แนะรัฐบาลทบทวน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ

ท่าพระจันทร์  15 ก.ย. – คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดงานเสวนาวิชาการ “พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ กับผลกระทบต่อหน่วยงานภาครัฐ”  ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติอยู่ระหว่างพิจารณาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลนำร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐกลับไปพิจารณาใหม่ เพราะร่างกฎหมายนี้เป็นหลักการที่ผิดพลาดไม่เข้าใจระบบการจัดองค์กรของรัฐในประเทศไทย เนื่องจากร่างกฎหมายนี้รวมศูนย์อำนาจการจัดซื้อจัดจ้างไว้ที่กระทรวงการคลังแต่เพียงแห่งเดียวในรูปแบบคณะกรรมการ  5 ชุด หากรัฐบาลอีกหลายรัฐบาลต้องการจะทุจริตเชิงนโยบายก็สามารถสั่งการกระทรวงการคลังได้  ดังนั้น  ประเทศไทยจะกระจายอำนาจ และมีองค์กรอิสระไปเพื่ออะไร  และจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศ


นายสุรพล กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติปัจจุบันครอบคลุมเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานของรัฐทุกประเภท  จากเดิมใช้บังคับเฉพาะส่วนราชการเท่านั้น  ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์การมหาชนประมาณ 60 แห่ง  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) 7,000 แห่ง มหาวิทยาลัยในกำกับ ประการสำคัญรวมถึงเงินทุกประเภท  จากเดิมเฉพาะเงินกู้  เงินงบประมาณ และเงินช่วยเหลือเท่านั้น  ซึ่งแม้จะมีพระราชบัญญัติเป็นการเฉพาะ เช่น เงินของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่ไม่ต้องส่งเข้าคลังก็จะต้องถูกนับรวมด้วย  นอกจากนี้ ยังจะส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจกับหน่วยงานภาครัฐอื่น เพราะกำหนดให้มีคณะกรรมการ 5 ชุด โดยเฉพาะคณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ ทำให้การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการของทุกหน่วยงาน เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือหน่วยงานอื่น ๆ  ต้องใช้ตามที่คณะกรรมการชุดนี้ประกาศขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้น  ส่วนบทลงโทษหากทำผิดจะมีการลงโทษอาญาจำคุกขั้นต่ำ 1-10 ปี โดยไม่รอลงอาญา และต้องยุติการปฎิบัติราชการ ซึ่งกว่าจะทราบผลการพิจารณาก็ผ่านไป 4-5 ปี

นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า  ไม่เห็นด้วยกับพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ดังนั้น รัฐบาลน่านำกลับไปทบทวนว่าร่างพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างฯ สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้หรือไม่  เพราะเชื่อว่าจะเกิดปัญหาตามมาจากการใช้กฎหมายอีกมากมายและเกิดความเสียหายยากที่จะแก้ไข เพราะพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ กำหนดให้ทุกหน่วยงานของรัฐ เช่น  รัฐวิสาหกิจ ต้องปฎิบัติตามโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ เพราะเชื่อว่าจะทำให้เกิดปัญหาตามมา ทำให้ภาครัฐเสียโอกาสในการได้รับสินค้าและบริการ และกฎกติกาที่เขียนไว้ให้รัฐวิสาหกิจต้องทำตามจะทำให้ต้องซื้อของแพง  ดังนั้น  การกำหนดหน่วยงานทั้งหมดเข้ามานั้น เห็นว่าไม่สอดคล้องกับการดำเนินการปกติ  เพราะขณะนี้กฎหมายหลายฉบับของประเทศล้าหลัง เช่น  ด้านการเงินไปถึงการเงินสมัยใหม่อย่างฟินเทคแล้ว  และยังส่งผลให้งานด้านจัดซื้อจัดจ้างไม่มีเจ้าหน้าที่อยากรับทำหน้าที่นี้  เพราะเสี่ยงถูกร้องเรียนมาก


นอกจากนี้ กฎหมายน่าเขียนกำหนดให้ความคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ เช่น มาตรา 44 ที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญา และเห็นว่าคณะกรรมการ 5 ชุด โดยเฉพาะคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะมีคดีจำนวนมาก จากที่ปัจจุบันมีประมาณ 1.5 ล้านคดีมีมากพอพิจารณาทั้งปีอยู่แล้ว

นายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ รองผู้ว่าการ  กฟผ. กล่าวว่า ปี 2559 กฟผ.มีการจัดซื้อจัดจ้างเกือบ 6,000 ล้านบาท สัญญาจัดซื้อจัดจ้างกว่า 50,000 ฉบับ มีมากกว่า 100,000 รายการ  และอยู่ระหว่างดำเนินการอีกนับ 100,000 ล้านบาท การจัดซื้ดจัดจ้างถือว่ามีความสำคัญต่อการดำเนินงานของ กฟผ.อย่างมาก พระราชบัญญัติจัดซื้อจัดงานฯ ทั้งหมดถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่  กฟผ.มีข้อกังวลใจ  เพราะกฎหมายไม่ระบุทุกเรื่อง ยังจำเป็นที่จะต้องออกฎหมายลูกอีกหลายเรื่อง กฟผ.นอกจากมีงานผลิตไฟฟ้าที่ต้องซื้อขายและไม่เหมือนสินค้าอื่น ๆ เนื่องจากเมื่อผลิตแล้ว ต้องจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบทันที  หรือไม่ก็ต้องแปรสภาพ การซื้อขายจึงไม่เป็นแบบปกติทั่วไป การซื้อขายพลังงานไฟฟ้าน่าจะอยู่ในมาตรา 7  ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฎิบัติตามพระราชบัญญัติ นอกจากนี้  บริษัทลูก กฟผ.คือ บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ขายพลังงานกลับมาในประเทศการเจรจากับต่างประเทศมีข้อกังวลห่วงใยจะทำอย่างไร นอกจากนี้ การจะมีบริษัทลูกของบริษัทลูกจะเข้าระบบด้วยจะทำงานให้ได้อย่างไร  กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างผูกระบบเดียวไม่มั่นใจว่าจะทำอย่างไร  กิจกรรมต่าง ๆ จะเหมือนกันทุกอย่างเป็นเรื่องยาก

นายมณเทียร เจริญผล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ห่วงว่าการอุทธรณ์ของผู้เจตนาทุจริตจะทำให้เกิดปัญหาตามมามาก เพราะการพิจารณาไม่ง่าย หากมีการร้องเรียนทุกเรื่องจะทำอย่างไร ปัจจุบันเจ้าหน้าที่มีงานทำมากอยู่แล้ว  นอกจากนี้  ยังมีปัญหาตามมาจากการตีความที่ต่างกัน ดังนั้น  การบริหารสัญญาจึงเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องในประเทศ  เพราะมักมีการตีความที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม


พระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างจัดฯ จะแก้ไขปัญหาได้บางเรื่อง ราคากลางที่ออกมาจะสามารถคุมได้ทุกสินค้าหรือไม่  การที่ประชาชนมีส่วนร่วมที่ผ่านมา พบว่าประชาชนเสนอแนะแล้วแม้ราคาลดได้ก็จริง แต่มีเรื่องอื่นตามมาประชาชนไม่ทราบ เป็นต้น

นายประสาท พงษ์สุวรรณ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด กล่าวว่า น่าจะทบทวนกฎหมายฉบับนี้โดยรัฐบาลเพราะหากปล่อยให้เดินหน้าต่อไปภายใต้การดำเนินงานของคณะกรรมาธิการต่อไปการแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้คงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก  เพราะจากการติดตามร่างพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างฯ มาอย่างต่อเนื่องพบว่ามีสิ่งน่ากังวลแบ่งเป็น 2 เรื่องหลัก เรื่องแรกเห็นว่าเป็นโครงสร้างกฎหมายที่ใหญ่และกระทบโครงสร้างอิสระที่อยู่นอกระเบียบจัดซื้อจัดจ้างมาก่อน ซึ่งในส่วนของทางศาลปกครอง จึงเห็นควรเสนอให้ตัดหน่วยธุรการของศาลออกไปซึ่งที่จริงอยากจะเสนอหลายหน่วยงานด้วยว่าไม่ต้องเข้ามาอยู่ในพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้าง  เรื่องที่ 2 คือ ร่างกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง กำหนดว่าหากมีการยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง คู่สัญญา จะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐได้  และยังห้ามอุทธรณ์ ซึ่งเท่ากับไม่สามารถฟ้องคดีได้ เพราะจะกระทบสิทธิเสรีภาพประชาชน เป็นต้น

นายบุญทิพย์ ชูโชนาค ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กล่าวว่า พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ต้องการให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นมาตรฐานเดียวกันจากที่ปัจจุบันแตกต่างกันแต่ละหน่วยงาน เน้นเปิดเผยข้อมูลทุกเรื่องให้สาธารณชนเข้ามามีส่วนตรวจสอบ พร้อมเปิดให้มีการแข่งขันกันอย่างเสรี  เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างลดปัญหาการทุจริตให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบ เน้นความคุ้มค่า ตอบโจทย์นำมาใช้ราชการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบังคับใช้กับหน่วยงานภาครัฐทุกแห่ง ยกเว้นตามมาตรา 7 เช่น รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง ซึ่งรัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีปัญหา โดยรัฐวิสาหกิจต้องการกำหนดให้ชัดเจนในพระราชบัญญัติ  พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างกำหนดให้มีคณะกรรมการ 5 คณะได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ  คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ  คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ฉนับนี้จะเริ่มขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ โดยจะเริ่มจากผู้ประกอบการงานก่อสร้าง ปัจจุบันแม้จะมีการขึ้นทะเบียนแต่มาตรฐานการจัดชั้นต่างกัน  กรมบัญชีกลางจะดูแลรับผิดชอบขึ้นทะเบียนกลางทั้งหมด  พร้อมมีการประเมินผลงานที่รับไปทำ  หากงานไม่ผ่านจะไม่ให้ยื่นเสนอราคารับงานจากภาครัฐไว้ชั่วคราว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]