ปตท.สผ.ศึกษาธุรกิจใหม่หนุนสำรวจและผลิต

กรุงเทพฯ 7 มี.ค. – ปตท.สผ.เตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ศึกษาธุรกิจใหม่ๆ แต่ยังยึดธุรกิจหลักไม่เปลี่ยนแปลง


นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ.อยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักคือสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยศึกษาทั้งธุรกิจต่อเนื่องด้านการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในการประกอบธุรกิจปิโตรเลียม ,การผลิตไฟฟ้าในเมียนมา รวมถึงห่วงโซ่ธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ทั้งแบตเตอรี่ และโซล่าร์ นอกเหนือจากปัจจุบันที่มีการต่อยอดไปในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แล้ว โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนอย่างน้อย 1 ธุรกิจในปีนี้ แต่ยังยืนยันว่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจะยังเป็นธุรกิจหลักของปตท.สผ. 

นายสมพรกล่าวว่า หลังจากที่ปตท.สผ.ทำธุรกิจขุดเจาะสำรวจและผลิตมานานกว่า 30 ปี จึงเห็นว่า จำเป็นต้องเริ่มมองหาธุรกิจแนวใหม่ คาดหวังว่า ภายในปีนี้ จะมีความคืบหน้าอย่างน้อย 1 แนวคิด เพื่อให้เกิดการเตรียมความพร้อมขององค์กรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ย้ำว่า ธุรกิจหลังสำรวจและผลิต และการ Bid สัมปทานก็ยังต้องเป็นหลักต่อไป  


นายสมพร กล่าวอีกว่า การศึกษาธุรกิจใหม่ดังกล่าวอยู่ในแผนกลุยทธ์ 3R ที่ได้กำหนดไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ได้แก่ RESET ,REFOCUS และ RENEW โดยในส่วนของ RENEW ปัจจุบันมีความชัดเจนมากขึ้นในส่วนของงาน 2 ส่วน ได้แก่ Old Thing New Way ซึ่งเป็นการทำการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในรูปแบบใหม่ ซึ่งจะให้ความสำคัญกับดิจิทัลมากขึ้นทั้งในการสำรวจและการบำรุงรักษา ตลอดจนการซ่อมบำรุง ซึ่งจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุนรวม  

ส่วนอีกแนวทางหนึ่ง คือ New Thing New Way ซึ่งจะเป็นการพิจารณาลงทุนธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ เช่น ธุรกิจด้านการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในการประกอบธุรกิจปิโตรเลียม เนื่องจากบริษัทจะต้องรื้อถอนสิ่งติดตั้งบางส่วนในพื้นที่ปิโตรเลียมของบริษัทที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 65-66 อยู่แล้วทำให้เริ่มมองการลงทุนในธุรกิจนี้ ซึ่งอาจจะเข้าร่วมทุนกับผู้ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ต่อไป  

ธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งบริษัทไม่ได้มองการลงทุนในไทย เพราะยังมีการแข่งขันที่รุนแรง แต่มองเห็นโอกาสการต่อยอดธุรกิจจากแหล่งสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพื่อมุ่งสู่ธุรกิจไฟฟ้าในเมียนมาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น เบื้องต้นมองโอกาสในพื้นที่ปิโตรเลียม M3 ซึ่งเป็นแหล่งในทะเลที่ยังสำรวจพบปิโตรเลียมในปริมาณไม่มากนัก จึงได้แจ้งความประสงค์กับรัฐบาลเมียนมา เพื่อจะสำรวจเพิ่มเติมนำก๊าซฯมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า โดยจะร่วมกับบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) เตรียมเสนอแพ็กเกจโครงการต่อรัฐบาลเมียนมา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งแรกปีนี้  


“กรณีเมียนมาเรารู้แน่ ๆ ว่าต้องการใช้ไฟฟ้ามาก เขาชักชวนผู้ลงทุนไปเสนอโครงการเพื่อจะผลิตไฟฟ้า ซึ่งความต้องการใช้อยู่ที่ย่างกุ้ง แต่แทนที่เราจะขายก๊าซฯเราก็อาจจะพิจารณาทำโรงไฟฟ้า เพราะจากการทำธุรกิจในเมียนมาอย่างยาวนาน ทำให้มองว่า แหล่ง  M3 อยู่ในวิสัยที่จะมาต่อยอดหรือเป็นส่วนหนึ่งมากกว่า คือที่บอกปริมาณสำรองน้อยไปหน่อย ถ้าไม่ทำอะไรก็เสียประโยชน์ เรามีท่อพาดผ่านแล้ว อย่างน้อยทำอะไรได้ไหมก็คิดอยู่ ต้องดูว่ามีแนวคิด อะไรในการที่จะทำแพ็กเกจเพื่อให้ข้อเสนอเราเป็นที่น่าสนใจ”นายสมพร กล่าว  

นายสมพร กล่าวว่า สำหรับธุรกิจใหม่บริษัทยังให้ความสนใจธุรกิจที่เป็นห่วงโซ่ (Value Chain) เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีห่วงโซ่ค่อนข้างยาวเริ่มตั้งแต่แบตเตอรี่ ,แหล่งแร่ ,การซ่อมบำรุง ,การติดตั้งในรูปแบบโซลาร์ฟาร์ม ก็จะมองหาโอกาสเข้าไปลงทุนในห่วงโซ่ดังกล่าวซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มได้มากน้อยแค่ไหน และจะมีความคุ้มค่าเพียงใด ขณะที่ในส่วนของห่วงโซ่ธุรกิจก๊าซฯ ก็ได้เริ่มแล้วในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ได้ร่วมมือกับปตท. เข้าไปลงทุน 10% ในโรงงานผลิต LNG ในมาเลเซีย  

ด้านกลยุทธ์ RESET บริษัทได้ปรับวิธีการทำงานเพื่อลดต้นทุนต่อหน่วย (unit cost) ลงมาอยู่ในระดับฐานใหม่ที่ราว 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพื่อให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับไม่สูงมาก และกลยุทธ์ REFOCUS เน้นขยายการลงทุนและเติบโตในพื้นที่ที่มีความเชี่ยวชาญและพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง โดยล่าสุดได้เข้าไปร่วมลงทุนพัฒนาแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมในบราซิลและเม็กซิโก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ขณะเดียวกันก็เริ่มเพิ่มงบประมาณการสำรวจปิโตรเลียมมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นพบแหล่งใหม่ ๆ จากที่ได้ชะลองบประมาณสำหรับการสำรวจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่สถานการณ์ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ โดยปีนี้ตั้งงบประมาณสำรวจไว้ราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรองรับการขุดเจาะหลุมในเมียนมา และในไทย  

นายสมพร กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการทบทวนโครงการลงทุนสำคัญในต่างประเทศ 5 แห่งเพื่อหาแนวทางบริหารจัดการที่ดีที่สุดกับบริษัท โดยในส่วนของโครงการ M3 ในเมียนมา มีแผนที่จะนำมาก๊าซฯมาพัฒนารองรับการผลิตไฟฟ้าป้อนให้กับเมียนมา ขณะที่โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน และ โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ อยู่ระหว่างการผลักดันให้เกิดการตัดสินใจในการลงทุนต่อไป 

อย่างไรก็ตาม มีส่วนโครงการที่ต้องทบทวน ได้แก่ โครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ในแคนาดา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันในแคนาดา ที่ผ่านมาบริษัทได้ตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ในช่วงไตรมาส 3/60 และแม้สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับขึ้นมา แต่ราคาน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นน้ำมันที่มีความหนืด ประกอบกับ ในพื้นที่ดังกล่าวก็ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดพัฒนาแหล่งออยล์ แซนด์ใหม่ ๆ ขึ้นมา ทำให้บริษัทพิจารณาความเป็นไปได้ของการลดสัดส่วน หรือขายสัดส่วนจากปัจจุบันที่ถืออยู่ 100% โดยจะเสนอขายให้กับผู้ที่ดำเนินการอื่น ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งจะมีความสามารถในการพัฒนาโครงการได้มากกว่าบริษัท ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มออกไปมองหาความสนใจในตลาดบ้างแล้ว  

ส่วนโครงการแคช เมเปิ้ล ในออสเตรเลีย ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาทางเลือกต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสในการพัฒนาโครงการ โดยมองหาพันธมิตรเข้ามาร่วมดำเนินการ จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 100% เนื่องจากเห็นว่าแหล่งดังกล่าวเป็นแหล่งก๊าซฯขนาดใหญ่ 3-4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต (TCF) แต่อยู่ในพื้นที่ที่ไกลจากตลาดที่อยู่ทางตะวันออก ส่วนแหล่งผลิตจะอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้การผลิตก๊าซฯจากแหล่งดังกล่าวอยู่ในรูปแบบของ LNG ซึ่งต้องเชื่อมโยงกับโรงงานผลิต LNG ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งก็ยังมีคิวที่รอการนำก๊าซฯเข้าโรงงานผลิต LNG จำนวนมาก ทำให้การพัฒนายังไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ววัน 

“ตอนนี้มี 2-3 option ที่จะเปิดโอกาสให้เราพัฒนาแหล่งแคช เมเปิ้ลได้ ก็ดูว่า option ไหนทำได้ดีและมีความเป็นไปได้สูงสุด ตอนนี้เรามองว่าจะหาพันธมิตรน่าจะเป็นประโยชน์ เพื่อมาร่วมพัฒนาแหล่งแคช เมเปิ้ลได้ดี เรากำลังทำการเปรียบเทียบอยู่”นายสมพร กล่าว  

นายสมพร กล่าวถึงแหล่งน้ำมันดิบมอนทาราในออสเตรเลียด้วยว่า ปัจจุบันกำลังการผลิตเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งนี้ราว 1 หมื่นบาร์เรล/วัน หลังจากที่ได้ขุดหลุมผลิตใหม่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทก็ยังเปิดโอกาสในการมองหารายใหม่เพื่อเข้ามาซื้อโครงการเพราะยังเชื่อว่าคนในพื้นที่น่าจะสามารถพัฒนาแหล่งน้ำมันนี้ด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าได้  

ส่วนโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติจากโครงการเซาท์เวสต์เวียดนาม หรือโครงการบล๊อก B ในเวียดนามที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนราว 7-8% นั้น น่าจะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision :FID) ได้ในปี 61 ส่วนในอนาคตจะมีการพัฒนาแหล่งก๊าซฯนี้เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าหรือไม่นั้น ทางบริษัทก็อยู่ระหว่างเก็บข้อมูล แต่การดำเนินการจะขอเริ่มที่เมียนมาก่อน – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]