แพทย์แถลงกรณี “น้องนิว” รอการรักษาจนเสียชีวิต

เพชรบุรี 22 ก.ค.-ทีมแพทย์ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยืนยันกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปล่อยให้เด็กชายวัย 15 ปี รอการรักษาอาการปวดท้องจนเสียชีวิต โดยยืนยันว่าทำเต็มที่แล้ว และอาการที่ผู้ตายป่วยพบเพียง 5 คนใน 1 ล้านคนเท่านั้น


จากกรณีมีผู้ใช้ Facebook คนหนึ่ง โพสต์กรณีที่มีมีเด็กวัย 15 ปี นั่งรอการวินิจฉัยอาการป่วยของแพทย์ กระทั่งเสียชีวิตก่อนได้รับการรักษา โดยระบุว่า อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าให้ 1 ชีวิต ต้องเสียไปกับคำว่า “รอ” พร้อมกับบรรยายเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “น้องปวดท้องมาก มากจนต้องส่งตัวฉุกเฉินจาก รพ.ชะอำ ไป รพ.พระจอมเกล้า เพชรบุรีตั้งแต่เช้า พอไปถึงพยาบาลบอกให้ “รอ” ทั้งๆ ที่น้องปวดมากจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ กระทั่งน้องช็อกล้มลงไป ทีมแพทย์และพยายามจึงทำ CPR จนรู้สึกตัว ถึงได้เข้าตรวจและเอ็กซเรย์ หลังจากนั้นน้องก็ทรุดลงอีกครั้ง กระทั่งมีการปั๊มหัวใจ แต่ครั้งนี้น้องไม่กลับมาแล้ว” ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ใช้ Facebook คนอื่นๆ เข้ามาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของทีมแพทย์และพยาบาลว่าเป็นไปอย่างล่าช้า โดยมีการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ ด.ช.ธีธัช เกตุทอง หรือ “น้องนิว” อายุ 15 ปี 


สำนักข่าวไทย ตรวจสอบข้อมูลและลำดับเหตุการณ์เวลาการเสียชีวิตของเด็กชายคนดังกล่าว พบว่าผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาอาการปวดท้องที่โรงพยาบาลชะอำ จังหวัดเพชรบุรีเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนั้นทีมแพทย์เข้าใจว่าอาจเกิดจากอาการ “กระเพาะทะลุ” แต่วินิจฉัยค่อนข้างยาก เพราะผู้ป่วยมีอาการสมาธิสั้น และออทิสติก จึงบอกอาการกับแพทย์ได้ไม่มากนัก มีการรักษาเบื้องต้นแต่อาการไม่ดีขึ้น จึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลพระจอมเกล้า อำเภอเมืองเพชรบุรีในช่วงเช้าของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา 


กระทั่งเวลา 13.30 นาที ของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ป่วยได้เดินทางไปถึงโรงพยาบาลพระจอมเกล้า หลังจากนั้นผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง จึงมีการส่งตัวเข้ารับการเอ็กซเรย์ เพื่อวินิจฉัยอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง กระทั่งเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ได้รับฟิล์มเอ็กซเรย์ จึงส่งข้อมูลให้กับแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ แต่ทว่าระหว่างรอผลวินิจฉัย พบว่าผู้ป่วยมีอาการหมดสติ แพทย์จึงเร่งช่วยเหลือด้วยการเจาะเลือดและปฐมพยาบาลเบื้องต้น หลังจากนั้นเวลา 14.45 นาที ผู้ป่วยถูกส่งตัวไปยังห้องฉุกเฉิน แต่พบว่าความดันตก จึงมีการตรวจอย่างละเอียด และเจาะเลือด พร้อมกับให้น้ำเกลือ ก่อนที่จะมีการซีทีสแกน ตรวจคลื่นหัวใจ กระทั่งพบอาการผิดปกติ ระหว่างนั้นผู้ป่วยเริ่มกระสับกระส่าย กระทั่งทีมแพทย์พบว่าผู้ป่วยมีอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” กระทั่งเวลา 16.38 น. พบว่าผู้ป่วยไม่มีชีพจรแล้ว ทีมแพทย์จึงปั๊มหัวใจ พร้อมกับให้เลือด 2 ถุง และเสียชีวิตลงในเวลา 17.15 น. 

กรณีนี้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าเหตุใดและทำไม ทีมแพทย์จึงปล่อยให้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักขนาดนี้ต้องรอนาน ซึ่งล่าสุดนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.ธีธัช เกตุทอง โดยยืนยันว่าทีมแพทย์ไม่ได้ละทิ้งผู้ป่วยจนต้องเสียชีวิต เนื่องจากผู้ป่วยได้เดินทางมาในวันทำการ ทีมแพทย์และพยาบาลทุกคนก็อยู่ในหน้าที่ ซึ่งได้ทำการตรวจรักษาตามขั้นตอนไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเด็กมีอาการสมาธิสั้น จึงไม่สามารถบอกอาการแพทย์ได้มากเท่าที่ควร จึงวินิจฉัยอาการป่วยค่อนข้างลำบาก ประกอบกับอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” มักพบในผู้ป่วยสูงอายุและไม่ค่อยเจอในเด็ก กระทั่งทำให้เสียชีวิตเฉียบพลัน สุดที่จะรักษาได้อย่างทันท่วงที  พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้

 

ด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้นำศพของด.ช.ธีธัช ไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดชะอำคีรี อำเภอชะอำ เป็นระยะเวลา 5 คืน ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคมนี้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะบิดาและมารดาของผู้ตายที่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านพี่สาวของ ด.ช.ธีธัช บอกว่าเบื้องต้นครอบครัวยังไม่คิดเอาเรื่องแพทย์และโรงพยาบาล แต่อยากให้มีการช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ยอมรับว่าทั้งครอบครัวต่างเสียใจกับการสูญเสีย

สำนักข่าวไทย ติดต่อไปยังนายแพทย์ชัยสิทธิ์ แสงทวีสิน นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้อธิบายอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” โดยระบุว่า เป็นโรคแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับผนังเส้นเลือด ถ้าไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อน ก็จะไม่มีอาการ เพราะอาการของโรคเกี่ยวกับผนังเส้นเลือด จะไม่มีอาการเจ็บปวดแสดงออกมา การจะตรวจพบโดยเอ็กซเรย์ทรวงอกก็อาจเจอได้ ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการไปเรื่อยๆ ผนังเส้นเลือดก็จะโป่งพองมากขึ้นๆ จนแตก และจะมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซีด ช็อก และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว โรคนี้มักพบเจอในผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 50-70 ปี เป็นเป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคเส้นเลือดแข็ง หรือหลอดเลือดแข็งตัว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือกลุ่มที่สูบบุหรี่ หรือเป็นโรคเบาหวาน ส่งผลให้ผนังเส้นแข็ง จนส่งผลให้เส้นเลือดอ่อนแอลง

อย่างในกรณีที่เกิดในเด็ก 15 ปี ยืนยันว่าร้อย 90 มักไม่ทราบสาเหตุ โดยสาเหตุใหญ่ที่สามารถเกิดได้ คือ “กรรมพันธุ์”  หรือเส้นเลือดในร่างกายอักเสบจะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่นำไปสู่เส้นเลือดโป่งพอง หรือเกิดจากอุบัติเหตุที่นำไปสู่การกระแทกที่รุนแรง จนทำให้พนังเส้นเลือดบอบบางผิดปกติและโป่งพองมา ซึ่งการกระแทกนั้นจะต้องเกิดที่บริเวณกระดูกสันหลัง แต่ยืนยันว่าการเป็น “ออทิสติก” ไม่มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงของโรค

โรคนี้เป็นโรคที่พบเจอได้น้อยมาก จากข้อมูลในต่างประเทศในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยประมาณ 5-6 ราย ส่วนตัวที่ทำงานด้านโรคหัวใจมา 30 ปีเจอก่อนหน้ากรณีนี้ในไทยเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น ส่วนหมอที่มีความเชี่ยวชาญที่จะรักษาในโรคนี้ในไทยมีไม่เกิน 10 คน และที่สำคัญต้องเป็นสถานที่ในการรักษาต้องมีอุปกรณ์รักษาที่ทันสมัยมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]