ครม. มอบหมาย ธ.ก.ส. ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

ทำเนียบฯ 9 ม.ค.- ครม.มอบหมายให้ธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผ่าน 3 มาตรการ   9 โครงการ  


ผู้สื่อข่าวรายว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ มาตรการช่วยเหลือรายได้น้อยในส่วนของ ธ.ก.ส.   เตรียมวงเงินรองรับ 95,000 ล้านบาท  ผ่าน 3 มาตรการ 9 โครงการ ประกอบด้วย  มาตรการที่ 1 การพัฒนาตนเอง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ แนวทางที่ 1. โครงการให้ความรู้ทางการเงินแก่เกษตรกรลูกค้าผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 60  กลุ่มเป้าหมาย เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย 1 ล้านราย   เพื่อให้วิเคราะห์ต้นทุนการผลิต การลดต้นทุนการผลิต และจัดทำแผนการผลิต แผนการตลาด และแผนการเงิน  โดย ธ.ก.ส. จัดทำสมุดความดี 1 เล่ม  เป็นเงิน 16 ล้านบาท    2. โครงการเงินฝากกองทุนทวีสุข และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)  ส่งเสริมการออมเมื่อเข้าสู่วัยชราสร้างภูมิคุ้มกัน ในวัยเกษียณ กลุ่มเป้าหมย  90,000 ราย   ให้เปิดบัญชีเงินฝากได้เพียงคนละ 1 บัญชี เท่านั้น  ใช้เงินเปิดบัญชีครั้งแรกต้องครบเต็มจำนวนปีละ 600 บาท  1,200 บาท 6,000 บาท และ 12,000 บาท จากนั้นให้ฝากเงินต่อเนื่องทุกปี สามารถฝากเงินล่วงหน้าเต็มจำนวนได้ไม่เกิน 1 ปี   จากนั้นเมื่อออมปีถัดไปสามารถทยอยฝากเป็นรายเดือนได้จนครบเต็ม ในระยะเวลา 1 ปี  จึงจะได้รับสิทธิ์ในความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ และได้รับสวัสดิการเพิ่มขึ้นเป็นแบบขั้นบันไดตามอายุของการออมของลูกค้า เช่น เงินรับขวัญบุตรแรกเกิด เงินช่วยเหลืองานศพ เงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

มาตรการที่ 2 การพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้   2 โครงการ  ได้แก่  โครงการสินเชื่อชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อพัฒนาอาชีพของผู้มีรายได้น้อย (XYZ)   เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการพัฒนาอาชี  ระหว่างผู้มีรายได้น้อย หรือเกษตรกรทั่วไปกับกลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และ SMAEs ในพื้นที่ ทั่วประเทศ 77 จังหวัด     


เพื่อจ่ายเงินกู้ให้แก่กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และ SMAEs  เพื่อจ้างผู้มีรายได้น้อย 384,000 ราย ผลิตสินค้าเกษตรที่ตรงกับความต้องการของตลาดผ่านระบบการจ้างผลิตแบบเกษตรพันธะสัญญา (Contract Farming) และแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้มีรายได้น้อย  วงเงินสินเชื่อ 45,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ปีที่ 1 วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท จ านวน 100,000 ราย  ปีที่ 2 วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท จำนวน 200,000 ราย  วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท จำนวน 384,000 ราย  คิดดอกเบี้ยตามโครงการในอัตราร้อยละ 3.51 ต่อปี คิดจากผู้กู้ร้อยละ 0.01 ต่อปี  รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.50 ต่อปี กำหนดชำระคืนไม่เกิน 12 เดือนนับแต่วันกู้ โดยกำหนดวงเงินกู้และหลักประกันเพิ่มเติมและให้ใช้เป็นกรณีพิเศษสำหรับโครงการนี้                

โดย ธ.ก.ส.ขอให้รัฐบาลช่วยรับภาระ กรณีเกิดความเสียหายจาก NPLs ตามโครงการนี้  และไม่นำมาคำนวณรวมเป็น NPLs เพื่อประเมินผล ด้วยการแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA)  วงเงินงบประมาณที่ใช้ในการด าเนินงานโครงการรวมทั้งสิ้น  4,875 ล้านบาท  รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 3.50 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันกู้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,725 ล้านบาท  โดยให้ ธ.ก.ส.เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ าปีตามค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจริง   และขอสนับสนุนค่าใช้จ่ายฝึกอบรม จากงบประจำปีจากรัฐบาล ปีละ 50 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมทั้งหมด 150 ล้านบาท  ดำเนินการตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 – 31 ธันวาคม 2566  ระยะเวลาการจ่ายเงินกู้  ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 – 31 ธันวาคม 2563 

โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาอาชีพของผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างอาชีพเป็นการยกระดับรายได้ก่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนในอาชีพให้กับ ผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ  กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 400,000 ราย วงเงินสินเชื่อจำนวน  20,000 ล้านบาท  ให้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท  คิดดอกเบี้ยเงินกู้ใน 6 เดือนแรก  ในอัตราร้อยละ 0 ต่อปี และตั้งแต่เดือนที่ 7 เป็นต้นไป คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 7 ต่อปี) ลดหย่อนหลักประกันเงินกู้ในกรณีใช้บุคคลค้ำประกันหรือบุคคลรับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ให้กู้ได้ไม่เกินรายละ 50,000 บาท 


มาตรการที่ 3 ลดภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงิน และลดภาระหนี้ในระบบ  กลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีหนี้เป็นภาระหนัก  535,137 ราย วงเงิน 126,798 ล้านบาท   โดยการพักชำระต้นเงิน 2 ปี ในระหว่างพักช าระหนี้คิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 7 ต่อปี)  ให้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยนำต้นเงินไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 มาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR  ชำระคืนไม่เกิน 7 ปี ปลอดการชำระต้นเงินไม่เกิน 2 ปีแรก  ส่วนต้นเงินอีกไม่เกินร้อยละ 50 ให้น ามาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ และก าหนดช าระคืนตามแหล่งที่มาของรายได้  สัญญาพักชำระหนี้หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ช าระต้นเงินร้อยละ 50 แรกได้เสร็จสิ้นภายใน 7 ปี ให้ลดดอกเบี้ยที่พักไว้ให้ครึ่งหนึ่ง     

ส่วนกรณีลูกค้ารายย่อยที่มีหนี้ไม่เกิน 300,000 บาท จ านวน 383,157 ราย (คิดเป็นร้อยละ 71  ของจำนวนลูกค้าที่มีหนี้เป็นภาระหนักทั้งหมด มีต้นเงินคงเป็นหนี้  52,605 ล้านบาท โดยให้ลูกค้าพักการช าระดอกเบี้ยเป็นเวลา 2 ปี และขอให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส.แทนผู้มีรายได้น้อยในอัตราร้อยละ 3.00 ต่อปี  ธ.ก.ส. รับภาระดอกเบี้ยแทนผู้มีรายได้น้อยประมาณร้อยละ 4.00 ต่อปี  1.4 วงเงินงบประมาณ  ขอให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ ธ.ก.ส.แทนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ไม่เกิน 300,000 บาท  ใน 2 ปีแรก  ทั้งกลุ่มที่พักช าระหนี้และกลุ่มที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้  ในอัตราร้อยละ 3.00 ต่อปี ของต้นเงินกู้ รวม 52,605 ล้านบาท กรอบวงเงินชดเชย 2 ปี  ปีละ 1,579 ล้านบาท  รวมจ านวน 3,158 ล้านบาท  โดยขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจ าปี  และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยแทนผู้มีรายได้น้อยประมาณ  3,847 ล้านบาท  โดยแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account: PSA) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]