กรุงเทพฯ12 มี.ค. – คอนโดมิเนียมหรูกลุ่มตลาดบนย่านใจกลางธุรกิจยังน่าลงทุน ขณะซัพพลายมีจำกัดเปิดขายปีละไม่ถึง 10,000 หน่วย
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ปจำกัด นักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมเพื่อการลงทุน เปิดเผยภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมกลุ่มตลาดบนว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์กลุ่มคอนโดมิเนียมระดับบน กลุ่มไฮไรส์ที่มีความสูง 8 ชั้นขึ้นไปในพื้นที่ใจกลางศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD เช่น อโศก พร้อมพงศ์ ทองหล่อ เป็นกลุมที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องตามเศรษฐกิจของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลอดจนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC และการเดินทางเข้ามาของต่างชาติที่เพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมกลุ่มตลาดบนแต่ละปีมีการเปิดโครงการใหม่ 8,000 หน่วยเท่านั้น ราคาเฉลี่ย 250,000- 300,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมีปริมาณจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการลงทุนและเช่าที่ยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาหายากและราคาสูงขึ้น กลุ่มนี้จึงน่าลงทุนและให้ผลตอบแทนหรือแคปปิตอลเกนกว่าร้อยละ 3-4 ต่อปี ส่วนคอนโดมิเนียมกลุ่มโลว์ไรส์ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000-200,000 บาทต่อตารางเมตร ให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ 5 – 5.5 ต่อปี ขณะที่คอนโดมิเนียมพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ เหมาะที่จะอยู่อาศัยมากกว่า กลุ่มนี้มีการเปิดตัวประมาณปีละ 80,000-90,000 หน่วย แต่ละปีอัตราการขายจะอยู่ที่ร้อยละ 80 ของจำนวนโครงการการเปิดขายใหม่
ปัจจุบันต่างชาติสนใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มประเทศเอเชีย เนื่องจากราคายังต่ำกว่าอสังหาริมทรัพย์ในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง สิงคโปร์ และอังกฤษ ที่มีราคาต่อตารางเมตรสูงถึง 500,000-1 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 5 ปีข้างหน้าราคาคอนโดมิเนียมในไทยกลุ่มระดับบนราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นราคาที่ยังน่าสนใจลงทุนและมีความต้องการเช่าอยู่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ราคาคอนโดมิเนียมย่านอโศก พร้อมพงษ์ และทองหล่อ ปัจจุบันกลุ่มไฮไรส์ ห้องเดี่ยว ราคาอยู่ในช่วง 8-10 ล้านบาท 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 12-18 ล้านบาท 2 ห้องนอน ปัจจุบันราคา 15-20 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้าราคาต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้นไปอีก
สำหรับฮาบิแทท กรุ๊ป ปีนี้จะเปิดตัวโครงการคอนโดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มพรีเมี่ยมจับตลาดบน มูลค่าลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท จำนวน 5 โครงการ.- สำนักข่าวไทย
