ตร.ประชุม 3 หน่วย ถกคดีวัดพระบาทน้ำพุ จ่อสอบเส้นเงินย้อนหลัง 20-30 ปี

13 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” เตรียมตรวจสอบเส้นเงินรับบริจาคเข้าวัดพระบาทน้ำพุ ย้อนหลัง 20-30 ปี หลังพบเงินบริจาค กระจายไปยังหลายบัญชี ทั้งมูลนิธิฯ และบุคคลหลายกลุ่ม จ่อนิมนต์เจ้าอาวาสเข้าให้ข้อมูล พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียก 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมใหญ่นัดแรกติดตามความคืบหน้าคดี “หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ โดยมีกองบังคับการปราบปราม, กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยสั้นๆ ก่อนการประชุมดังกล่าว ว่า วันนี้จะเป็นการประชุมกำหนดแนวทางในหลายประเด็น ส่วนหลังจากนี้จะถึงขั้นการออกหมายจับหรือดำเนินคดีกับใครหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า ยัง ก่อนที่จะเดินขึ้นลิฟท์ไป ภายหลังการประชุมนานกว่าชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดผยว่า ขณะนี้มีความชัดเจนในหลายเรื่อง แต่มีบางมิติยังไม่ชัดเจนต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมมากขึ้นและสามารถพิสูจน์ได้ ส่วนจะต้องเชิญหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาส มาให้การหรือไม่นั้น จะเชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้องนิมนต์หลวงพ่อมาเพื่อให้ความชัดเจนด้วย ส่วนจะไปตรวจสอบข้อมูลที่วัดหรือไม่นั้น ขอดูการพูดคุยของคณะกรรมการก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบใคร ถ้าไม่จำเป็น ส่วนที่หมอบี และเลขา เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ขอยังไม่เปิดเผยสำนวนคดี ส่วนกรณีคำให้การของหมอบีจะถูกหยิบยกมาพิจารณาในเรื่องการทุจริตหรือผิดปกติของวัดหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า […]

‘หมอบี’ ยังปฏิเสธปมฉ้อโกงเงินบริจาค ยันมอบทุกบาทให้วัด

12 ส.ค.- “หมอบี” ยังให้การปฏิเสธเรื่องโกงเงินบริจาค ยืนยันส่งมอบเงินทุกบาทให้วัดพระบาทนำพุ ขณะตำรวจพบเส้นทางการเงินบางส่วนหายไปจริง เร่งพิสูจน์ทราบ หากชี้แจงไม่ได้อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ให้สัมภาษณ์ หลังเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม นานกว่า 6 ชั่วโมง เปิดเผยว่าตัวเองไม่มีเจตนาฉ้อโกงเงินบริจาค และไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเงิน 5.4 ล้านบาทที่หายไป ยื่นยันนำเงินบริจาคส่งมอบให้กับหลวงพ่ออลงกต ทุกบาททุกสตางค์ ส่วนการถือครองรถยนต์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของวัด นายเสกสันน์ บอกให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่าการรวบรวมพยานหลักฐานในขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก หลักฐานบางส่วนพบว่า นายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิด ฐานฉ้อโกง แต่ยังต้องพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงก่อนว่าเงินที่หายไปเอาไปใช้ในส่วนไหน ซึ่งนายเสกสันน์ อ้างว่าเอาไปใช้ในโครงการต่าง ๆ ของวัด ทั้งโครงการทุนนักเรียนนอก และโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ ส่วนรถยนต์หรู คำให้การนายเสกสันน์ ยอมรับว่าเป็นทรัพย์สินของทางวัดจริง เตรียมส่งมอบคืนให้กับวัด แต่ยังคงต้องตรวจสอบที่มาของทรัพย์สิน เนื่องจากชื่อผู้ครอบครองรถยนต์ดังกล่าวเป็นชื่อของเครือญาตินายเสกสันน์ ความคืบหน้าการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง พันตำรวจเอก เอนก เปิดเผยว่าสอบปากคำไปแล้วกว่า 20 คน […]

กองปราบเรียกประชุมคดี “หมอบี” อาจเข้าข่ายฉ้อโกงปชช.

11 ส.ค.- รอง ผบก.ป. ย้ำ กองปราบฯ ทำคดีหมอบี ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุเท่านั้น ส่วนกรณีถือครองทรัพย์สินของบุคคลแทนวัด เป็นตำรวจ บช.ก. ชุดใหญ่ ทำหน้าที่ขยายผล หาความชัดเจน เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม พร้อมทิ้งท้าย เงินบุญมันแรง ใครถือครอง รีบส่งคืนก่อนจะเดือดร้อนเพราะผลกรรม ด้านหมอบีย่องเงียบยื่นหลักฐานเพิ่มเติม ปฏิเสธชี้แจงสื่อฯ เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการกองปราบปราม เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวน คลี่คลายกรณีวัดพระบาทน้ำพุและหมอบี จัดการเปิดบัญชีรับบริจาค เงินช่วยเหลือกิจกรรมวัด แต่ส่งมอบเงินให้วัดพระบาทน้ำพุไม่ครบ โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ภายหลังการประชุม พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้การกองปราบให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พันตำรวจเอก เอนก เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ ผู้บังคับการกองปราบปราม ได้เรียกทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องมาวางกรอบแนวทาง แบ่งงานกันทำเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ เบื้องต้นในส่วนของการตรวจสอบกรณีหมอบี พบข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่ขยายออกไปมากขึ้น โดยที่ประชุมมีมติ ไม่รอให้ทางวัดพระบาทน้ำพุมาแจ้งความ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกับความรู้สึกของประชาชนที่บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ […]

สภาทนายความฯ แจงไม่ตั้งคณะทำงานช่วยคดี “หลวงพ่ออลงกต”

11 ส.ค. – สภาทนายความฯ แจงไม่สามารถให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับหลวงพ่ออลงกตได้ หลังทนายเกิดผลถอนตัว เพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์การขอความช่วยเหลือ และการถอนตัวเป็นเรื่องส่วนบุคคล สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกประกาศ ตามที่ปรากฏข่าวว่า ทนายความเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อขอถอนตัวจากการเป็นทนายความให้แก่วัดพระบาทน้ำพุ โดยให้เหตุผลว่าปัญหาสุขภาพที่ไม่แข็งแรง และระบุว่าทางสภาทนายความจะตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าวนั้น สภาทนายความขอเรียนชี้แจงว่า ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับทางหลวงพ่ออลงกต (พระอลงกต ติกขปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุได้ เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์การขอความช่วยเหลือทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 โดยข้อกำหนดของพระราชบัญญัติดังกล่าวระบุว่าการขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจะต้องเป็นไปเพื่อผู้ยากไร้ และไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่านั้น ซึ่งกรณีของวัดพระบาทน้ำพุนั้นไม่ถือเป็นคดีที่เข้าข่ายเงื่อนไขดังกล่าว และไม่ใช่คดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ อีกทั้งการถอนตัวของทนายความเกิดผล แก้วเกิด เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับสภาทนายความแต่อย่างใด.-416-สำนักข่าวไทย

เตรียมประชุมวางกรอบการทำงานคดี “หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ”

11 ส.ค. – คณะทำงานคดี “หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ” เตรียมประชุมวางกรอบทำงาน บ่ายนี้ เบื้องต้นออกหมายเรียกผู้ที่เคยบริจาคเงินมาให้ข้อมูลในฐานะพยาน เพื่อตรวจสอบจุดประสงค์การใช้เงินของวัด ความคืบหน้าทางคดีหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ และวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี กรณีการเปิดรับบริจาคเงินวัด ในวันนี้ จะมีการประชุมคณะทำงานร่วมเพื่อวางกรอบการทำงานเชิงรุกในเวลา 14.00 น. ที่อาคารกองบังคับการปราบปราม เพราะนอกจากจะทำในส่วนของคดีหมอบีที่อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนแล้ว ยังมีบางประเด็นที่เข้าข่ายหมิ่นเหม่กับข้อหาในความรับผิดชอบของ บก.ปปป. ในเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งทาง บก.ปปป. เตรียมจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สินและเงินของวัดพระบาทน้ำพุด้วย ขณะเดียวกัน พระราชวิสุทธิประชานาถหรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และตัวหมอบี ยังต้องชี้แจงทรัพย์สินและเอกสารต่างๆ ให้ได้ โดยเฉพาะถ้านำเงินที่ได้รับบริจาคไปซื้อบ้านหรือที่ดินส่วนตัว ถือว่ามีความผิดถูกดำเนินคดีด้วย ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าคดีสั้นๆ ก่อนการประชุมที่จะมีขึ้นในเวลา 14.00 น. วันนี้ว่า ในคดีหมอบีมีความซับซ้อนพอสมควร เพราะเกี่ยวข้องเส้นเงินบริจาคที่ได้เงินมา แล้วเงินไปที่ไหนบ้างอย่างไร มีรูปแบบวิธีการคิดอย่างไรบ้าง ทำอะไรบ้าง โดยต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก เพราะการเปิดบริจาครับโอนเงินคือการกระทำภายนอก แต่มีการกระทำภายในคือเจตนาตั้งใจทุจริตด้วยหรือไม่ อันเป็นองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ทางวัดพระบาทน้ำพุยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับหมอบีแต่อย่างใด […]

“ทนายเกิดผล” ยันพฤติกรรม “หมอบี” ผิดปกติ จ่อรวบรวมหลักฐานเอาผิด

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – “ทนายเกิดผล” ระบุพฤติกรรม “หมอบี” ผิดปกติ น่าสงสัย ทางวัดมีมติให้ดำเนินคดี แต่ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ความคืบหน้ากรณี “หมอบี” เปิดบัญชีรับบริจาคเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ หลังจากที่ทางเจ้าอาวาสและหมอบีโต้ข้อเท็จจริงกันไปมา ล่าสุดทนายเกิดผลมองพฤติกรรมหมอบีผิดปกติ และโยนความผิดให้หลวงพ่อ ส่วนตำรวจกองปราบฯ มองการเบิกเงินสดของหมอบี บ่งชี้พฤติกรรมน่าสงสัย นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความวัดพระบาทน้ำพุ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีหมอบีเปิดบัญชีรับบริจาคให้วัด ว่า วันนี้จะนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหมอบี เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม หลังจากที่มีคนมาร้องเรียนกับหลวงพ่อ หลวงพ่อจึงเรียกหมอบีให้นำเอกสารมาชี้แจง ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารรายละเอียดการดำเนินการแต่ละโครงการ โดยหมอบีนำมาให้หลวงพ่อเซ็นรับทราบว่าหลวงพ่อดูแล้ว ซึ่งจากการดูร่วมกันหลายฝ่าย เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ไม่ได้ลงวันที่ ทำขึ้นมาว่ามีกิจกรรมอะไรที่ทำไปแล้วบ้าง ส่วนการแจ้งความตอนนี้ วัดมีมติว่าให้ดำเนินคดีกับหมอบีอย่างแน่นอน แต่ว่าขณะนี้หลักฐานยังไม่เพียงพอจะต้องมีการรวบรวมก่อน จากที่หมอบีบอกว่าเงินบางส่วนนำไปใช้จ่ายโครงการอื่นนั้น ก็เป็นเรื่องที่หมอบีนำมาอ้าง เนื่องจากเบิกเงินมาส่งให้หลวงพ่อไม่ครบ ส่วนเรื่องที่หมอบีระบุว่ามีการนำเงินไปให้หลวงพ่อโดยตรงนั้น ก็ข้อมูลตรงกัน แต่เงินสดที่ได้มา ก็มีเจ้าหน้าที่ของวัดที่คอยทำบัญชีรายรับรายจ่ายอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยตอนนี้ตัวเลขที่ไม่ตรงกันมีอยู่ 5.4 ล้านบาท ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้หมอบีมีความผิดปกติ เนื่องจากให้ข้อมูลไม่ตรงกับข้อมูลที่ตนรับทราบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แจ้งหลวงพ่อแล้วว่ามีมูลความผิด และยังมองว่าหมอบีโยนความผิดให้หลวงพ่อกับเลขาเขา แต่เขาจะพูดอย่างไรก็ได้เพราะหลักฐานเป็นอีกแบบ ซึ่งทางวัดตอนนี้มีหลักฐานเรียบร้อยแล้วแต่สิ่งที่ตนยังกังวลใจอยู่ คือหลวงพ่อรู้ไม่เท่าทัน […]

“หมอบี” ยันบริสุทธิ์หลังถูกเค้นสอบ นานกว่า 7 ชม.

กทม. 8 ส.ค. – ตำรวจกองปราบเค้นสอบ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” นาน 7 ชม. เจ้าตัวยืนยันบริสุทธิ์ปมเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ มอบหลักฐานให้ตำรวจหมดแล้ว วานนี้ (7 ส.ค.) นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ดอดเข้าพบตำรวจกองปราบฯ หลังถูกวิจารณ์หนัก ปมเปิดรับบริจาคเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ โดยหมอบี เข้าให้ปากคำนานกว่า 7 ชั่วโมง นำเอกสารหลักฐานต่างๆ จำนวนหลายแฟ้มมาแสดงให้พนักงานสอบสวนดู โดยทางตำรวจได้ถ่ายสำเนาและให้เซ็นรับรอง พร้อมตอบคำถามประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการรับเงินบริจาคให้วัดพระบาทน้ำพุ มานานต่อเนื่องหลายปี ระหว่างการสอบปากคำ เจ้าตัว มีการขอตัวเข้าห้องน้ำ 3-4 ครั้ง และหยุดพักรับประทานอาหารตอนช่วงเวลา 21.30 น. ก่อนจะสอบปากคำต่อจนถึงเที่ยงคืนถึงจะเสร็จ โดยหมอบี ต้องเซ็นคำให้ปากคำทุกแผ่นจำนวนหลายสิบหน้ากระดาษ ระหว่างรอเซ็นคำให้การและเอกสารต่างๆ เจ้าตัว ก็เอนศีรษะนอนพิงพนักเก้าอี้ด้วยความอ่อนล้าบ้าง สลับลุกยืนเดินไปรอบๆ บ้าง หลังจากนั้นหมอบี กับพวก 4 คน เดินออกจากห้องพนักงานสอบสวน บก.ป. […]

หมอบี

เร่งตรวจสอบพฤติการณ์หมอบี ปมเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ

7 ส.ค. – รอง ผบก.ป. ระบุพฤติการณ์ของหมอบี เข้าข่ายมีมูลในการฉ้อโกงประชาชน แต่ต้องดูเจตนา และรอความชัดเจนจากวัดพระบาทน้ำพุ เรื่องตัวเลขเงินบริจาคที่รับจากหมอบี เปรียบเทียบจำนวนเงินที่ถอนออกจากบัญชี ย้ำเรื่องนี้ยังไม่เป็นคดีความ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกสักระยะ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงประเด็นที่นายเสกสันน์ หรือหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ได้เข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถึงประเด็นในเรื่องของการเปิดบัญชีรับบริจาค เพื่อมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุโดยใช้ชื่อตนเอง ว่ามีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ต้นมีนาคมที่มาผ่าน หลังพบพิรุธการเบิกถอนเงินจากบัญชีของหมอบี ที่มีการเปิดรับบริจาคเงินจากเพจ “งมงายสไตล์หมอบี” ที่เปิดรับบริจาคตั้งแต่ปี 2560 โดยระบุว่าเป็นการใช้จ่ายในกิจการของวัด หลังจากนั้นได้ตั้งชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จนพบข้อมูลว่ามีการเบิกถอนออกมาจำนวน 101 ครั้ง เป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท พบบางครั้งมีการเบิกในบางรายการ เช่น ประมาณ 3 ล้านกว่า แต่ส่งมอบให้กับเจ้าอาวาสเพียงกว่า 1 ล้านบาทเท่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นเงิน ส่วนกรณีที่หมอบี เดินทางมาในวันนี้ ไม่ได้มีการแจ้งพนักงานสอบสวนล่วงหน้า เจ้าตัวมาลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวนว่าไม่ได้มีเจตนาหลบหนีตามที่เป็นกระแสข่าว และพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ โดยนำเอกสารบางส่วนมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนด้วย เมื่อถามถึงพฤติการณ์ของหมอบีว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก […]

ผบช.ก.สั่งสอบญาติพระวัดพระบาทน้ำพุ ร่ำรวยผิดปกติ

7 ส.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการชุดสืบสวนตรวจสอบความผิดปกติของญาติพระในวัดพระบาทน้ำพุ ร่ำรวยผิดปกติ รวมทั้งคดีของหมอบี นำเงินวัดไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีของหมอบี หมอดูชื่อดัง ที่ถูกกล่าวหาว่า เปิดบัญชีในนามของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี แต่กลับนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือส่งเงินให้วัดไม่ครบทั้งหมดว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ตรวจสอบข้อร้องเรียนอย่างละเอียดแล้ว ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ทั้งฝั่งของผู้ร้องและผู้เกี่ยวข้องกับเงินบริจาค ไปมากกว่า 10 ปากแล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบคือ กรณีการทุจริตเงินบริจาคที่จะให้กับวัด และการใช้จ่ายเงินบริจาค ภายในวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าวัดมีลักษณะพฤติการณ์ใช้นอมินีไปกว้านซื้อที่ดินและสนามกีฬาภายในจังหวัดลพบุรี โดยใช้ชื่อของมูลนิธิ เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด โดยก่อนหน้านี้มีประชาชนรายหนึ่งได้โทรศัพท์แจ้งว่าญาติของพระในวัด ร่ำรวยผิดปกติ โดยไม่ทราบว่านำทรัพย์สินต่างๆ มาจากส่วนใด ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีนี้แล้วเช่นกัน.-415-สำนักข่าวไทย

“หมอบี” โพสต์ออกจาก รพ.แล้ว พร้อมแจงข้อสงสัยหลายประเด็น

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – “หมอบี” โพสต์ข้อความผ่านเพจ เผยออกจากโรงพยาบาลแล้ว พร้อมชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ หลังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เสร็จสิ้น ขณะที่มีการแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจหมอบี-รอฟังการชี้แจง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ความเคลื่อนไหวล่าสุด หมอบีได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “งมงายสไตล์ หมอบี“ ระบุว่า “เรียนแจ้งทุกท่านครับ ก่อนอื่น ผมขออภัยเป็นอย่างสูงที่หายไปโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า จนทำให้เกิดความสงสัยและความสับสนเกี่ยวกับตัวผมในหลาย ๆ ประเด็น เมื่อวานผมได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ อาการโดยรวมดีขึ้นมาก และขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงและส่งกำลังใจมาให้ตลอดครับ สำหรับข้อสงสัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวผม ผมยินดีอย่างยิ่งที่จะชี้แจงและตอบคำถามเหล่านั้นอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกท่านคลายข้อข้องใจ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะได้ชี้แจงต่อสาธารณชน ผมจำเป็นต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประสานงานผ่านทางทนายความของผม เมื่อขั้นตอนนั้นเสร็จสิ้น ผมพร้อมจะออกมาพูดคุยและชี้แจงกับทุกท่านโดยเปิดเผยครับ ขอบพระคุณอีกครั้งสำหรับความห่วงใยและกำลังใจที่มีให้ผมเสมอมาครับ” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ติดตามเพจเฟซบุ๊กส่วนใหญ่ได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวมากกว่า 1,300 ข้อความ โดยส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นในตัวของหมอบี และรอการออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด อาทิ ความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า ”ส่วนตัวเรื่องบัญชีใจฟ้า เริ่มบริจาคมาตั้งแต่ปี 60 ตอนบริจาคก็รู้ว่าชื่อบุคคล แต่ตั้งใจทำบุญ เพราะคิดเองว่าเงินนี้ถึงคนยากจนคนลำบากแน่ๆ ไม่ว่าจะชื่อบุคคลหรือมูลนิธิ หรือชื่อวัด ส่วนตัวมั่นใจ เชื่อใจ […]

“หลวงพ่ออลงกต” เผยปม “หมอบี” รอเจ้าตัวชี้แจง หากทำผิดพร้อมดำเนินการ

7 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” เผยหากพิสูจน์ได้ว่า “หมอบี” ยักยอกเงินวัดหรือทำผิด จะดำเนินการแน่นอน ยอมรับ สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความประมาทเลินเล่อ ต้องรอเจ้าตัวชี้แจง พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีของ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” หมอคนดัง ที่อ้างกับหลวงพ่ออลงกตว่าได้นำเงินบริจาคไปซื้อรถเพื่อเตรียมถวายให้วัด แต่กลับนำไปใช้งานก่อน จึงยังไม่ได้ถวายตามที่ตั้งใจไว้ หลวงพ่ออลงกต กล่าวว่า หมอบีได้มาขออนุญาตหลวงพ่อเปิดบัญชีใช้ชื่อตัวเอง เพื่อนำไปทำกิจกรรมอาสาให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ตั้งแต่เมื่อปี 62 ซึ่งที่ผ่านมาทางเลขาของหมอบีได้รายงานการเบิกจ่ายทุกครั้ง แต่ลักษณะการทำงานของหมอบี เช่น หากมีเงินบริจาค 1 ล้าน ก็จะนำเงินสดมามอบให้ทางวัด 900,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้นำใส่ถุงมาอย่างดี ทางเจ้าอาวาสไม่ได้เปิดดู แต่จะส่งให้กับทางคณะกรรมการดำเนินการต่อ ส่วนจำนวนเงินอีก 100,000 ทราบว่าหมอบีจะนำไปทำโครงการจิตอาสา เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ตรงส่วนนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะเงินจะเข้าไปที่โครงการโดยตรง ซึ่งที่ผ่านทางเจ้าอาวาสไม่เคยทราบว่ามีเงิน 100,000 บาท ถูกนำไปใช้โครงการ เพิ่งมาทราบเมื่อปีที่แล้ว เลขามาบอก เบื้องต้นแจ้งมาว่าทำไปแล้วประมาณ 10 […]

“ทนายเกิดผล” ย้ำยังไม่พบความผิดหมอดูคนดัง รอตรวจสอบข้อมูล

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – “ทนายเกิดผล” ย้ำหมอดูคนดัง เจ้าของบัญชีรับบริจาคเงินช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ ยังไม่พบความผิด แต่ยอมรับหากดูจากการกระทำเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ส่วนเงินที่รับบริจาค ส่งถึงวัด 100% หรือไม่ ยังไม่ทราบ รอตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบ จากกรณีพบพิรุธเกี่ยวกับเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ พบในการเปิดรับบริจาค ระดมเงินจากประชาชนที่มีจิตศรัทธา โดยใช้บัญชีส่วนบุคคล ก่อนถอนเงิน อ้างนำเงินไปถวายเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุนั้น นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ เปิดเผยว่า กรณีการกระทำของหมอดูคนดังนั้น หากมองโดยทั่วไปก็เข้าข่ายฉ้อโกง แต่จนถึงขณะนี้ไม่ได้บอกว่ามีความผิด ต้องรอตรวจสอบรายละเอียดก่อน ซึ่งจากการปรึกษาตำรวจกองปราบปรามแนะนำให้ทางวัดรวบรวมหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดี ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ตนเองและคณะผู้จัดการบริหารของวัดพระบาทน้ำพุ จะประชุมเพื่อหาทางออกว่าจะดำเนินการเช่นไร ส่วนหมอดูคนดังตอนนี้ยังไม่มีความผิด แต่พฤติกรรมการกระทำเข้าข่ายความผิดก็ต้องรอเจ้าตัวนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง ส่วนกรณีกระแสข่าวว่าการบริจาคเงินนั้นหมอดูคนดังจะแบ่งให้วัด 70% ส่วนอีก 30% จะเก็บไว้ใช้ เรื่องนี้ทางวัดไม่เคยทราบและไม่เคยมีการทำแบบนี้ แต่หมอดูคนดังกล่าวมาสารภาพกับหลวงพ่ออลงกต ว่านำเงินไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งหลวงพ่อหาเหตุผลเรื่องนี้ไม่ได้ว่าทำไมจึงไปซื้อแบรนด์เนมมาใช้ นอกจากนี้ยังมีการนำเงินไปซื้อรถยนต์นำมาใช้ส่วนตัว โดยบอกกับหลวงพ่อว่ารถยนต์นี้ซื้อไว้เพื่อใช้ในภารกิจของวัด แต่หมอดูขอใช้ก่อน เมื่อเสร็จแล้วจะคืนให้เป็นของวัด ดังนั้น พรุ่งนี้จะทราบผลว่าจะมีการดำเนินคดีกับหมอดูคนนั้นหรือไม่.-414-สำนักข่าวไทย

1 2 3
...