รากาซา

ฮานอย 29 ก.ย. – ไต้ฝุ่นบัวลอยพัดขึ้นฝั่งเวียดนามไปเมื่อช่วงก่อนรุ่งสางที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดฝนหนัก คลื่นลมแรง ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คนและสูญหาย 12 คน สำนักงานพยากรณ์อากาศของเวียดนามรายงานว่าไต้ฝุ่นบัวลอยได้พัดขึ้นฝั่งระหว่างกว๋างจิกับจังหวัดเหงะอานทางภาคกลางเมื่อช่วงก่อนรุ่งสางของวันนี้ และขณะนี้พายุกำลังเคลื่อนตัวอยู่ในจังหวัดเหงะอานด้วยความเร็วลมสูงสุด 88 กิโลเมตร / ชั่วโมงซึ่งลดลงจากช่วงที่พัดขึ้นฝั่งที่ 117 กิโลเมตร / ชั่วโมง อิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งเสาไฟฟ้าหักโค่นทำให้ไฟดับในหลายพื้นที่ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน ผู้เสียชีวิตรายแรกเกิดจากการจมน้ำในเมืองเว้ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นวัยรุ่นชายวัย 16 ปี เสียชีวิตจากการถูกไฟดูดระหว่างเดินทางอยู่บนท้องถนนกับเพื่อนๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของจังหวัดกว๋างจิ ขณะที่กำลังมีฝนตกหนักและกระแสลมแรง นอกจากนี้กระแสคลื่นลมแรงยังซัดเรือประมง 4 ลำล่มลงนอกชายฝั่งจังหวัดกว๋างจิทำให้ชาวประมงสูญหายไป 12 คน ก่อนที่พายุจะพัดขึ้นฝั่งรัฐบาลได้สั่งอพยพประชาชนกว่า 28,500 คน ขณะเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต้องล่าช้าหรือถูกยกเลิกเนื่องจากสนามบิน 4 แห่งในภาคกลางต้องปิดทำการ ทางการเตือนว่าไต้ฝุ่นบัวลอยจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักตั้งแต่วันเสาร์ซึ่งเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม โดยหลายพื้นที่จะมีปริมาณฝนมากถึง 500 มิลลิเมตรตั้งคืนวันอาทิตย์ไปจนถึงวันอังคารนี้.-816.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 26 ก.ย. – พายุโซนร้อน ‘บัวลอย’ ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในวันนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 4 คน คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ในคืนนี้และอาจจะทวีกำลังแรงขึ้นได้ เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์กล่าวว่าพายุโซนร้อนบัวลอยซึ่งมีกำลังแรงได้พัดผ่านเกาะลูซอนทางภาคเหนือในวันนี้ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักกระแสลมแรง สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและสถานประกอบการต่างๆ ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า และป้ายโฆษณาหักโค่น ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน ซึ่ง 1 ในจำนวนนี้เสียชีวิตจากการถูกต้นไม้ล้มทับ และอีกคนหนึ่งถูกกำแพงถล่มทับ ตามท้องถนนเต็มไปด้วยเศษซากความเสียหายที่เกิดจากพายุ นอกจากนี้ประชาชนหลายล้านคนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ก่อนที่พายุบัวลอยจะพัดขึ้นฝั่งชาวฟิลิปปินส์หลายแสนคนได้พากันอพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว ในกรุงมะนิลาซึ่งมีประชาชนจากชุมชนชายฝั่งทะเล และผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำอพยพมาอยู่ในศูนย์ เพราะมีความเสี่ยงว่าบ้านเรือนจะถูกน้ำท่วมฉับพลันหรือเกิดดินถล่ม หลังจากที่ฟิลิปปินส์เพิ่งถูกซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” พัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน คาดว่าพายุโซนร้อนบัวลอยจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ในเวลาหลังเที่ยงคืนวันนี้ และในระหว่างนั้นพายุอาจจะทวีกำลังแรงขึ้นก่อนที่จะพัดขึ้นฝั่งทางภาคกลางเวียดนามในวันเสาร์นี้ จากนั้นจะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ยต่อไปในวันอาทิตย์-816.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 26 ก.ย. – ประชาชนในกรุงมะนิลา นครหลวงของฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมด้วยการเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่พายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” (Bualoi) ซึ่งฟิลิปปินส์เรียกพายุลูกนี้ว่า “โอปง” (Opong) เคลื่อนตัวเข้าใกล้ฟิลิปปินส์ สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ระบุว่า ศูนย์กลางของพายุอยู่ใกล้กับเมืองซานอิซิโดร ในจังหวัดซามาร์เหนือ (Northern Samar) โดยมีความเร็วลมสูงสุดต่อเนื่องที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกระโชกแรงถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เขตเมโทรมะนิลา (Metro Manila) และพื้นที่ใกล้เคียง อาจประสบกับฝนตกหนัก พร้อมความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หรือดินถล่ม โดยเฉพาะในชุมชนเสี่ยงที่ตั้งอยู่ตามริมแม่น้ำและพื้นที่ชายฝั่ง สำนักอุตุนิยมวิทยากล่าวเสริมว่า ขณะที่พายุโอปงเคลื่อนผ่านหมู่เกาะต่างๆ นั้น คาดว่าน่าจะยังคงความแรงในระดับพายุโซนร้อนกำลังแรง และมีแนวโน้มสูงที่จะกลับมาทวีกำลังขึ้นอีกครั้ง เมื่อพายุเคลื่อนตัวออกจากฝั่งและเข้าสู่ทะเลจีนใต้.-813.-สำนักข่าวไทย

กว่างโจว 26 ก.ย. – มณฑลกว่างตง หรือกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เดินหน้างานฟื้นฟูหลังเกิดภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งพัดขึ้นฝั่งเมื่อวันพุธ (24 ก.ย.) และขณะนี้ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนแล้ว สำนักข่าวซินหัว รายงานว่าพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง ซึ่งรวมถึงต้นไม้หักโค่น โครงสร้างพื้นฐานเสียหาย และกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ขณะที่ทางการกว่างตงได้ปรับลดระดับการรับมือเหตุฉุกเฉินเหลือระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด ตอน 18.00 น. ของวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น บริษัทไชน่า เซาเทิร์น พาวเวอร์ กริด สาขากว่างตง กล่าวว่า ได้ระดมเจ้าหน้าที่มากกว่า 50,000 คน และยานพาหนะกว่า 13,000 คัน เข้าดำเนินการซ่อมแซมฉุกเฉิน และฟื้นฟูการจ่ายไฟให้กับผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบแล้วเกือบร้อยละ 90 ตอน 17.00 น. ของวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) เกาะไห่หลิง ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด กลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังพายุไต้ฝุ่นขึ้นฝั่ง แม้ผู้ใช้บางส่วนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากเหตุน้ำท่วม แต่ทีมงานได้ใช้หุ่นยนต์ระบายน้ำเพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์แล้ว […]

มะนิลา 26 ก.ย. – พายุโซนร้อนบัวลอย จ่อทวีความรุนแรงเป็นไต้ฝุ่นวันนี้และพัดเข้าเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ จะทำให้เกิดฝนตกหนักและดินถล่ม เพียงสัปดาห์เดียวหลังจากพายุไต้ฝุ่นรากาซาเพิ่งพัดขึ้นฝั่งไปหมาดๆ ฟิลิปปินส์สั่งปิดโรงเรียนและยกเลิกเที่ยวบินโดยสารในหลายพื้นที่ของเกาะลูซอน หลังมีพายุลูกใหม่กำลังเคลื่อนตัวเข้าประเทศ เพียงไม่กี่วันหลังจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา ที่เพิ่งพัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยพายุโซนร้อนกำลังแรง ‘บัวลอย’ (Bualoi) คาดว่าจะทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นในวันศุกร์นี้ จากนั้นจะพัดเข้าทางตอนใต้ของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง จนอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันในวงกว้าง ดินถล่มในพื้นที่ภูเขา และความเสี่ยงสูงจากคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) ที่อันตรายถึงชีวิตซึ่งอาจสูงถึง 3 เมตร หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ระบุว่า มีประชาชนประมาณ 1,500 คนติดค้างอยู่ตามท่าเรือในภูมิภาคบีโคล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คาดว่าพายุจะพัดเข้าถล่ม นอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกหลายพันคนที่ยังคงไร้ที่อยู่อาศัยหลังจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา ได้พัดถล่มทางตอนเหนือสุดของประเทศ และคร่าชีวิตอย่างน้อย 10 ราย ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อค่ำวันพุธว่า ทางการได้เตรียมอาหาร, ยา และสิ่งของบรรเทาทุกข์ไว้ในพื้นที่ที่คาดว่าพายุบัวลอยจะเคลื่อนผ่าน ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุและไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก ทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตกอยู่ในภาวะความยากจนเรื้อรัง ขณะที่ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากออกมาเดินขบวนประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อแสดงความไม่พอใจรัฐบาลต่อเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับโครงการของรัฐมากมายที่อ้างว่าจัดทำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม แต่ที่ผ่านมาไม่เคยประสบความสำเร็จและแก้ไขปัญหาไม่ได้ เชื่อว่าโครงการปลอมๆ เหล่านี้ ผลาญเงินงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์.-815.-สำนักข่าวไทย

ฮวาเหลียน, ไต้หวัน, 25 ก.ย. – ไต้หวันยังคงค้นหาผู้สูญหาย 22 ราย ในวันพฤหัสบดี หลังซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” (Ragasa) ที่พัดถล่มทำให้เกิดน้ำท่วมล้นทะเลสาบสันดอนกั้นที่อยู่เหนือเมืองเล็ก ๆ บนชายฝั่งตะวันออกที่ห่างไกล โดยภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุเกินกว่าที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำให้อพยพขึ้นไปอยู่บนชั้นสองของบ้าน จำนวนผู้เสียชีวิตในไต้หวันถูกปรับลดลงจาก 17 ราย เหลือ 14 ราย หลังเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุรากาซาในเทศมณฑลฮวาเหลียน ทำให้ทะเลสาบสันดอนกั้นที่บนภูเขามีน้ำล้นทะลักและปล่อยปริมาณน้ำขนาดมหาศาลเข้าท่วมเมืองกว่างฟู่ (Guangfu) รัฐบาลยังปรับลดจำนวนผู้สูญหายจาก 33 ราย เหลือ 22 ราย เนื่องจากสามารถติดตามตัวผู้คนได้มากขึ้น ตามปกติแล้ว ไต้หวันมีแผนการอพยพที่ซักซ้อมมาอย่างดีก่อนเกิดพายุไต้ฝุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภูเขาและชายฝั่งตะวันออกที่มีประชากรเบาบาง ซึ่งช่วยจำกัดจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายได้ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามว่าคำสั่งให้อพยพจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบนนั้นเหมาะสมหรือไม่ และมีสิ่งใดบ้างที่สามารถทำแตกต่างไปจากเดิมได้ นายกรัฐมนตรีโช จุง-ไถ (Cho Jung-tai) กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดีว่า นอกเหนือจากการไว้อาลัยเหยื่อผูัเสียชีวิตแล้ว รัฐบาลต้องสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ชั้นหนึ่งของบ้านพักอาศัย การหาความกระจ่างในเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปรับปรุงระเบียบปฏิบัติการอพยพในอนาคต พื้นที่ชนบทหลายแห่งของไต้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันออก มีประชากรสูงอายุจำนวนมาก เนื่องจากคนหนุ่มสาวได้ย้ายเข้าเมืองเพื่อหางานที่ดีกว่า นายหลิน จุง-หลู่ (Lin Jung-lu) […]

ฮ่องกง 25 ก.ย. – ฮ่องกงได้กลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินขาออกจากสนามบินนานาชาติอีกครั้งในวันพฤหัสบดี หลังจากการระงับไป 36 ชั่วโมง พร้อมทั้งเปิดทำการธุรกิจ บริการขนส่ง และโรงเรียนบางแห่ง หลังจากการถูกพายุหมุนเขตร้อน “รากาซา” (Ragasa) ซึ่งเป็นพายุที่ทรงพลังที่สุดในโลกประจำปีนี้ พัดถล่มศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ พายุรากาซาทำให้เมืองที่มีประชากรหนาแน่นแห่งนี้หยุดนิ่งตั้งแต่บ่ายวันอังคาร หลังพัดผ่านตอนเหนือของฟิลิปปินส์และไต้หวัน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 14 ราย ก่อนจะขึ้นฝั่งที่เมืองหยางเจียงทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันพุธ รายงานระบุว่า มีผู้บาดเจ็บในฮ่องกงมากกว่า 100 ราย โดยทางการได้ประกาศเตือนภัยไต้ฝุ่นระดับสูงสุดที่ระดับ 10 เกือบตลอดทั้งวันในวันพุธ ส่วนในวันพฤหัสบดี หอสังเกตการณ์ประกาศเตือนภัยไต้ฝุ่นไว้ที่ระดับ 3 ทำให้โรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนบางแห่งยังคงปิดทำการ แม้พายุรากาซาเคลื่อนตัวออกจากเมืองและอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ในวันพุธ มีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าท่วมพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกและใต้ของฮ่องกง ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างตามถนนและที่พักอาศัยบางแห่ง น้ำทะเลได้ทะลักเข้าโรงแรมฟูลเลอร์ตันทางตอนใต้ของเกาะ ทำให้ประตูกระจกแตกและน้ำท่วมล็อบบี้ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ และทางโรงแรมกล่าวว่าการบริการยังคงดำเนินการตามปกติ ท่าอากาศยานฮ่องกง ระบุว่า สายการบินต่างๆ จะค่อยๆ ทยอยกลับมาให้บริการเที่ยวบินตั้งแต่เวลา 06.00 น. ซึ่งตรงกับ 05.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ของวันพฤหัสบดี โดยจะเปิดใช้งานรันเวย์ทั้งสามพร้อมกัน โดยจะรองรับเที่ยวบินกว่า […]

ปักกิ่ง 25 ก.ย. – พายุไต้ฝุ่นรากาซาพัดขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของจีนเมื่อวานนี้ หลังคร่าชีวิต 17 คนในไต้หวัน และสร้างความเสียหายหนักในฮ่องกงจากลมแรงและฝนตกหนัก พายุไต้ฝุ่นรากาซา ถือเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดของโลกในปีนี้ จนได้ฉายาว่า “ราชาแห่งพายุ” พัดถล่มเมืองหยางเจียง ทางตอนใต้ของจีนเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและพายุรุนแรงกระทบกว้างขวางครอบคลุมเมืองใหญ่ ๆ เช่น กวางโจว เซินเจิ้น ฝอซาน และตงกวน ซึ่งมีประชากรรวมกันประมาณ 50 ล้านคน ทางการท้องถิ่นสั่งอพยพประชาชนกว่า 2 ล้านคน กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินได้ส่งเต็นท์ เตียงพับ ไฟส่องสว่าง และอุปกรณ์กู้ภัยนับหมื่นชิ้นไปช่วยผู้ประสบภัย ร้านค้าและร้านอาหารใช้วิธีจอดรถบรรทุกหน้าร้านเพื่อบังพายุ แต่ยังมีประชาชนบางส่วนออกจากบ้านเพื่อสัมผัสลมฝน ตำรวจทางหลวงต้องกันฝูงชนที่ไปรวมตัวถ่ายพายุใต้สะพาน เซินเจิ้น เบย์ ขณะที่ทางการเมืองเซินเจิ้นเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม โดยเฉพาะในเขตที่ลุ่มต่ำของเมือง พร้อมเตือนคลื่นสูงระดับสีแดง (Red Wave Warning) เป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยคาดว่าคลื่นจะสูงถึง 2.8 เมตร ไต้ฝุ่นรากาซา ก่อตัวเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนได้รับพลังจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย กลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีความเร็วลมเกิน 260 […]

ฮ่องกง 24 ก.ย.- ไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดของปีนี้ นอกจากทำให้ฮ่องกงต้องยกเลิกเที่ยวบินและสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาลแล้ว ยังทำให้ต้องย้ายเครื่องบินไปลงจอดที่สนามบินอื่นเพื่อความปลอดภัย ข้อมูลในเว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์24 (Flightradar24) ที่ติดตามการสัญจรทางอากาศในเวลาจริงพบว่า ก่อนที่ไต้ฝุ่นรากาซา ซึ่งมีกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวมาถึงฮ่องกงในวันนี้ เครื่องบินราวร้อยละ 80 ของสายการบิน 4 แห่งที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกงถูกย้ายไปลงจอด หรือสั่งจอดที่ท่าอากาศยานอื่นในญี่ปุ่น จีน กัมพูชา ยุโรป ออสเตรเลีย และอีกหลายแห่ง ตามที่การท่าอากาศยานฮ่องกงได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกทั้งหมดเป็นเวลา 36 ชั่วโมง ตั้งแต่เย็นวันอังคารที่ผ่านมา สนามบินนานาชาติฮ่องกง ถือเป็นสนามบินที่มีการขนส่งสินค้ามากที่สุดในโลก และมีผู้โดยสารใช้บริการมากเป็นอันดับ 9 ของโลก เกรทเทอร์เบย์แอร์ไลน์ แจ้งว่า จอดเครื่องบินที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ลำ นอกฮ่องกง ขณะที่ฮ่องกงแอร์ไลน์ดูเหมือนได้จอดเครื่องบินนอกฮ่องกง 27 ลำ จากทั้งหมด 28 ลำ ส่วนคาเธ่ย์แปซิฟิค สายการบินใหญ่ที่สุดของฮ่องกง มีฝูงบินโดยสารและขนส่งสินค้ารวมทั้งหมด 179 ลำ และเอชเคเอ็กซ์เพรส สายการบินต้นทุนต่ำในเครือคาเธ่ย์แปซิฟิค ข้อมูลติดตามการสัญจรทางอากาศพบว่า มีเครื่องบินจำนวนหนึ่งจอดอยู่ในฮ่องกง ฮ่องกงแจ้งสัญญาณเตือนภัยไต้ฝุ่นเป็นหมายเลข […]

ฮวาเหลียน, ไต้หวัน 24 ก.ย. – สำนักงานดับเพลิงไต้หวันรายงานในวันพุธว่า มีผู้เสียชีวิต 14 รายในเมืองฮวาเหลียน ทางตะวันออกของไต้หวัน และมีผู้สูญหายอีก 124 ราย หลังจากที่ระดับน้ำในทะเลสาบสันดอนกั้นบนภูเขาล้นแนวกั้นและเข้าท่วมเมืองในช่วงที่พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” พัดผ่าน นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ไต้หวันถูกพัดถล่มด้วยอิทธิพลของซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา ซึ่งขณะนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งทางใต้ของจีนและฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย ทะเลสาบสันดอนกั้น ซึ่งเกิดจากดินถล่มจากฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ในพื้นที่ทางตะวันออกที่มีประชากรเบาบางของเกาะ ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร ส่งน้ำปริมาณมากเข้าท่วมเมืองกวงฟู่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายทั้งหมดอยู่ในเมืองกวงฟู่ ซึ่งกระแสน้ำได้พัดสะพานข้ามแม่น้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งพังทลายลง หลายภูมิภาคทั่วไต้หวันได้ส่งทีมกู้ภัยไปยังฮวาเหลียน โดยกองทัพได้ส่งทหาร 340 นายเข้าช่วยเหลือ ในเมืองกวงฟู่ ทหารที่ใช้รถลำเลียงพลหุ้มเกราะเพื่อหลีกเลี่ยงโคลนที่หนาบนถนน ได้เดินแจกน้ำและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตามบ้านเรือน ข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า ประชาชนประมาณ 5,200 คน หรือประมาณ 60% ของประชากรเมืองกวงฟู่ ได้ขึ้นไปหลบภัยที่ชั้นสูงของบ้านเรือนของตนเอง ขณะที่ส่วนใหญ่ที่เหลือได้ออกไปพักอยู่กับครอบครัว รัฐบาลประเมินว่าทะเลสาบสันดอนกั้นดังกล่าวมีปริมาณน้ำ 91 ล้านตัน ซึ่งสามารถเติมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกได้ประมาณ 36,000 สระ และเทียบเท่ากับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของไต้หวัน รัฐบาลกล่าวว่าทะเลสาบปล่อยน้ำออกมาประมาณ 60 ล้านตัน ในฮ่องกง ถนนต่างๆ […]