พม.5 ก.ย.-ปลัด พม.มอบนโยบายนิคมสร้างตนเอง ปี 62 เดินหน้าจ้างเอกชนรังวัดที่ดิน หลังช่างของ พส.ไม่พอและแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน
นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) มอบนโยบายการขับเคลื่อนนิคมสร้างตนเอง ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงและศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ตามพระราชดำริฯ ประจำปีงบประมาณ 2562ในการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2562 ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
นายปรเมธี กล่าวว่า กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) มีภารกิจสำคัญคือการพัฒนาสังคม จัดสวัสดิการสังคม สังคมสงเคราะห์ คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิ์ แก่คนไร้ที่พึ่ง ขอทาน สมาชิกนิคมสร้างตนเอง ราษฎรบนพื้นที่สูง และกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับนิคมสร้างตนเอง โดยมีหน่วยงานที่อยู่ในการกำกับ ดูแล และติดตาม จำนวน 63 หน่วยงาน ประกอบด้วย นิคมสร้างตนเอง 43 แห่ง ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง 16 แห่ง และศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ตามพระราชดำริฯ 3 แห่ง รวมทั้งพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ราษฎรบนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับปีงบประมาณ 2561 นิคมสร้างตนเอง ได้ขับเคลื่อนงานตาม พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 อาทิ การแก้ไข ปัญหา ที่ดินทำกิน และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพประชากรเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรยากจนและด้อยโอกาส) ขณะที่ ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง ได้จัดโครงการท่องเที่ยวภูมิวัฒนธรรม (ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง) ในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ตาก และอุทัยธานี เพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีชนเผ่า และเสริมสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรบนพื้นที่สูง พัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมสวัสดิการชุมชน ลดอัตราการอพยพย้ายถิ่น ขณะที่ศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ตามพระราชดำริฯ ขับเคลื่อนงานตามพระราชประสงค์ และพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามแผนงานโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาศักยภาพประชากรในพื้นที่โครงการตามพระราชประสงค์ โครงการหลวง เป็นต้น
ดังนั้น ปีงบประมาณ 2562 ในส่วนของ นิคมสร้างตนเอง ได้เน้นย้ำ การขับเคลื่อนงานตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 เป็นสำคัญ ควบคู่กับแผนถอนสภาพนิคมสร้างตนเอง ที่ได้จัดสรรที่ดินให้สมาชิกนิคมจนครบ และดำเนินงานบรรลุเป้าหมายแล้ว โดยจะเริ่มทยอยถอนสภาพเป็น 4 ระยะ เริ่มตั้งแต่ปี 2561เป็นต้นไปจนกว่าจะครบ 43 แห่ง พร้อมเร่งรัดการจ้างเอกชนเข้ามารังวัดที่ดินเพื่อแก้ไขปัญหาช่างรังวัดของ พส. ไม่เพียงพอ แก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนด้วยนโยบายOne Map การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ ขณะที่ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพของราษฎรบนพื้นที่สูง ด้วยการส่งเสริมสวัสดิการแก่กลุ่มเป้าหมาย เช่นการพัฒนากลุ่มอาชีพและสวัสดิการชุมชนสู่ชุมชนที่สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน การขับเคลื่อนโครงการท่องเที่ยวภูมิวัฒนธรรมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ .-สำนักข่าวไทย
