บุรีรัมย์ 20 ก.ค.-เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ส่งเสริมเกษตรกร อ.บ้านกรวด ปลูกดอกดาวเรืองเพื่อเป็นอาชีพเสริมจนประสบผลสำเร็จ และยังขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศ สร้างรายได้ปีละหลายล้านบาท
นายนวนิตย์ พลเคน เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ปกติในพื้นที่ อ.บ้านกรวด เกษตรกรจะมีอาชีพหลักคือ ปลูกยางพารา แต่ปัจจุบันราคายางค่อนข้างตกต่ำ เกษตรกรจึงหันมาปลูกดอกดาวเรืองเพื่อเป็นอาชีพเสริม ถือว่าประสบผลสำเร็จ และยังขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นทุกปี จนปัจจุบันเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศ มีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนละหลักล้านบาท เกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอเข้ามาสนับสนุนส่งเสริมเรื่องการรวมกลุ่มให้เกิดความเข้มแข็งในด้านการตลาด เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งยังจะเข้ามาช่วยดูแลแนะนำวิธีการกำจัดเชื้อราและวัชพืชด้วย โดยจะเน้นการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ซึ่งผลิตจากวัตถุดิบอินทรีย์ธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี
นายไพรัตน์ นาคพิมพ์ อายุ 58 ปี เกษตรกร ต.หนองไม้งาม อ.บ้านกรวด ที่หันมาปลูกดาวเรือง บอกว่า ปกติอาชีพหลักทำไร่ทำนา เห็นคนในหมู่บ้านหันมาปลูกดอกดาวเรืองจำนวนมาก จึงทดลองปลูกเป็นอาชีพเสริมบ้าง เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ แต่ละปีสามารถปลูกได้ 6-7 รุ่น เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการปลูกเพียง 2 เดือน สามารถตัดดอกขายได้แล้ว เมื่อตัดดอกแล้วก็จะนำไปที่จุดรวบรวมในหมู่บ้านเพื่อส่งขาย ปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยปีละหลักล้านบาท หักต้นทุนแล้วก็เหลือไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท 
ด้านนางสมปอง พลัง อายุ 41 ปี เกษตรกรผู้ปลูกดอกดาวเรือง และยังเป็นผู้รวบรวมดอกดาวเรืองส่งไปยังปากคลองตลาดด้วย กล่าวว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรใน ต.หนองไม้งาม หันมาปลูกดอกดาวเรืองเพิ่มขึ้น จนเป็นแหล่งปลูกดาวเรืองส่งขายปากคลองตลาดแหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันเกษตรกรหมุนเวียนปลูกตลอดทั้งปี ตัดดอกส่งขายได้ทุกวัน ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ครัวเรือนละหลักล้านบาทต่อปี
ปัจจุบันมีเกษตรกรหันมาปลูกดาวเรืองแล้วกว่า 70 ครัวเรือน เนื้อที่ปลูกประมาณ 300 ไร่ โดยดาวเรืองที่ปลูกมีทั้งสายพันธุ์ตราบ้าน ทองเฉลิม และลิงหางยาว ขนาดดอกมีทุกไซส์ ตั้งแต่เล็กไปจนถึงจัมโบ้ โดยดอกดาวเรืองเป็นพืชอายุสั้น ใช้เวลาเพียง 2 เดือน ก็สามารถตัดดอกส่งขายได้ แต่ละปีจึงสามารถปลูกได้ 5-6 รุ่น ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกดาวเรืองส่งขายเฉลี่ยครัวเรือนละกว่า 1 ล้านบาทต่อปี หรือขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูกของแต่ละครัวเรือน และหากหักต้นทุนแล้วก็จะมีกำไรปีละ 400,000-500,000 บาท.-สำนักข่าวไทย
