นครราชสีมา, บึงกาฬ 19 ก.ค.-ชาวบ้านโคราชแตกตื่น แห่ดูหลุมศพโบราณ มีโครงกระดูกมนุษย์อายุเกือบ 3,000 ปี สภาพสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเข้าตรวจสอบแล้ว ส่วนที่บึงกาฬ พบไหโบราณกลางทุ่ง พร้อมเครื่องประดับและลูกปัด ประสานหน่วยศิลปากรที่ 8 เข้าตรวจสอบ
ชาวบ้านที่บ้านหนองแห้ว หมู่ 12 ต.พังเทียม อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา แห่มามุงดูหลุมศพโบราณ ในหลุมมีโครงกระดูกมนุษย์อายุเกือบ 3,000 ปี สภาพสมบูรณ์ นอนเหยียดตัวยาว 187 เซนติเมตร มือประสานกัน และขาไขว้กัน มีเศษภาชนะโบราณ เครื่องประดับวางอยู่ล้อมรอบ
นายนันทศักดิ์ (หนุ่ย) กลิ่นขจร อายุ 39 ปี ผู้ขุดพบหลุมศพโบราณ กล่าวว่า เหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาดลใจให้ถือจอบเสียมมาขุดหลุมบนที่ดินของตนเอง เนื้อที่ 1 ไร่ ซึ่งปลูกยูคาลิปตัส ห่างจากบ้านเล็กน้อย โดยลงมือขุดในอาการมึนงง จนชาวบ้านพบเห็นหาว่าตนเองบ้า กระทั่งขุดต่อเนื่องทั้งเช้า-เย็น รวมถึงกลางคืน จึงพบโครงกระดูกในหลุมลึก 1.30 เมตร ชาวบ้านทราบข่าวพากันแตกตื่นแห่มาดูทั้งหมู่บ้าน ก่อนนำธูปเทียนและเครื่องเซ่นไหว้มาบูชากราบไหว้กันตามความเชื่อ
ด้านนางสมควร อินทรประสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองแห้ว กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจสอบแล้ว เตรียมนำร่างขึ้นจากหลุมเก็บไว้ที่วัดของหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชาเป็นสิริมงคล
จากโครงกระดูกโบราณ ไปวัตถุโบราณ ชาวบ้าน จ.บึงกาฬ พบอยู่ในทุ่งนาบ้านห้วยสามยอดเทวกุล หมู่ 6 ต.โป่งเปือย อ.เมืองบึงกาฬ เป็นที่นาเพิ่งปลูกข้าวไปประมาณ 2 เดือน ต้นข้าวเพิ่งจะตั้งตัว โดยมีนายสุบรร กมลภา อายุ 70 ปี เป็นเจ้าของที่นา จุดแรกที่พบอยู่มุมคันนา พบไหดินเผาสูงประมาณ 70 เซนติเมตร กว้าง 67 เซนติเมตร และไหเล็กๆ สูงประมาณ 30 เซนติเมตร กว้าง 32 เซนติเมตร อีกจำนวน 6 ใบ และในไหใบใหญ่นี้พบมีด 1 เล่มวางอยู่ใต้ก้นไห ยังไม่หมดเท่านั้น
ห่างออกไป 50 เมตร พบไหใบใหญ่อยู่กลางคันนาสูงประมาณ 65 เซนติเมตร กว้าง 58 เซนติเมตร ด้านในพบกำไลหยกขาวใส 6 เหลี่ยม 1 วง กำไลสัมฤทธิ์สีเขียวลวดลายสวยงาม 2 วง และมีไหใบรองลงมาอีก 3 ใบฝังอยู่ในคันนาติดกัน นอกจากนี้ ยังพบลูกปัดเล็กๆ สีน้ำตาลและสีต่างๆ อีกจำนวนมาก มีมีด 2 เล่ม และอีกชิ้นน่าจะเป็นปิ่นปักผม 1 อัน และมีกระดูกจำนวนหนึ่ง
วันนี้มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายร่วมกันเข้าตรวจสอบวัตถุโบราณแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นรุ่นไหน สมัยไหน ซึ่งเจ้าของที่นาก็ได้นำส่วนหนึ่งมาเก็บไว้ที่บ้าน ที่เหลือก็ยังอยู่ที่ทุ่งนา ซึ่งอำเภอเมืองได้ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประสานไปยังหน่วยศิลปกรที่ 8 ให้มาตรวจสอบแล้ว ซึ่งก็ต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง ก็จะได้ความชัดเจนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
