กทม. 22 มิ.ย.-สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย เรียกร้องให้กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก ขึ้นค่าเซอร์วิสชาร์จในสนามบินจากเดิม 50 บาท เป็น 75 บาท และ 95 บาท พร้อมขอคิดค่ากระเป๋า กรณีผู้โดยสารมีสัมภาระเยอะ เพราะค่าต้นทุนสูง
การต้องรอต่อคิวนานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะได้ไปรับผู้โดยสาร ยังจุดที่สนามบินสุวรรณภูมิจัดไว้ให้ คือหนึ่งเหตุผลที่คนขับแท็กซี่คนนี้ บอกว่า รัฐบาลควรจะมีการขึ้นค่าเซอร์วิสชาร์จ หรือค่าบริการเพิ่มให้กับแท็กซี่ที่ให้บริการในสนามบิน เขาเล่าว่า แม้รถที่ใช้จะไม่ต้องผ่อนค่างวดแล้ว แต่เงินที่เหลือก็ยังไม่พอใช้ เพราะค่าเซอร์วิสชาร์จที่ตั้งราคาไว้ที่ 50 บาท น้อยเกินไป เมื่อเทียบกับต้นทุนเช่น ค่าแก๊ส ค่าสึกหรอ
นายกสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย บอกว่า นอกจากจะขอปรับค่าเซอร์วิสชาร์จแล้ว ยังจะขอคิดค่ากระเป๋า ในกรณีที่ผู้โดยสารมีกระเป๋าจำนวนมาก โดย 2 ใบแรก จะให้บริการฟรี ส่วนใบที่ 3 คิดค่าบริการ 10 บาท แต่หากมี 4 ใบขึ้นไปคิดราคาใบละ 30 บาท
ส่วนการขอปรับค่าเซอร์วิสชาร์จในครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงที่กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก จะดำเนินการปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซนต์ ตั้งแต่ปี 57 ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับไปแล้ว 8 เปอร์เซนต์ แต่ส่วนที่เหลือ และค่าเซอร์วิสชาร์จที่ขอเพิ่มขึ้นกลับยังไม่มีความคืบหน้า
ผู้โดยสารชาวอังกฤษคนนี้ ยอมรับได้หากมีการขึ้นราคาค่าเซอร์วิสชาร์จ แม้จะไม่เคยพบการเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จของแท็กซี่ในสนามบินประเทศอื่น
ส่วนผู้โดยสารชาวไทย แม้เข้าใจว่า ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่ก็ไม่เห็นด้วย เพราะค่าเซอร์วิสชาร์จราคา 50 บาทในปัจจุบัน ถือว่า ราคาแพงแล้ว
แต่ละวันสนามบินสุวรรณภูมิมีแท็กซี่ที่ให้บริการ 4,000 คัน เฉลี่ยเที่ยววิ่งต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 300,000 เที่ยว ส่วนเรื่องร้องเรียนในแต่ละเดือนลดลงมาก เหลืออยู่เดือนละ 50 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแท็กซี่คิดราคาเหมาจ่าย ไม่ยอมกดมิเตอร์
มีข้อมูลว่า เงื่อนไขในการปรับราคาที่รัฐบาลตั้งไว้คือ ต้องไม่มีประชาชนร้องเรียนการปฏิเสธผู้โดยสาร รวมถึงคุณภาพของรถต้องมีสภาพใหม่ และการบริการต้องมีคุณภาพ โดยคนขับแท็กซี่ ระบุว่า หากปรับราคาส่วนที่เหลืออีก 5 เปอร์เซนต์ พร้อมค่าเซอร์วิสชาร์จในสนามบินตามข้อตกลง จะแก้ไขปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธลูกค้า การคิดราคาเหมาได้ เพราะต้นทุนเช่น ค่าเสื่อม ค่าบำรุงรักษา ค่าเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ และค่าแรง ที่ภาครัฐใช้เป็นเกณฑ์ คิดราคามิเตอร์ต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่ผู้โดยสารมองว่า หากในอนาคตมีการปรับขึ้นราคาทั้งเซอร์วิสชาร์จ และค่ามิเตอร์ อาจหันไปใช้บริการรถอย่างอื่น เช่น แกร๊บ หรือรถโดยสารสาธารณะอื่นแทน.-สำนักข่าวไทย
