เจโทรแนะไทยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

กรุงเทพฯ  12 ก.ย. – เจโทรแนะไทยพัฒนาบุคลากร กระทรวงพาณิชย์พร้อมอำนวยความสะดวกการค้าและเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนในกลุ่มประเทศอาเซียน 


กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย จัดสัมมนา Symposium on Thailand 4.0 towards Connected Industries เพื่อนำเสนอโอกาสความร่วมมือภาครัฐภาคเอกชน 

นายฮิโรยูกิ อิชิเกะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างมาก ที่ผ่านมาเจโทร จัดงานซิมโปเซียมและเชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเยือนที่กรุงโตเกียว ได้รับความสนใจมีนักธุรกิจร่วมงาน 1,000 คน และงานวันนี้ก็เช่นกันนักธุรกิจญี่ปุ่นให้ความสนใจมากในการจัดงานเนื่องในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์ ไทย-ญี่ปุ่น ที่ผ่านมานักธุรกิจญี่ปุ่นลงทุนในไทยคิดเป็นมูลค่า  71,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดในไทย และมีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยถึง 5,000 บริษัท มากที่สุดในโลก แต่ขณะนี้ไทยอยู่ในจุดเปลี่ยน จากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลง โดยมีอัตราการเกิดต่ำและมีสัดส่วนประชากรที่เป็นผู้สูงวัยมากขึ้น ทำให้ไทยประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ในสายตาญี่ปุ่นประเทศเวียดนามผงาดขึ้นมา ซึ่งนักธุรกิจญี่ปุ่นเห็นถึงความคลุมเครือที่เกิดขึ้น และลดการลงทุนเซ็คเตอร์หลักในไทย


ทั้งนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นเห็นว่าจำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีระดับการพัฒนาที่สูงขึ้น และขณะนี้อยู่ระหว่างทางแยกที่สำคัญ ขณะที่รัฐบาลไทยออกนโยบายประเทศไทย 4.0 และมีโครการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และประเทศไทยจะต้องเป็นศูนย์กลางการส่งออกสำคัญไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น นักลงทุนควรที่จะต้องย้ายการผลิตสินค้าทั่วไปไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไทยควรเป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์หรือชิ้นส่วนที่มีมูลค่าสูง แต่จะทำได้หรือไม่ จะมีปัญหาอะไรนั้น เรื่องที่จะต้องทำ เช่น  ต้องพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งทางบริษัทญี่ปุ่นในไทยแจ้งเจโทรว่า กิจการที่ลงทุนในไทยมักมีปัญหาเรื่องการจ้างบุคลากร โดยไทยประสบปัญหานี้เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น ไทยจะต้องเดินหน้าเสริมสร้างด้านบุคลากร ซึ่งแน่นอนว่าระยะสั้นต่างชาติเข้ามาให้การช่วยบ่มเพาะในไทยได้ โดยอาศัยศูนย์วิจัยและพัฒนาในอีอีซี  ทั้งนี้ ในส่วนของนักธุรกิจญี่ปุ่นต้องการให้ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือ GMS เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ ซึ่งไทยจะต้องเชื่อมโยงแหลมฉบับไปยังท่าต่าง ๆ และด้านพิธีการศุลกากร จะต้องมีความสะดวก โดยต้องการเห็นรูปแบบเปเปอร์เลสหรือระบบไร้กระดาษ ประเทศไทยต้องแก้ปัญหาเหล่านี้่

นายอิชิเกะ กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นจะสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยร่วมกันระหว่างบริษัทไทยและญี่ปุ่น เช่น คอนเน็ตเต็ดอินดสตรี ซึ่งจะเริ่มนำร่องจาก 4 บริษัท ที่ได้มีข้อตกลงกันแล้วในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยจะเป็นโครงการนำร่องและจะเป็นกุญแจสำคัญกำหนดอนาคตที่สดใสและการจัดการจับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น จะมีมากขึ้น ด้านการพัฒนาบุคลากร ทางญี่ปุ่น จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสร้างบุคลากรในไทย สุดท้ายเพื่อให้คณะกรรมการอีอีซี ทำงานดียิ่งขึ้น ทางญี่ปุ่นจะตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาอีอีซี ในเจซีซี กรุงเทพ  ทั้งนี้ อยากให้ไทยรับฟังคำร้องขอของนักธุรกิจญี่ปุ่นเรื่องการให้คำมั่นสัญญาที่แข็งแกร่งจากรัฐบาลไทยและหวังว่าการสัมมนาวันนี้จะเชื่อมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่น ซึ่งการจับคู่ธุรกิจจะช่วยสร้างความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่นายรัฐมนตรีแจ้งนักลงทุนญี่ปุ่น เพื่อให้ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ลดความผันผวน สามารถก้าวทันโลก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 ทั้งนี้ ประเทศไทยและญี่ปุ่นตกลงร่วมกันดำเนินการ 3 เรื่อง คือ  1.การร่วมกันขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งประเทศไทยกำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเป็นหัวจักรใหม่ทางเศรษฐกิจของไทย  2.ไทยและญี่ปุ่นจะร่วมกันพัฒนาเอสเอ็มอี โดยมีการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน เพื่อสนับสนุนโดยใช้จุดเด่นของไทย เพื่อร่วมกันเข้าถึงตลาดใหม่ในภูมิภาคนอกจากประเทศของตัวเอง ตามแนวทางอุตสาหกรรม 4.0 และคอนเน็ตเต็ดอินดัสตรี ซึ่งจะนำโอกาสร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศอย่างมากและก้าวออกไปสู่ตลาด CLMV และออกสู่ตลาดโลกต่อไป


3. ร่วมกันพัฒนาอีอีซี ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทย ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลายประเทศ ซึ่งคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาใหญ่ที่สุด ซึ่งจะมีโอกาสร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกัน รวมถึงพัฒนาสร้างอุตสาหกรรมใหม่ เช่น อุตสาหกรรมสุขภาพ การดูแลผู้สูงวัย รถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการแพทย์ และยังมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา โดยการลงทุนโครงการหลัก 4 โครงการ จะเริ่มรูปธรรมปีหน้า โดยการลงทุนในอีอีซี จะมีวงเงินรวม  43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 5 ปีนับจากนี้ไป โดยร้อยละ 80 เป็นการลงทุนจากภาคเอกชน ที่เหลือร้อยละ  20 เป็นการลงทุนโดยภาครัฐภายใต้รูปแบบพีพีพีแต่ละอุตสาหกรรม  นอกจากนี้ ไทยและญี่ปุ่นยังจะร่วมกันพัฒนาบุคลากรเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่จะมีการลงทุนในพื้นที่อีอีซี รวมถึงงานวิจัยอีกด้วย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตามที่คณะนักธุรกิจญี่ปุ่นเดินทางมาไทยรวม 429 บริษัท รวม 588 ราย และสื่อมวลชน 22 ราย เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นในโอกาสครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์สองประเทศในวันที่  26 กันยายนนี้ และข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นหรือเจเทปา ที่จะครบรอบ  10 ปี วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เช่นกัน สำหรับการเยือนของคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้แนบแน่น ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงการอำนวยความสะดวกการค้า จึงปรับปรุงระเบียบการค้าต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักธุรกิจ และจะเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจต่อไป สำหรับช่วงการสัมมนาวันนี้นักธุรกิจไทยและญี่ปุ่น 1,200 ราย จะได้พบปะหารือกันแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันและมิตรภาพที่ยาวนาน กระทรวงพาณิชย์พร้อมเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนการค้า การลงทุนในกลุ่มประเทศในอาเซียนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]