน้าต่อไป 

นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้ทำการแทนผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้เป็นปีที่ 57 แล้ว อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถขึ้นมาเป็นฐานการผลิตมากที่สุด อันดับที่ 12 ของโลก ไทยสามารถรักษาตำแหน่งนี้มาได้พอสมควร โดยเคยทำได้ถึงอันดับที่ 9 เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันไทยมีกำลังการผลิตรวม 3 ล้านคันต่อปี ใช้กำลังจริงประมาณ 2 ล้านคันต่อปี แต่คาดว่าจากสภาพตลาดที่ฟื้นตัวขึ้นคาดว่าการใช้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ 11 ราย จักรยานยนต์ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต โดยมีแนวโน้มเป็นการผลิตบิ๊กไบค์ 7 ราย และมีผู้ผลิตชิ้นส่วน 2,200 ราย 

นายอิดิศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้าจะเป็นทศวรรษของการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งปีที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีเห็นชอบนโยบายปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยมุ่งสู่การผลิตยานยนต์สมัยใหม่มีมาตรการรองรับทั้งการส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมปริมาณการใช้ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น สถานีชาร์จ และมาตรฐานความปลอดภัย การจัดการกับแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว เป็นต้น ซึ่งสถาบันการยานยนต์มีการปรับบทบาทให้สอดคล้องเช่นกัน และจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว สถาบันยานยนต์จะติดตามและวิเคราะห์และนำมารายงานสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องนำเสนอภาครัฐและภาคเอกชน ประชาชนต่อไป 

สำหรับมาตรการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของไทย มาตรการชุดแรก มุ่งส่งเสริมผลิตรถไฮบริด โดยกำหนดให้ผู้ผลิตที่สนใจยื่นโครงการภายในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ยื่น 7 ราย ปัจจุบันอนุมัติลงทุน 5 ราย โดยเป็นการลงทุนผลิตทั้งรถยนต์กลุ่มไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด 3 ราย และรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด 2 ราย ปีนี้มีการยื่นขอลงทุนผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอีก 1 ราย รวมเป็น 8 ราย  ซึ่งมาตรการส่งเสริมการผลิตรถประเภทปลั๊กอินและรถอีวี ให้ยื่นขอรับส่งเสริมโครงการลงทุนไม่เกินสิ้นปีนี้ ส่วนการพัฒนาต่อยอดอีโคคาร์ สู่การเป็นอีโคอีวี ปัจจุบันอีโคคาร์เข้าสู่ระยะที่ 2 ส่วนการจะปรับไปสู่การผลิตเป็นอีโคอีวี นั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการศึกษา

นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ณ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทราช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้ามาใช้บริการรวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ได้ ขณะเดียวกันสถาบันยานยนต์จะยกระดับการทำงานให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ให้บริการสะดวกรวดเร็วมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยพัฒนาจนมีศักยภาพและกำลังการผลิตปีละ 3 ล้านคัน ส่งออกรถยนต์ปีละกว่า 1 ล้านคัน สร้างรายได้คิดเป็นร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)  จากความท้าทายที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคและผู้เล่นรายใหม่ ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงทางด้านสิ่งแวดล้อมโลก ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วง 10 ปีข้างหน้า จะต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]