นายกฯมอบนโยบายปฏิรูปตำรวจแก้ปํญหาโยกย้ายซื้อขายตำแหน่ง

ทำเนียบรัฐบาล 7 ก.ค.-พล.อ.บุญสร้าง ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) มั่นใจปฏิรูปสำเร็จแต่จะทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้ ประกาศยึดหลักสายกลางไม่สุดโต่ง ย้ำ ต้องทำให้การซื้อขายตำแหน่งหมดไป


พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) แถลงภายหลังการประชุม ร่วมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมอบนโยบาย ว่า การประชุมวันนี้ (7ก.ค.) นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกคนทำงานเต็มที่ ซึ่งในระยะเร่งด่วนขอให้กำหนดเรื่องการบริหารงานบุคคลให้เสร็จตามแผนที่ได้กำหนดไว้ภายในสิ้นปีนี้ เน้นแก้ปัญหาการโยกย้ายตำรวจซื้อขายตำแหน่ง ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจนัดแรก เพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ รวมถึงตั้งคณะอนุกรรมการคณะทำงานเพื่อกำหนดเป้าหมายในการทำงาน นำผลการศึกษาจากในอดีตมาหาข้อสรุป โดยสัปดาห์หน้าจะประชุมหนึ่งครั้งแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นการประชุมสัปดาห์ละสองครั้ง สำหรับสถานที่ในการจัดการประชุมจะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปทั้งทำเนียบรัฐบาล กองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติและ วปอ.


ส่วนเรื่องการแยกงาน สอบสวนออกจากตำรวจ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่าจะต้องมีการคิดต่อและหาคำตอบให้ได้โดยเร็วรวมถึงการกระจายอำนาจ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากพื้นที่ต่างจังหวัด ทำอย่างไร ไม่จำเป็นต้องรวมศูนย์ในกรุงเทพมหานครอย่างเดียว เมื่อถามว่าการมาทำหน้าที่ประธานในครั้งนี้คาดหวังการปฏิรูปตำรวจออกมาในรูปแบบใด และการวิจารณ์ ว่าภาคประชาชนไม่มีส่วนร่วมจะแก้ไขอย่างไร พล.อ.บุญสร้างระบุว่าเป็นหน้าที่ในการทำงาน  และต้องเป็นไปตามคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย ทุกอย่างที่ทำจะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะท้ายที่สุดแล้ว ก็ทำเพื่อประชาชน รวมถึงจะมีการประเมินผลการทำงานมีอะไรที่ต้องปรับแก้ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด

“สิ่งแรกที่จะเร่งดำเนินการคืองานบริหารบุคคลที่จะต้องให้การแต่งตั้งโยกย้ายที่มีการซื้อขายตำแหน่งต้องหมดไป การทำงานจะยึดหลักสายกลางเพราะหากทำสุดโต่งก็จะหาข้อสรุปได้ยาก ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียแต่สิ่งสำคัญ ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดต้องตกอยู่ที่ประชาชน  นอกจากนี้จะยึดหลักปรัชญาพอเพียงหลีกเลี่ยงความสุดโต่ง ซึ่งการปฏิรูปตำรวจอาจจะไม่ได้ทำให้ทุกฝ่ายพึงพอใจแต่จะต้องทำด้วยความปรารถนาดีหวังดีเน้นทางสายกลาง” พล.อ.บุญสร้าง กล่าว

พล.อ.บุญสร้าง กล่าวทิ้งท้าย ว่า คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจทุกคนมีความตั้งใจและมีความมุ่งมั่นในการทำงานจึงขอฝากความรักความหวังดีของคณะกรรมการทุกคนสู่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความร่วมมือกับการทำงานด้วย


พล.อ.บุญสร้าง ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ว่า สืบเนื่องจากตนเองได้เกษียณอายุราชการมาแล้ว และเมื่อมีเรื่องใดที่ทำเพื่อส่วนรวมได้ ก็ไม่ควรจะปฏิเสธ และมองว่าที่เลือกตนเพราะคงไม่มีใคร แต่หากมีคนอื่นที่ดีกว่าก็ยินดีเช่นกัน โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ กับตน

เมื่อถามว่าการตั้งคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจครั้งนี้สังคมคาดหวังค่อนข้างมาก ในฐานะประธานจะให้ความเชื่อมั่นอย่างไรว่าจะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ขั้นตอนเรื่องปฎิรูปนี้ต้องทำให้สำเร็จ เพราะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญว่าต้องเสร็จเมื่อใด แต่ในความเป็นจริงจะสำเร็จหรือไม่นั้น หากตอบว่าสำเร็จ คงมองว่าชั้นเลิศ แต่จะให้พอใจทุกคนมันคงไม่ถึงขนาดนั้น แต่เราจะต้องทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างไม่มีร้อยเปอร์เซ็นต์ ตนเชื่อมั่นเมื่อดูตัวคณะกรรมการแล้ว ที่ตั้งมาคนดีๆ ทั้งนั้น เป็นคนที่ให้ความร่วมมือ และไม่ใช่คนที่มีความคิดสุดโต่ง เชื่อมั่นว่าจะทำได้

เมื่อถามว่า ครั้งนี้จะพลิกโฉมวงการตำรวจได้หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตำรวจมีคนดีๆ หลายคน ตนจึงคิดว่าเรื่องนี้ต้องดีขึ้น  เมื่อถามว่า รูปแบบการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจจะยึดแบบกองทัพหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า คงไม่มีอะไรตายตัวขนาดนั้น ขอให้คณะกรรมการช่วยกันคิด

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าสัดส่วนของตำรวจในคณะกรรมการชุดนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการผ่าตัดโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ลงเอยมันคงน้อยมากสำหรับโอกาสที่จะโหวตด้วยวิธีการยกมือว่าของใครมากกว่ากัน เราคงไม่ทำงานด้วยการเอาชนะ แต่จะทำงานด้วยการชวนกันให้ลงความเห็น ใช้เหตุผล ดังนั้น จะไม่ค่อยมีปัญหา มันไม่ใช่สภา อย่างกองทัพเราทำงานด้วยการช่วยๆ กันคิด

เมื่อถามว่า ส่วนตัวมีโมเดลตำรวจของประเทศใดในใจบ้าง พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เรื่องตำรวจเขามีการศึกษาและจัดทำไว้มากมาย หลังจากนี้จะได้มีการสรุปให้ทุกคนรับฟัง และวันนี้มีคนหนึ่งที่รู้เรื่องตำรวจดีบอกว่าไม่มีองค์กรไหนในประเทศไทยที่มีการศึกษาเรื่องการปรับโครงสร้างจนมีข้อมูลมากที่สุดเท่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงสร้างของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุดนี้ ว่า เมื่อมีการประกาศแต่งตั้ง ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีตำรวจเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ จำนวนมาก ซึ่งต้องชี้แจงว่าเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้แล้ว ว่าต้องมีตำรวจเท่ากับผู้ที่ไม่เป็นตำรวจ ดังนั้นจึงมีตำรวจ 15 คน พลเรือน 15 คนเท่ากัน และคนที่เป็นประธาน ต้องเป็นคนเข้าใจงานของตำรวจ เข้าใจเกี่ยวกับการจัดระเบียบองค์กรและความมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้ทาบทามไปหลายคน ทั้งคนที่เป็นที่รู้จักในสังคม แต่บางท่านก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงไม่สะดวกที่จะเข้ามาทำหน้าที่  สุดท้ายได้ พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ มาเป็นประธาน ซึ่งพลเอกบุญสร้างเป็นทหาร แต่ก็เกษียณมา 10 ปีแล้ว และมีความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ดี  ส่วนกรรมการอีก 5 คน เป็นโดยตำแหน่ง คือปลัดกระกรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย  อัยการสูงสุด และเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ดังนั้น ขอกรุณาอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดความร้าวฉาน ว่าเอาทหารมาปฏิรูปตำรวจ และประธานก็เป็นทหารที่เกษียณมา 10 ปี และมีกรรมการที่ไม่ใช่ทหารอีกจำนวนมาก เป็นทั้งอาจารย์ นักวิชาการ และอธิการบดี 

นายวิษณุ กล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ จะเริ่มประชุมอย่างเป็นทางการ ในวันพุธที่ 12 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการกองทัพไทย และจะประชุมสัปดาห์ละ 1-2 วัน โดยสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนสถานที่กันไป ทั้งสำนักงานตำรวจะแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยคณะกรรมการนี้จะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้น โดยจะหารือกันในสัปดาห์หน้า ว่าจะมีกี่ชุดและมีใครบ้าง รวมถึงต้องมีอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น โดยให้เชิญ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกคน มารับฟังความคิดเห็น รวมถึงประชาชน สื่อมวลชน นักวิชาการ ด้วย

นายวิษณุ กล่าวว่า ตำแหน่งเลขานุการ ของคณะกรรมการฯชุดนี้ ได้เสนอให้ พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ ส่วนผู้ช่วยเลขานุการ ให้มาจากตำรวจฝ่ายหนึ่ง และไม่ใช่ตำรวจฝ่ายหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำหน้าที่โฆษกคณะกรรมการฯ

นายวิษณุ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการทำวิจัยเรื่องปฏิรูปตำรวจกันมาหลายครั้งจากหลายหน่วยงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้รวบรวมจากทุกฉบับ ทำเป็นหัวข้อ แจกให้คณะกรรมการฯศึกษาเพื่อประกอบการพิจารณา

” นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางในประเด็นใหญ่ 3 ข้อ คือ 1.ประเด็นเกี่ยวกับองค์กร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าควรสังกัดอยู่ที่ใด เช่น อยู่เช่นเดิม หรือกลับไปสังกัดกระทรวงมหาดไทย  หรือสังกัดกระทรวงยุติธรรม  จังหวัด ท้องถิ่น หรือ ตั้งกระทรวง  ทบวง และโครงสร้างที่มีอยู่ ควรจะกระจายอย่างไร ไม่ควรกระจุก เช่น ตำรวจป่าไม้ ตำรวจรถไฟ ตลอดจนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ไปดูว่าควรย้ายไปที่ไหนหรือไม่ 

2.กระบวนการยุติธรรม ต้องพิจารณาอำนาจการสอบสวน ว่าจะคงอยู่อย่างเดิม หรือแยกอย่างไร จะรวมถึงจะทำงานหรือประสานกันอย่างไร ระหว่างมหาดไทย อัยการ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ  และ3.การบริหารงานบุคคล หมายถึงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย คัดคนเข้ามาเป็นตำรวจ จะใช้ระบบอะไร หลักสูตรโรงเรียนนายร้อยตำรวจเหมาะสม ทันสมัยหรือไม่ การเลื่อน ลด ปลด ย้าย วินัย การมีเครื่องแบบหรือไม่มี การโอนย้ายตำรวจไปกระทรวงอื่น เทียบตำแหน่งอย่างไร รวมถึงการจัดกำลังเสริมการทำงาน การซื้ออาวุธ รวมถึงในแง่นิติวิทยาศาสตร์ ที่เป็นการเสริมการทำงานของตำรวจ จะทำอย่างไรให้ทำงานร่วมงานได้กับหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทั้งหมด นายกฯได้เสนอแนะ  จะทำตามหรือไม่ก็ได้ และนายกฯ ได้เขียนด้วยลายมือ 13 หน้า และอธิบายให้ฟัง รวมถึงให้โจทย์ไปดูด้วยว่า การแต่งตั้งโยกย้ายจะใช้อาวุโสล้วน หรือ อาวุโส ผสมกับคุณงามความดีความชอบ แบ่งสัดส่วนอย่างไร ซึ่งในเรื่องอื่นช้าได้ เรื่องนี้ต้องทำก่อน และต้องเสร็จภายในปีนี้ ” นายวิษณุ กล่าว 

นายวิษณุ กล่าวว่า ระยะเวลาการทำงาน รวมทั้งหมด 9 เดือน แบ่งเป็น 2 เดือนคุยปัญหา / 3 เดือน ยกร่างกฎหมายและกำหนดกฎเกณฑ์ / 4 เดือนรับฟังความคิดเห็น แต่งเติมส่วนบกพร่อง รวมเป็น 9 เดือน ซึ่งครบอายุของคณะกรรมการชุดนี้

นายวิษณุ กล่าวว่า ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรีได้รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการ และเห็นพ้องกับข้อเสนอต่างๆ พร้อมระบุว่า ทุกคนรู้ว่ามีโจทย์อะไรบ้าง แต่สิ่งที่คนทั้งประเทศรอคือ คำตอบ ซึ่งเป็นสิ่งทีคณะกรรมการจะไปดำเนินการ และหากมีความจำเป็นต้องใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ก็พร้อมจะดำเนินการ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]