กรุงเทพฯ 19 ก.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งกรมชลประทานเร่งก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำแม่กวง-แม่งัด เพิ่มปริมาณน้ำภาคเกษตร รองรับท่องเที่ยว-อุตสาหกรรม
นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งรัดโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงในการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำแม่งัด-แม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ งบประมาณ 15,000 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างถึงปี 2564 แต่ขณะนี้โครงการมีความก้าวหน้าประมาณร้อยละ 24 ซึ่งล่าช้ากว่าแผน การขุดเจาะอุโมงค์ส่งน้ำ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกแม่งัด-แม่กวง ระยะทาง 22.975 กิโลเมตร และช่วง 2 แม่แตง-แม่งัด ระยะทาง 25.624 กิโลเมตร
นายกฤษฎา กล่าวว่า สาเหตุที่งานล่าช้ามาจากชั้นหินผุกว่าที่คาดไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างช่วงแรกที่จะเจาะเป็นอุโมงค์ เพื่อไปหาแนวขุดอุโมงค์จริงเหลือระยะเพียง 100 กว่าเมตร เมื่อถึงจุดแนวอุโมงค์จริงจะแยกทำงานเป็น 2 ฝั่ง อีกทั้งการประกอบหัวเจาะ ซึ่งเป็นหัวเจาะที่ต้องสั่งผลิตเป็นการเฉพาะงานที่โครงการนี้สั่งนำเข้าจากต่างประเทศ หากบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างไม่สามารถดำเนินการให้เร็วขึ้นได้อาจพิจารณาเปลี่ยนผู้รับเหมา
สำหรับอุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่แตง-แม่งัด ระยะทางตั้งแต่ประตูระบายน้ำแม่ตะมาน ซึ่งกั้นลำน้ำแม่แตง จนถึงอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล แบ่งออกเป็น 2 สัญญา มีกำหนดเสร็จพร้อมกันปี 2564 และอุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่งัด-แม่กวง ระยะทางตั้งแต่อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัด จนถึงอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวง แบ่งออกเป็น 2 สัญญาเช่นเดียวกัน โดยสัญญาที่ 1 มีความยาวอุโมงค์ 12.500 กิโลเมตร เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2558 กำหนดเสร็จปี 2564 ส่วนสัญญา 2 มีความยาวอุโมงค์ 10.476 กิโลเมตร เสร็จปี 2562
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำพื้นที่เกษตรระหว่าง 2 จังหวัด คือ เชียงใหม่และลำพูน ซึ่งเกษตรกรแย่งน้ำ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำของทั้ง 2 จังหวัดสูงกว่าปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา โดยการใช้น้ำเพิ่มขึ้นจากการเติบโตด้านการท่องเที่ยว การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม และปัจจัยสำคัญ คือ การขยายตัวของชุมชน จนส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร ปัจจุบันขาดแคลนน้ำเฉลี่ยปีละประมาณ 137 ล้านลูกบาศก์เมตรและคาดว่าในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า จะขาดแคลนน้ำเพิ่มขึ้นเป็นปีละประมาณ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร หากโครงการดังกล่าวเสร็จจะแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำได้ อีกทั้งจะมีพื้นที่รองรับน้ำเพื่อบรรเทาผลกระทบน้ำท่วมตัวเมืองในฤดูฝนได้อีกด้วย ซึ่งวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรจะเดินทางไปกับนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เพื่อติดตามความก้าวหน้าของงานและแก้ไขปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย
