วอนอย่าวิตกเขื่อนวชิราลงกรณระบายน้ำเพิ่ม

กาญจนบุรี 31 ก.ค.- ผู้ว่าฯ กาญจนบุรีห่วงประชาชนตระหนกข่าวเขื่อนวชิราลงกรณระบายน้ำเพิ่ม ย้ำเป็นไปตามระบบจัดการน้ำ ยังไม่พบพื้นที่เสียหายรุนแรง เขื่อนมั่นคงดี ด้านสมาคมชาวเรือชาวแพระบุแม้ปริมาณน้ำสูงขึ้น ต้องใช้แรงลากแพมากขึ้น แต่ถือว่ายังไม่กระทบท่องเที่ยว

นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เร่งระบายน้ำในระยะนี้ว่า ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับการที่เขื่อนต้องระบายน้ำเพิ่ม เพราะเป็นไปตามแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เขื่อนเกิดความสมดุลและสามารถรองรับน้ำฝนที่อาจตกลงมาเพิ่มในช่วงฤดูฝน ซึ่งยังเหลืออีก 2 เดือนของฤดูกาล คือ สิงหาคมและกันยายน อีกทั้งแต่ละอำเภอได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและยังไม่พบว่าพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเพิ่มเป็น 28 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน 

นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนยังไม่น่าเป็นห่วง  และเช้าวันนี้ ( 31 ก.ค.) มีปริมาณน้ำกักเก็บจำนวน 7,170 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 81 ของปริมาณน้ำที่สามารถกักเก็บได้ และยังรองรับน้ำฝนได้อีก โดยเขื่อนได้ระบายน้ำวันละ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมประชุมคณะกรรมการเพื่อประเมินความเหมาะสมของการระบายน้ำเป็นระยะว่าจะมีการปรับเพิ่มหรือลดปริมาณการระบายน้ำในแต่ละวัน เพื่อให้การระบายน้ำมีความเหมาะสม ขอยืนยันว่าเขื่อนวชิราลงกรณยังมั่นคงแข็งแรงดี และมีการตรวจสอบทุกรอบ

ด้าน น.ส.รัฎฐ์ชาพัชร กระจ่างฉาย นายกสมาคมชาวเรือชาวแพจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จนถึงขณะนี้การท่องเที่ยวล่องแพในพื้นที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการที่เขื่อนระบายน้ำเพิ่ม แม้ปริมาณน้ำจะสูงจากเดิม แต่ไม่เป็นปัญหากับผู้ประกอบการเรือแพ เพียงแค่ต้องใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นในการใช้เรือลากแพแต่ละครั้ง เนื่องจากกระแสน้ำแรงขึ้น การลากแพก็ต้องใช้กำลังมากขึ้น

ส่วนผู้เลี้ยงปลาในกระชังริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง อย่างนายจรัลยุทธ เจตบุตร อายุ 54 ปี เกษตรกรเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง กล่าวว่า ช่วงที่เขื่อนระบายน้ำเพิ่มสังเกตว่าน้ำไหลแรงขึ้น กระทบต่อปลาเลี้ยงในกระชังแล้วประมาณร้อยละ 20 ซึ่งกลุ่มผู้เลี้ยงปลาได้ใช้วิธีชะลอความแรงของน้ำด้วยการนำไม้มาปักบริเวณหน้ากระชังและบรรเทาผลกระทบได้ระดับหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย