พิษณุโลก 6 มิ.ย.-หนุ่มวัย 25 เมาซิ่งกระบะฝ่าไฟแดงชน ส.ต.ต.เสียชีวิต ส่วนเพื่อนตำรวจอีกคนสาหัส เจ้าตัวรับสารภาพสำนึกผิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนกับรถจักรยานยนต์ของตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย บนถนนเส้นพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ (ขาล่อง) บริเวณกลางสี่แยกอินโดจีน อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะแบบตอนเดียวเสริมคอกท้ายรถ สีบรอนซ์-เงิน มีร่องรอยเฉี่ยวชนที่หน้ารถฝั่งขวา และข้างรถฝั่งซ้ายเสียหายพังยับเยิน มีนายธนา อายุ 42 ปี ชาว จ.น่าน เจ้าของรถยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำตาล สภาพล้มคว่ำพังยับเยิน และพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ ส.ต.ต.ศราวุธ จันโส อายุ 29 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก สภาพศพสวมชุดสีกากีเครื่องแบบเต็มยศ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ ส.ต.ต.กันตพัฒน์ ศัลยพงษ์ อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลกรุงเทพ-พิษณุโลกไปก่อนหน้านี้ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร อีกฝั่งถนนเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบรถกระบะ แบบ 4 ประตู สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพแต่งซิ่งเสียหลักตกลงไปอยู่ในพงหญ้าข้างทางพร้อมกับควบคุมตัวคนขับเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายอิทธิภูมิ อายุ 25 ปี สภาพร้องไห้ฟูมฟายหน้าตาแดงก่ำมีกลิ่นสุราเหม็นคลุ้ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุ ส.ต.ต.ศราวุธ จันโส ผู้เสียชีวิต พร้อมกับ ส.ต.ต.กันตพัฒน์ ศัลยพงษ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้มาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจร่วมกันตามปกติ และรับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่าให้สกัดจับรถกระบะต้องสงสัย กระทั่งพบรถคันดังกล่าวขับอยู่บนถนนเส้นมิตรภาพมุ่งหน้าสี่แยกอินโดจีน จึงไล่ติดตามเป็นระยะทางกว่า 8 กม. โดยมี ส.ต.ต.ศราวุธ เป็นคนขี่ ส่วน ส.ต.ต.กันตพัฒน์ นั่งซ้อนท้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ประกบพร้อมส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่คนขับรถกระบะ ไม่ยอมจอดแต่ยังเหยียบคันเร่งหลบหนี จนมาถึงยังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกไฟแดง นายอิทธิภูมิได้เร่งเครื่องฝ่าสัญญาณไฟแดงก่อนชนกับรถกระบะอีกคันของนายธนา พงศ์ภัคธนากร ชาว จ.น่าน ที่เพิ่งขับออกจากสัญญาณไฟเขียวกลางสี่แยกพอดี ส่งผลให้รถกระบะหมุนฟาดกับรถจักรยานยนต์ของตำรวจทั้ง 2 นายจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ส่วนรถกระบะของผู้ก่อเหตุเสียหลักเสยกับเกาะกลางถนนพุ่งตกลงไปในป่าหญ้าข้างทาง
นายอิทธิภูมิ ผู้ก่อเหตุ ยังให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนเองขับรถเดินทางมาจาก จ.กำแพงเพชร เพื่อมาเยี่ยมแม่ของแฟนเก่าที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และดื่มเบียร์ไปจำนวน 3 ขวด จนขับถึง จ.พิษณุโลก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม เนื่องจากตนตกใจกลัวว่าจะถูกจับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย เพราะมึนเมาขณะขับขี่ แถมรถกระบะที่เพิ่งซื้อมาใหม่ได้เพียง 3 สัปดาห์ ยังไม่มีป้ายทะเบียนแต่อย่างใดจึงกลัวถูกจับปรับดำเนินคดี เลยตัดสินใจขับรถหลบหนีตำรวจแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น พร้อมกับกล่าวขอโทษสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปจนตำรวจเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และขับรถในขณะเมาสุราเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่วัดคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พล.ต.ต.กิตติกร บุญสม ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ ส.ต.ต.ศราวุธ จันโส ผบ.หมู่ (ป.) ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก เบื้องต้น พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ส.ต.ต.ศราวุธ จันโส อายุ 29 ปี ผู้เสียชีวิต และ ส.ต.ต.กันตพัฒน์ ศัลยพงษ์ อายุ 26 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บ เป็นคนที่ตั้งใจปฏิบัติงาน จากนี้ก็จะได้ทำเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพ ส่วนผู้บังคับบัญชาทุกระดับมีความห่วงใย และสั่งการให้ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ รวมทั้งทายาทและดำเนินคดีให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ด้านครอบครัวของ ส.ต.ต.ศราวุธ จันโส ได้กล่าวว่าครอบครัวรู้สึกเสียใจและภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ต.ต.ศราวุธ จันโส ที่รับราชการตำรวจดั่งสมความตั้งใจ โดย ส.ต.ต.ศราวุธฯ ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ขณะที่ผู้ก่อเหตุที่เมาแล้วขับนั้น อยากฝากบอกว่าผู้ขับขี่รถก็ไม่ควรดื่ม ซึ่งเมาแล้วขับ ทำให้เกิดการสูญเสียใจได้ในที่สุด โดยบรรยากาศในพิธีรดน้ำศพ ส.ต.ต.ศราวุธ จันโส เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติ ผู้บังคับบัญชา พร้อมเพื่อนร่วมงานร่วมไว้อาลัย ก่อนเคลื่อนศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ที่ อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ ต่อไป.-สำนักข่าวไทย
