สนามหลวง 2 พ.ย.-รองแม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมด้วย รองผู้ว่าฯ กทม. แถลงผลประชุม กอร.รส. ระบุการจัดคิวนักท่องเที่ยวและผู้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่ กทม.ปรับพื้นที่เตรียมสร้างพระเมรุมาศแล้ว
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงผลการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ในวันนี้ (2 พ.ย.) โดย พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของฝ่ายทหาร เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นระเบียบ ได้รับความร่วมมือจากทุกส่วนราชการ โดยพยายามเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ได้มากที่สุดและนานที่สุดเท่าที่สำนักพระราชวังอำนวยความสะดวกได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 21.00 น. จะปิดท้องสนามหลวง เพื่อการจัดระเบียบพื้นที่และคนเร่ร่อนด้วย ขณะที่เรื่องการจัดคิวนักท่องเที่ยวและผู้เข้ากราบถวายสักการะ ก็ดำเนินการด้วยความเรียบร้อย นักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางว่าให้มีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระะเกียรติเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสิ่งที่รัฐบาลได้เดินหน้าตามแนวพระราชดำริให้ประชาชนได้ทราบ ดังนั้นประชาชนสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมนิทรรศการที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติได้” พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า สำนักการโยธา-กรุงเทพมหานคร ได้เข้ามาปรับพื้นที่ทางตอนเหนือของท้องสนามหลวง โดยในวันนี้ (2 พ.ย.) ได้มีการลาดยางมะตอยเพื่อเตรียมพื้นที่สร้างพระเมรุมาศแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันสัปดาห์นี้ พร้อมเตรียมปรับการตั้งเต้นท์จิตอาสา คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งขณะนี้เตรียมปรับเรื่องจุดบริการอาหารและเวลาที่ให้บริการอาหารด้วย เนื่องจากเตรียมความพร้อมในการคืนพื้นที่สนามหลวง 2 ใน 3 ทางตอนใต้เพื่อสร้างพระเมรุมาศ โดยจุดบริการอาหารจะอยู่ฝั่งซ้ายและขวาของสนามหลวง คือ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และตรงข้ามฝั่งศาลฎีกา โดยให้บริการเป็นวงรอบ คือ ช่วง 06.00 น. / 09.00 น. / 11.00 น. / 14.00 น. / 16.00 น. / 20.00 น. และปิดท้องสนามหลวงเพื่อเคลียร์พื้นที่ในช่วงเวลา 21.00 น. ทั้งนี้ คนเร่ร่อนจะไม่สามารถเข้ามาค้างในพื้นที่สนามหลวงได้แล้ว ซึ่งขณะนี้มีคนเร่ร่อนกว่า 400 คนที่เข้ามาพักพิงภายในท้องสนามหลวง จึงต้องการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้ามาดูแล เพราะไม่สามารถให้เข้ามาค้างในพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และต้องใช้ในพระราชพิธีสำคัญของประเทศ
“ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมจะมีสายตรวจของกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น การแต่งกายที่ไม่เหมาะสมแล้วเข้ามาถ่ายรูปเซลฟี่ในกิริยาที่ไม่เหมาะสมบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง ซึ่งกรณีดังกล่าว จะมีเจ้าพนักงานเข้ามาตักเตือน หรือเชิญให้ออกจากพื้นที่ ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นผู้เข้ามาดูแล” พล.ต.ท.อำนวย กล่าว.-สำนักข่าวไทย
