รวบแก๊งโจ๋โหดรุมแทง-เผาหนุ่มพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวดับ

นครพนม 6 ต.ค.-รวบแล้วแก๊งโจ๋โหด รุมแทง-เผา หนุ่มพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวดับ อ้างถูกชูนิ้วกลางให้กลางร้านคาราโอเกะ


เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 5 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 212 สายนครพนม-สกลนคร บ.ผึ้งหมู่ 5 ข้างร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด @ นครพนม เขตบ้านผึ้ง ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม โดยวัยรุ่นประมาณ 20 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ติดตามไปทำร้ายคู่อริ เป็นเหตุให้ นายนพพร ชมชื่น หรือต้น อายุ 29 ปี พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว ชาวบ้านนามน หมู่ 6 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบชันสูตร พบสภาพศพมีบาดแผลถูกทำร้ายทุบตีด้วยของแข็ง อาวุธมีด หลายจุดตามร่างกาย นอนเสียชีวิตจมกองเลือดริมถนน


เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุช่วงกลางดึกเป็นช่วงหลังเลิกงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากไปเที่ยวงาน จนกระทั่งมีการทะเลาะวิวาท และทำให้กลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุประมาณ 20 คน ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไล่ทำร้ายผู้เสียชีวิตที่ขับรถมากับเพื่อนหลายคัน แต่ขับหลบหนีทัน ส่วนผู้เสียชีวิตถูกรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งมีชาวบ้านผู้พบเห็นเหตุการณ์ระบุว่า มีการรุมทำร้ายประมาณ 20 ต่อ 1 และใช้อาวุธมีดแทงอย่างโหดเหี้ยม ก่อนพากันหนีไป แต่ชาวบ้านเข้าช่วยเหลือไม่ทัน เป็นเหตุให้เสียชีวิต

ขณะที่นายอำนวย ชมชื่น อายุ 52 ปี พร้อมภรรยา คือ นางพร ชมชื่น อายุ 56 ปี พ่อแม่ผู้เสียชีวิต ได้ออกมาเรียกร้องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายโดยเร็ว เพราะทางครอบครัวญาติพี่น้องยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นการทำร้ายคนไม่มีทางสู้ โหดเกินมนุษย์ เชื่อว่าบุตรชายไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกับใครถึงขั้นรุนแรง ปกติช่วยพ่อแม่ทำงานดี แต่อาจจะไปกับเพื่อน ด้วยความคิดว่าไม่เคยมีปัญหากับใครจึงหนีไม่ทัน ต้องมาถูกทำร้ายอย่างโหดเหี่ยวจนเสียชีวิต อยากให้ตำรวจเร่งจับกุมให้ได้ทั้งหมด


ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 6 ต.ค. ที่ สภ.เมืองนครพนม พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รรท.ผบช.ภ.4 แถลงจับกุม 7 แก๊งโจ๋ ประกอบด้วย นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นายซี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นายดี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นายพลทอง หรือพล ยาปัญ อายุ 19 ปี นายวิษณุ แสงทอง หรือเอ็ม และนายอภิวัฒน์ พะพานทาง หรือโจ้สี่มุมเมือง ทหารเกณฑ์สังกัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อเหตุดังกล่าว

พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวว่า หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว กระทั่งทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นบ้านวังตามัว มีทั้งหมด 9 คน โดยก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวงานประเพณีไหลเรือไฟในตัวเมือง หลังงานเลิกได้ขี่จักรยานยนต์มาแวะดื่มกินกันที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง หลังจากที่เช็คบิลกำลังจะกลับนั้น ก็ถูกกลุ่มผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกันประมาณ 3-4 คัน แล้วตะโกนท้าทายพร้อมทั้งยกนิ้วกลางให้ กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไป

ขณะไล่ตามไปถึงก็ถูกกลุ่มผู้ตายถีบรถจักรยานยนต์จนล้มคว่ำไปด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นจึงวิ่งกรูไล่ทำร้ายชกต่อยกัน ผู้ตายได้วิ่งหนีข้ามถนนไปอีกฝั่ง ก่อนจะล้มลงแล้วถูกรุมแทงจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุก็ได้แยกย้ายกันและไปนั่งดื่มกินกันต่อที่บ้านของนายอภิวัฒน์ หรือโจ้สี่มุมเมือง กระทั่งตรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 7 คน ส่วนอีก 2 คนคือนายวศิลป์ ศรีบุญเรือง หรือโจ้ อายุ 23 ปี และนายจำเริญทอง ยาปัญ หรือเต่า ยังคงหลบหนีการจับกุมอยู่ จากการสอบสวนนายอภิวัฒน์ ได้ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า เป็นผู้ใช้อาวุธมีดแทงนายนพพร จนเสียชีวิต ส่วนนายซี เป็นผู้ใช้น้ำมันราดและเผารถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ซึ่งหลังจากนี้จะได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครพนม เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เหลือ

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทั้งหมดว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]