นายกฯ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่

นครสวรรค์ 11มิ.ย.- นายกฯ เดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษ จากสถานีรถไฟชุมแสง ไปยังสถานีรถไฟนครสวรรค์  ตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่  ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ   ทักทายกับชาวบ้านตลอดสองข้างทางอย่างเป็นกันเอง ย้ำ ลงพื้นที่ไม่มีเรื่องการเมือง เน้นโครงการดีมีประโยชน์เข้า ครม. พร้อมเป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้ชาวบ้านเข้าทำประโยชน์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ วันนี้ (11 มิ.ย.) ว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ. พิจิตร พบประชาชนที่บึงสีไฟ และตรวจเยี่ยมโครงการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตร ในช่วงเช้าแล้ว  นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาที่สถานีรถไฟชุมแสง เพื่อนั่งรถไฟขบวนพิเศษไปยังสถานีนครสวรรค์ ที่ ต.หนองปลิง  อ.เมือง ระยะทาง42 กิโลเมตร โดยขบวนรถได้ชะลอ เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ) และตรวจสภาพการพัฒนาบึงบอระเพ็ด

ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ชะโงกหน้าออกไปที่หน้าต่างรถไฟ พูดคุยกับประชาชน ที่มารอต้อนรับ ซึ่งบอกว่า “อย่าลืมไปเลือกตั้ง” พร้อมถามประชาชนด้วยว่า วันหน้ารถไฟเร็วขึ้นดีหรือไม่ 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นขบวนรถไฟขบวนเดียวกับสื่อมวลชน พร้อมบอกว่า “ขอให้สื่อเปิดเว็ปไซต์ข่าว หากเรื่องจริงยอมรับได้ หากไม่ใช่ ตนก็จะงอนนิดหน่อย” พร้อมขอสื่อมวลชนให้ช่วยบ้านเมืองด้วย และว่า รถไฟความเร็วสูง ขบวนนี้ น่าจะเร็วที่สุดแล้ว คือ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะสมัยเด็กๆ นั่งเพียง 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้น 

“ตอนนี้ดูนาข้าวสวยงาม แต่ผลผลิตออกมาราคาตก ดังนั้น ต้องนำพระราชดำริในหลวง รัขกาลที่ 9 มาปรับใช้ คือ สูตร 3 – 3 –  3 –  1 เห็นคันนาไหม เดี๋ยวนี้เหลือนิดเดียว ต้องเหลือที่ไว้บ้าง จะได้เก็บน้ำและปลูกพืชอื่นได้ และใครอย่าถามอะไรวันนี้ จะไม่ตอบเรื่องการเมือง เพราะไม่ได้มาเรื่องการเมือง หากใครถาม เดี๋ยวเหอะ ประเทศเรามีศักยภาพมาก ทั้งท่องเที่ยวการเกษตร แต่มีคนไม่กี่คนที่สร้างความวุ่นวาย” นานกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศขณะที่นายกรัฐมนตรีอยู่บนรถไฟ ได้หยอกล้อสื่อมวลชน โดยให้ช่วยกันร้องเพลงทัวร์นกขมิ้น  และหลังพูดคุยกับสื่อมวลชน ก็ได้ชื่นชมบรรยากาศตลอดสองข้างทาง  และมื่อมาถึงที่สถานีทับกฤช อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ นายกรัฐมนตรี ได้ระบุกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับว่า โครงการที่จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) เป็นการรวมทั้ง 4 จังหวัด ไม่ใช่แค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง  และว่า โครงการสร้างถนน ใช้เงินงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในงวดแรกก่อน ซึ่งจะทยอยให้แก้ปัญหาตามงบประมาณไทยนิยมยั่งยืน เป็นสิ่งที่ทำให้โดยไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนเลือกพรรคใด หรือเลือกใครเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ยังได้ช่วยซื้อสินค้าจากแม่ค้าหาบเร่บริเวณสถานีด้วย และเมื่อชาวบ้านร้องขอให้นายกรัฐมนตรีลงจากขบวนรถไฟมาพบปะกับประชาชนนายกรัฐมนตรีก็ได้ลงไปทันที  พร้อมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และได้บอกรักประชาชน และกล่าวว่า ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย ก่อนจะกลับขึ้นขบวนรถไฟ

สำหรับจุดที่สร้างรถไฟฟ้ารางคู่ ช่วงลพบุรี ปากน้ำโพ จะมีตัวแทนของชาวอำเภอตาคลีมาพบปะกับนายกรัฐมนตรี เพื่อฟังความคืบหน้าเสียงสะท้อนต่อโครงการรถไฟรางคู่ ที่ชาวตาคลีมีความเป็นห่วงว่าจะกระทบวิถีชีวิต  แยกชุมชนออกจากกัน  โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนที่เป็นตลาด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่แล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรี ได้พบปะชาวนครสวรรค์และผู้นำท้องถิ่นของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 และเยี่ยมชมนิทรรศการ บึงบอระเพ็ด พร้อมเป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรือ อยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกิน (พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าปลายห้วยกระเสียว ป่าห้วยทับเสลา และป่าห้วยคอกควาย) 

สำหรับการนั่งรถไฟขบวนพิเศษในครั้งนี้ ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 40 นาที       .- สำนักข่าวไทย