
9 ทันโลก : การทูตและดุลแห่งอำนาจไทย-กัมพูชา
28 ก.ค. – ปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชากลายเป็นประเด็นในเวทีโลก บทบาทมหาอำนาจและผู้เล่นสำคัญจึงถูกจับตาตามไปด้วย ติดตามในรายงาน 9 ทันโลก.-สำนักข่าวไทย
28 ก.ค. – ปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชากลายเป็นประเด็นในเวทีโลก บทบาทมหาอำนาจและผู้เล่นสำคัญจึงถูกจับตาตามไปด้วย ติดตามในรายงาน 9 ทันโลก.-สำนักข่าวไทย
ศรีสะเกษ 28 ก.ค. – นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ระบุจากสถานการณ์ชายแดนที่ยังไม่น่าไว้วางใจ ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถเดินทางมาโรงพยาบาลได้ จึงต้องมีการปรับแผนให้บริการ .-สำนักข่าวไทย
สุรินทร์ 28 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 5 แนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สุรินทร์ ยังคงปะทะกันอย่างหนัก ขณะที่ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน จากการกระทำของกองกำลังนอกประเทศ เพื่อให้สามารถใช้งบประมาณช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ชาวบ้านบริเวณโดยรอบมณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ในตัวเมืองสุรินทร์ ทยอยกลับเข้าพื้นที่ในช่วงเช้าวันนี้ หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า แก้ไขสถานการณ์ได้แล้ว กรณีตกเป็น 1 ในเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชา เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ยังไม่กลับเข้าพื้นที่ทำให้ร้านค้าต่างๆ บางส่วนยังปิดให้บริการ และประชาชนในหอพักหลายแห่ง ก็ยังไม่กลับมา ทำให้บรรยากาศในซอยที่เคยพลุกพล่าน ต้องเงียบเหงาลงอย่างมาก การข่าวเดียวกันนี้ ยังทำให้โรงพยาบาลสุรินทร์ ต้องแจ้งปิดคลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลาราชการในวันนี้ แต่ล่าสุดประกาศกลับมาเปิดตามปกติในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) สำหรับสถานการณ์การปะทะตามแนวชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ วันนี้หนักกว่าทุกวัน ทางด้านปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก และด้านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง โดยเฉพาะด้านอำเภอพนมดงรัก ที่กัมพูชาหมายยึด เข้าครอบครองทั้ง 2 ปราสาท มีการเปิดฉากยิงตั้งแต่ตี 3 เรื่อยมาจนถึงช่วงเย็น ไม่มีช่วงที่หยุดพักนาน […]
ศรีสะเกษ 28 ก.ค. – สธ. ประชุมประเมินสถานการณ์ชายแดน ว่าจะต้องปิดโรงพยาบาลใดเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ศรีสะเกษปิดไปแล้ว 2 โรงพยาบาล และมีแนวโน้มอาจต้องปิดเพิ่มอีก 2 แห่งหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษประชุม Conference ร่วมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสาธารณสุขจังหวัดอื่นๆ ทั้งอุบลราชธานี บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งวันนี้มีการประเมินสถานการณ์รุนแรงตามจังหวัดชายแดน ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดสถานพยาบาล การเตรียมแผนฉุกเฉินรวมถึงคลังยาและคลังโลหิตสำรองในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น ในส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้มีโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงต้องปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายบุคลากรและผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง นอกจากนี้กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์ว่าอาจต้องมีการปิดเพิ่มอีกสองแห่งหรือไม่ ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือรพ.สต. ตามแนวชายแดน ขณะนี้แม้หลายแห่งปิดให้บริการแต่ก็ไม่กระทบกับประชาชน เพราะมีการปรับรูปแบบการให้บริการ .-สำนักข่าวไทย
อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]
จันทบุรี 28 ก.ค. – สถานการณ์อพยพชาวกัมพูชา เข้าสู่วันที่ 4 ยังมีแรงงานราว 1,000 คน รอข้ามพรมแดนแน่นเต็มหน้าด่านบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวร ตลาดบ้านแหลม ต.เทพนินิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ชาวกัมพูชายังคงทยอยกลับประเทศเป็นวันที่ 4 หลังเกิดยิงปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ 3 จังหวัดแนวชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ โดยชาวกัมพูชาราว 1,000 คน พร้อมสัมภาระ กระจายอยู่บริเวณโดยรอบตลาดบ้านแหลม ทะลักไปจนถึงบริเวณหน้าด่าน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่ตกค้างหลังฝั่งไทยปิดด่านเวลา 15.00 น. วานนี้ (27 ก.ค.) อีกส่วนเป็นผู้ที่ทยอยเดินทางมารอกลับประเทศกันตลอดคืน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ตลอดจนการระเบียบการระบายชาวกัมพูชาให้เดินทางกลับประเทศด้วยความรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย
ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยความมั่นคงรายงาน นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมร สั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับการหลอกลวงคนไทย มาทำสงคราม IO โจมตีไทยในโซเชียลมีเดีย กว่า 500 ล้านครั้งต่อวัน วอนคนไทยเป็นนักรบไซเบอร์สวนกลับได้ อย่าเคลิ้มตาม IO เขมร มาด่าไทยกันเอง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า พบการโจมตีทางไซเบอร์จากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจากประเทศกัมพูชามายังสื่อต่างๆ ในประเทศไทย เช่น เปิดเป็นบัญชีผู้ใช้งานปลอมเป็นคนไทยนับล้านบัญชี ทั้งในเฟซบุ๊ก IG และ x และเข้าไป กดรีพอร์ตเฟซบุ๊ก ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลไทย ด่าทอ กองทัพไทย และรัฐบาลเป็นจำนวนมาก และโจมตีด้วย DDos Attack ถึงกว่า 500 ล้านครั้ง ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ทั้งนี้พบว่า […]
28 ก.ค. – “ผบช.ก.” สั่งเข้มรับมือวิกฤติชายแดนไทย-กัมพูชา ใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอพยพประชาชน ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เสริมแนวหน้า เตือนอินฟลูเอ็นเซอร์ไลฟ์สด อย่ากระทบสิทธิมนุษยชน ชี้ทั่วโลกจับตาภาพลักษณ์ไทย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดวิกฤติความตึงเครียด ว่า ได้กำชับกำลังตำรวจในสังกัดให้ปฏิบัติตาม “แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” โดยเน้นการสนับสนุนด้านมนุษยธรรม ทั้งในด้านการอพยพประชาชน การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ และการดูแลความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ผบช.ก. ระบุว่า ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงเป็นกำลังหลักในการเข้าดูแล เนื่องจากมีหน่วยตั้งอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้ประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อรับทราบความต้องการช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) จะมีการส่งขบวนรถบรรทุกสิ่งของจำเป็น อาทิ น้ำดื่ม อาหาร และเครื่องใช้อุปโภคบริโภค เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านมนุษยธรรมตามคำร้องขอของ พม. นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย เพื่อเสริมกำลังด้านการแพทย์แก่ผู้ปฏิบัติงานในแนวหน้า ส่วนภัยพิบัติจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ผบช.ก. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ตำรวจน้ำลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกในการสัญจร และดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด สำหรับกรณีที่มีอินฟลูเอ็นเซอร์จำนวนหนึ่งเดินทางไปยังพื้นที่ชายแดน และมีการถ่ายทอดสด (ไลฟ์สด) ขณะเกิดการปะทะนั้น […]
กระทรวงการต่างประเทศ 28 ก.ค.- กต. ยืนยัน ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ชี้ข่าวกองกำลังไทยใช้อาวุธเคมีเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และหวังทำลายสถานะไทย ต่อประชาคมโลก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวกล่าวหาว่ากองกำลังของไทยใช้อาวุธเคมี ว่า ไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ และยืนยันการยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และยืนหยัดในท่าทีในการประณามการใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะเป็นที่ใด โดยผู้ใด หรือภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม นอกจากนี้ ประเทศไทยยังยึดมั่นต่อตราสารระหว่างประเทศด้านการลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงทั้งปวง โดยนับตั้งแต่ไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมีเมื่อปี 2546 ไทยได้แสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ด้วยการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) รวมทั้งกับรัฐภาคีอนุสัญญาอื่น ๆ ดังนั้นข้อกล่าวหาดังกล่าวขาดมูลความจริง และสะท้อนการบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ และมีเจตนาที่จะบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือและสถานะของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ.-312-สำนักข่าวไทย
พรรครวมไทยสร้างชาติ 28 ก.ค.- “ธนกร” ฝากความหวังรัฐบาลบินมาเลเซีย ถกกัมพูชา ลั่นเขมรต้องหยุดยิงก่อนไม่มีข้อแม้ ยันยึดแผนที่ 1 : 50,000 ติง “ฮุน มาเนต” ปากบอกหยุดยิงแต่สั่งโจมตีพลเรือนไทยไม่ยั้ง หนุนกองทัพไทยตอบโต้ตามยุทธศาสตร์เต็มที่ปกป้องอธิปไตย นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ในวันนี้ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีจะนำคณะผู้แทนรัฐบาลไทย บินไปเจรจากับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มาเลเซียตามคำเชิญของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน เพื่อร่วมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชานั้น ตนและคนไทยทั้งประเทศฝากความหวัง ไว้กับคณะรัฐบาล ที่จะไปหารือเจรจาโดยขอให้รัฐบาลไทย ย้ำจุดยืนให้ชัด ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายก่อเหตุรุนแรง ทำผิดข้อตกลงในสัญญาหลายฉบับทั้งเรื่องการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการโจมตีเป้าหมายพลเรือนจนทำให้ผู้บริสุทธิ์เด็ก คนชรา และเจ้าหน้าที่เสียชีวิตหลายราย การยิงเป้าหมายที่โรงพยาบาลปั๊มน้ำมันและศูนย์พักพิงถือเป็นการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงครามร้ายแรง เป็นสิ่งที่ทั่วโลกได้ร่วมกันประณาม และเรียกร้องให้กัมพูชาออกมารับผิดชอบ พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลไทย ยืนยันกับประธานอาเซียนเรื่องการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งมีความชัดเจนกว่ากัมพูชา ตามที่กองทัพไทยได้ยึดมาตราส่วนแผนที่นี้มาตลอด และในประเทศอาเซียนก็ยึดมาตราส่วนแผนที่ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้นายธนกร […]
28 ก.ค. – กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์ ให้กำลังใจ สนับสนุนอาหารปรุงสุกและน้ำดื่มกว่า 2,500 ขวด พร้อมเคียงข้างคนไทย ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา วานนี้ (27 กรกฎาคม 2568) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายวิภู พิวัฒน์ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และ กฟผ. ลงพื้นที่สร้างขวัญกำลังใจ และเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสนับสนุนอาหารปรุงสุก ขนมสำหรับเด็ก และน้ำดื่มจำนวน 1,500 ขวด แก่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ผู้ประสบภัยจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมสนับสนุนวัตถุดิบประกอบอาหาร ขนมสำหรับเด็ก และน้ำดื่มจำนวน 1,000 ขวด แก่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ผู้ประสบภัยจังหวัดสุรินทร์นอกจากนี้ กฟผ. ได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและยานพาหนะ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที และพร้อมเคียงข้างคนไทยทุกวิกฤติ.-517-สำนักข่าวไทย
28 ก.ค. – “พิธา” โพสต์เปรียบเทียบเศรษฐกิจ “ไทย-กัมพูชา” เตือนรัฐบาลอาจจะเลือก “สงคราม” แต่คนจ่ายราคาคือภาคเอกชน-แรงงาน แนะลดระดับความตึงเครียด-เจรจากัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านแอปฯ ลิ้งค์อิน เปรียบเทียบเศรษฐกิจของกัมพูชาและประเทศไทย ใจความสำคัญว่า กัมพูชาส่งออกมูลค่า 12,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปยังสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 27 ของ GDP ไทยส่งออกมูลค่า 55,100 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นประมาณร้อยละ 10 ของ GDP กัมพูชามีความเสี่ยงมากกว่าไทยในเรื่องการเจรจาภาษีกับสหรัฐ รัฐบาลอาจเลือกที่จะทำสงคราม แต่คนจ่ายราคาคือภาคเอกชนและแรงงาน ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเปราะบาง เรายอมเสี่ยงกับการสูญเสียเศรษฐกิจเกือบ 1 ใน 4 โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจริงหรือ นี่คือสงครามที่เราไม่อาจยอมรับได้ และไม่ควรถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอให้เราเลือกสันติภาพด้วยไม่ใช่เพียงเพราะเราถูกบังคับ พร้อมแนะนำให้ลดระดับความตึงเครียดและเจรจากัน.-312-สำนักข่าวไทย