วงเสวนาชี้ กรณีแม่ทำร้ายลูก 2 ขวบ สัญญาณเตือนสังคม

รร.มิราเคิล แกรนด์ 7 มี.ค.-เครือข่ายเด็กเยาวชนสตรี ชี้กรณีแม่ทำร้ายลูก 2 ขวบเสียชีวิต สัญญาณเตือนสังคมให้ร่วมตั้งสติ ระบุโครงสร้างเชิงระบบล้มเหลว ปล่อยครอบครัว ผู้เปราะบางที่ต้องดูแลเด็ก ไร้ทางออก เสนอทำงานเชิงรุก ผลักดันกลไกช่วยเหลือระดับชุมชน  


ในเวทีเสวนา “โศกนาฎกรรมแม่ลูก…บทเรียนและทางออกสังคมไทย” จัดโดย โครงการปกป้องเด็กและเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคม มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก


นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน และผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า จากกรณีแม่อายุ 21 ปี ก่อเหตุผลักลูกชายวัย 2 ขวบจมน้ำเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาตามที่ปรากฎเป็นข่าวนั้น ขอยืนยันไม่ใช่ข่าวฆาตกรรมแต่เป็นสัญญาณเตือน เป็นภัยสังคมซ้ำซากว่า ความคาดหวังต่อเพศหญิง ต่อแม่ ต่อใครก็ตามที่ต้องแบกรับภาระตามลำพัง คือแรงกดดัน ภาวะที่เกินแบกรับไหว  และการไม่คาดหวังต่อเพศชาย ต่อผู้เป็นพ่อ  ซึ่งเป็นปัจจัยร่วมที่สำคัญ จึงเป็นแรงส่งทำให้เกิดเหตุขึ้น อีกปัจจัยที่ลืมไม่ได้คือ เงื่อนไขในการเติบโต การถูกหล่อหลอม การเรียนรู้ที่ต่างกัน และความเข้มแข็งของคนเราไม่ใช่เครื่องมือในการตัดสินผู้อื่น


“คำถามคือสังคมเรียนรู้อะไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งราชการ เอ็นจีโอ สถาบันการศึกษาทำอะไรกันอยู่ในนาทีนี้   มันส่งสัญญาณเตือนภัยแรงเข้มขนาดนี้ แต่กลับไร้แนวทางรองรับผู้เปราะบาง การทำงานไม่ตอบโจทย์ หรือจะเงียบต่อไป จนเสียงด่าทอจางหายและรอการผลิตซ้ำอีกครั้ง” นางทิชา กล่าว

ด้านน.ส.จิตติมา ภาณุเตชะ นักพัฒนาสังคมอิสระ กล่าวว่า เวลาเกิดเหตุสะเทือนใจลักษณะนี้ สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดคนเรา คือต้องหาคนทำผิด เพื่อมารับโทษและรับผิดชอบต่อความรู้สึกสะเทือนใจ โดยพุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงอายุ 21 ปี ที่ก่อเหตุ จากนั้นจะรุมประนามพฤติกรรมที่โหดร้ายเกินคนปกติทั่วไป ซึ่งการมองปัญหาระดับปัจเจกบุคคลแบบนี้ อาจทำให้เราสบายใจขึ้น แต่จะไม่ถูกนำไปจัดการแก้ไขเชิงระบบ เนื่องจากเหตุการณ์มีความซับซ้อน มีปัญหาเชิงโครงสร้าง เงื่อนไขของตายาย และแม่เด็ก ที่ต้องออกไปทำมาหากินไม่มีคนดูแลเด็ก  อีกทั้งเกิดความกดดันจากการถูกตัดสินของสังคมรอบข้าง ต่อการเป็นแม่วัยรุ่นและเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว   

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนสังคมไทย ขาดระบบการดูแลช่วยเหลือครอบครัวที่อยู่ในภาวะยากลำบาก เช่น สถานฝากเลี้ยงและดูแลเด็ก รวมถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อสนับสนุนเกื้อกูลครอบครัวพ่อแม่วัยรุ่น  เพราะก่อนเกิดเหตุรุนแรง เชื่อว่าต้องมีสัญญาณอันตรายมาก่อน แต่คนรอบข้างคงเฝ้ามองและคิดตัดสินว่าผู้หญิงเป็นคนไม่ดี ไม่ดูลูก แต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ คำถามสำคัญคือทำไมเราปล่อยให้ครอบครัวที่ต้องดูแลเด็กไร้ทางเลือก เพราะมีฐานคิดเพียงแค่ว่า ลูกหลานใครก็เลี้ยงก็ดูแลกันเอง ซึ่งเกิดขึ้นกับพ่อแม่วัยรุ่นหลายครอบครัว ประกอบกับสังคมไทยไม่จริงจังกับการสร้างระบบ  เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนรอบข้าง มีทักษะที่ดี ช่วยดูแลสนับสนุนครอบครัวที่ประสบปัญหาอย่างจริงจัง

ขณะที่ น.ส.อังคณา อินทสา ฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ  มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า จากการรวบรวมสถิติข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ในรอบ 3 ปี 2555, 2557 และปี 2559  พบเกือบ 600 ข่าว เป็นข่าวที่เกิดจากความรุนแรงในครอบครัว กรณีข่าวการฆ่ากันของคนในครอบครัว และร้อยละ 85.7เป็นข่าวสามีกระทำต่อภรรยา ,มีเพียงร้อยละ14.3 เท่านั้นที่เกิดจากแม่กระทำต่อลูก เช่น แม่แขวนคอลูก ให้กินยาล้างห้องน้ำ ใช้ปืนยิง ฆ่าฝังศพ หากวิเคราะห์สาเหตุเกิดจากภาวะที่ผู้หญิงถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวมาอย่างยาวนานจึงพัฒนาไปสู่ภาวะทางจิต เกิดความ เครียด ซึมเศร้า รวมถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจ หนี้สิน ภาระที่ต้องแบกรับ 

ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ที่สามีทำร้ายภรรยา  สังคมมักตั้งคำถามน้อยมาก ซึ่งจะเห็นว่าหน้าที่ผู้หญิงต้องแบกรับมีมาก ต้องเสียสละอดทน รับผิดชอบครอบครัว แต่พอผู้หญิงผิดพลาดแบบนี้ จึงถูกสังคมตัดสินตำหนิตีตรา ดังนั้น ทางออกของปัญหาคือครอบครัวต้องรับฟังอย่างเข้าใจ ไม่ตีตรา    ไม่ทำให้รู้สึกว่าการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเป็นปัญหา อีกทั้งสังคมที่มีลูกเล็กต้องเลี้ยงลูกแบบใหม่ ผู้ชายต้องไม่อยู่เหนือกว่า ต้องเข้าใจความละเอียดอ่อนของผู้หญิง ส่วนกลไกรัฐต้องเข้าถึงกลุ่มผู้หญิง ทำงานเชิงรุก  ประชาสัมพันธ์สื่อสารให้มากขึ้น  และควรผลักดันให้เกิดช่องทางช่วยเหลือ เช่น ศูนย์ให้คำปรึกษาในชุมชน และสังคม ชุมชน คนรอบข้าง ต้องไม่มองปัญหานี้เป็นเรื่องส่วนตัวนิ่งเฉยดูดาย 

ด้านนางเอ (นามสมมุติ) แม่เลี้ยงเดี่ยว อายุ 48 ปี กล่าวว่า ตนเองเป็นอีกคนที่ต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูลูกโดยลำพัง  จนเกือบเลือกทางผิดเช่นกัน จริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้มองว่าผู้หญิงมีภาวะความเครียด  และส่งผลให้ตัดสินใจแก้ปัญหาโดยไม่ได้คิดแบบรอบคอบ และอยากให้สังคมเข้าใจผู้หญิงที่เป็นแม่หรือเมีย ไม่อยากให้มองปัญหาเพียงด้านเดียว แต่ควรรับฟังเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสติเพื่อนำมาสู่แนวทางแก้ปัญหาที่ยังยืน และควรมีหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เพราะเท่าที่มีอยู่เข้าถึงยากมาก  ผู้ที่ประสบปัญหาน้อยคนที่จะรับรู้และเข้าถึงการช่วยเหลือ  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]