กรมชลประทาน ปรับการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา-พระราม 6 รองรับ พายุ “บัวลอย”

กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ที่ 2,300 ลบ.ม./วินาที หลังพายุ “บัวลอย” ทำฝนตกหนัก ขณะที่เขื่อนพระราม 6 ยังระบายน้ำเกินเกณฑ์ “ธงแดง” กรมชลประทาน รายงานว่า จากอิทธิพลพายุ “บัวลอย” ร่วมกับร่องมรสุมกำลังแรงที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้นตอนบนที่ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องและฝนที่ตกในระยะนี้ ทำให้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ตั้งแต่เวลา 13.00 – 19.00 น. ได้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จากอัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,300 ลบ.ม./วินาที และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงขณะนื้ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนที่ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องและฝนที่ตกในระยะนี้ ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้พื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณด้านท้ายเขื่อนที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่-คลองโผงเผง, วัดไชโย, อ.ป่าโมก […]

เขื่อนพระรามหก “ธงแดง” ระดับ​น้ำเกณฑ์​วิกฤต

อยุธยา 27 ก.ย.-เขื่อนพระรามหก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าสู่ระดับ​ “ธงแดง” ระบายน้ำเกิน​ 550 ลบ.ม./วินาที เกณฑ์ “วิกฤต” ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนบางแห่งเริ่มได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะบริเวณชุมชนวัดสะตือ ตำบลท่าหลวง และตลาดเทศบาลตำบลท่าเรือ สำนักงานชลประทานที่ 10 กรมชลประทาน​แจ้ง​เตือน​เขื่อนพระรามหกเริ่มเข้าสู่ระดับ​ “ธงแดง” หรือเกณฑ์​วิกฤต​หลังอัตราการระบายเกิน 550 ลบ.ม./วินาที โดยวัน​นี้ระบายที่​ 567 ลบ.ม./วินาที​ ทั้งนี้​ได้บริหาร​จัดการน้ำเหนือเขื่อนผ่านการระบายเข้าคลองระพีพัฒน์ เพื่อควบคุมระดับน้ำให้อยู่ในระดับเหมาะสมและบรรเทาผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด​ โดยเฉพาะบริเวณชุมชนวัดสะตือ ตำบลท่าหลวงและตลาดเทศบาลตำบลท่าเรือซึ่ง​เป็น​พื้นที่​ลุ่ม​ต่ำ สำหรับ​เขื่อน​พระ​รา​มหก​รับน้ำ​จาก​เขื่อน​ป่า​สัก​ชล​สิทธิ์​ซึ่ง​วันนี้​ระบายที่​ 600 ลบ.ม./วินาที ​เพื่อพร่อง​น้ำรองรับ​ฝนระลอก​ใหม่​จากพายุ​บัวลอย ขณะที่​เขื่อน​เจ้าพระยา​คงอัตรา​การ​ระบาย​ที่​ 2,100​ ลบ.ม./วินาที​ เพื่อลดผลกระทบ​ด้าน​ท้าย​เขื่อน​ในจังหวัดอ่างทอง​และ​พระนครศรีอยุธยา สำหรับ​พายุไต้ฝุ่น​บัวลอย​จะส่งผลให้​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​และ​ภาค​เหนือ​มีฝนเพิ่มขึ้น​ตั้งแต่​พรุ่งนี้​ ทำให้​เขื่อน​ใหญ่​ตอ​นบน​ของ​ลุ่มน้ำ​เจ้าพระยา​ได้แก่​เขื่อน​ภูมิพล​และ​เขื่อน​สิริกิติ์​ปรับเพิ่ม​การระบาย​จึงทำให้​แนวโน้ม​ปริมาณ​น้ำแม่น้ำ​เจ้าพระยา​ที่​จังหวัด​นครสวรรค์​ยัง​คงเพิ่มขึ้น​ซึ่ง​วันนี้​ร้อยเอกธรรมนัส​ พรหม​เผ่า​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​เกษตร​และ​สหกรณ์​ได้​ตรวจติดตาม​สถานการณ์​และ​กำชับ​ให้​กรมชลประทาน​เร่งระบาย​น้ำอย่าง​เหมาะสม​ โดยให้คำนึงถึง​ทั้งพื้นที่​เหนือเขื่อน​และท้ายเขื่อน​ พร้อม​ยืนยัน​ว่า​ แม้ปริมาณ​น้ำจะมาก​ แต่ไม่ท่วมกรุงเทพ​มหานคร​อย่าง​แน่นอน​ ขอให้​ประชาชน​มั่นใจ.​-512.-สำนักข่าว​ไทย​

ปรับเพิ่มระบายน้ำเขื่อนพระรามหก ท้ายน้ำแตะเกณฑ์วิกฤติ

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – กรมชลประทานเตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนพระรามหก ระหว่างวันที่ 26–28 ก.ย.นี้ เพื่อรองรับน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ ที่เพิ่มอัตราระบายน้ำ เริ่ม 24 ก.ย. เป็นต้นไป คาดอาจกระทบชุมชนลุ่มต่ำท้ายเขื่อนใน จ.พระนครศรีอยุธยา ด้านเขื่อนเจ้าพระยาตรึงอัตราการระบาย โดยประสานเขื่อนใหญ่ตอนบนลดปริมาณน้ำไหลลงสู่ภาคกลาง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เร่งผลักดันน้ำในลุ่มน้ำชี พร้อมเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ กรมชลประทานเปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำเก็บกักถึง 78% ของความจุ และยังคงมีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง จึงได้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 500 เป็น 650 ลูกบาศก์เมตร/วินาที โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ เพิ่มวันละ 50 ลบ.ม./วินาที เพื่อรักษาระดับน้ำในเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อรองรับน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ รวมทั้งน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสักและฝนสะสม เขื่อนพระรามหกจึงเตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 550–700 ลบ.ม./วินาที ระหว่างวันที่ 26–28 ก.ย. 2568 ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นอีก 1.80–2.00 เมตร โดยระดับนี้อยู่ในเกณฑ์วิกฤตและอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งได้แก่ ขณะเดียวกัน ที่เขื่อนเจ้าพระยาคงระบายน้ำในอัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที […]

เขื่อนเจ้าพระยา-ป่าสักฯ ปรับเพิ่มการระบายน้ำ

กรุงเทพฯ 18 ก.น.-กรมชลประทาน รับมือฝน-น้ำเหนือ-น้ำทะเลหนุน ล่าสุดปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เพื่อบริหารจัดการน้ำหลากจากฝนตกหนักทางตอนบน และรองรับฝนระลอกใหม่จากร่องมรสุมที่กำลังพาดผ่านภาคกลาง ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทานแจ้งว่า วันนี้ได้ปรับเพิ่มการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 2,100 ลบ.ม./วินาทีเป็น 2,200 ลบ.ม./วินาที เนื่องจากแม้จะบริหารจัดการน้ำโดยหน่วงน้ำไว้หน้าเขื่อน พร้อมรับรับน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งในพื้นที่เหนือเขื่อนอย่างเต็มศักยภาพ ก็ยังจำเป็นต้องระบายจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มเนื่องจากเป็นเส้นทางที่จะระบายน้ำเหนือออกทะเลได้เร็วที่สุด เพื่อให้พร้อมรองรับฝนที่จะตกลงมาเพิ่มในระยะนี้ สำหรับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ปริมาณน้ำกักเก็บ 667.70 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 69.55% ของความจุ) น้ำไหลลงอ่าง 628.89 ลบ.ม./วินาที หรือ 54.33 ล้าน ลบ.ม./วัน เนื่องจากมีฝนตกที่ต้นน้ำในจ. เพชรบูรณ์ แล้วไหลลงสู่เขื่อน ดังนั้นจึงต้องเพิ่มระบายน้ำ 300.54 ลบ.ม./วินาที หรือ 25.96 ล้าน ลบ.ม./วัน จากนั้นวันพรุ่งนี้เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 350 ลบ.ม./วินาที เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย โดยการระบายดังกล่าว ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนจะยังอยู่ในลำน้ำไม่ล้นตลิ่ง […]

เพิ่มระบายน้ำเขื่อนป่าสัก เร่งแจ้งเตือนท้าย​น้ำ

ลพบุรี​ 17 ก.ย.​ – กรมชลประทานแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสักให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.30 – 1.50 เมตร หลังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทยอยเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์บริหาร​จัด​กา​รและความมั่น​คงปลอดภัยของเขื่อน​ เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โครงการ​ส่งน้ำและ​บำรุงรักษา​ป่าสักชลสิทธิ์​ออกประกาศ​แจ้ง​เตือน​เกี่ยวกับ​การปรับเพิ่ม​การ​ระบายน้ำเป็นขั้นบันได​จากวานนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำในอ่าง 605 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 63 ของความจุ รวมทั้งมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจากตอนบนถึง 599 ลบ.ม./วินาที หรือประมาณ 52 ล้าน ลบ.ม./วัน​ แม้ระดับน้ำยังไม่ถึงจุดวิกฤติ แต่เพื่อบริหารจัดการและควบคุมระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์จะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 200 ลบ.ม./วินาที โดยทยอยเพิ่มขึ้นวันละ 50 ลบ.ม./วินาที จนถึง 350 ลบ.ม./วินาที ภายใน 3 วัน ดังนี้ สำหรับ​สาเหตุ​ที่​ต้อง​ปรับเพิ่ม​การระบาย​เพราะ​มีฝนตก​บริเวณ​ต้นน้ำในจังหว​ัดเพชร​บูรณ์​มากขึ้น​ การระบาย​น้ำใน​อัตรา​ดังกล่าว​ จะทำ​ให้​ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักช่วงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น​ 1.30​- 1.50 เมตร​ แต่อยู่ในลำน้ำ ยังไม่ถึงจุดล้นตลิ่งแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือหากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง. -512-สำนักข่าว​ไทย​

เขื่อนเจ้าพระยาอาจปรับเพิ่มระบายน้ำ เร่งลดผลกระทบ

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-กรมชลประทาน อาจปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเกินกว่า 2,000 ลบ.ม./วินาที ตามที่กนช. เห็นชอบ เหตุน้ำเหนือหลากลงมาเพิ่มขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะขยับลงมาพาดผ่านภาคกลาง เตือนทั้งพื้นที่เหนือและท้ายเขื่อนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทานกล่าวว่า จากอิทธิพลของฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,250 ลบ.ม./วินาที ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) จึงมีมติเห็นชอบให้ กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,000–2,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 40–60 เซนติเมตร ทั้งนี้กรมชลประทานได้ใช้เขื่อนเจ้าพระยาหน่วงน้ำไว้ที่หน้าเขื่อนอยู่ที่ระดับ +17.18 เมตร รทก. ซึ่งหากระดับน้ำหน้าเขื่อนสูงกว่านี้ จะเริ่มส่งผลกระทบต่อชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้านเหนือเขื่อนในจังหวัดอุทัยธานีและชัยนาท ดังนั้นจึงให้สำนักงานชลประทานที่ 12 เพิ่มการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งจนเต็มศักยภาพของคลองแล้ว หากมีน้ำเหนือไหลลงมาเพิ่ม ประกอบกับมีฝนตกลงมาเสริมในปลายสัปดาห์ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ อาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นอีกเล็กน้อย สำหรับพื้นที่เสี่ยงด้านท้ายเขื่อนที่จะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำเพิ่ม ได้แก่ •จ.ชัยนาท: ต.โพนางดำออก และบ้านท่าทราย อ.สรรพยา•จ.สิงห์บุรี: วัดสิงห์ […]

“กรวีร์” จี้ถามงบกรมชลฯ วางแผนแก้น้ำท่วม-น้ำแล้งยั่งยืนหรือไม่

รัฐสภา 14 ส.ค.- “กรวีร์” จี้ถามงบกรมชลประทาน 4 หมื่นล้าน วางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งยั่งยืนด้วยหรือไม่ กังขา งบกรมการข้าว ส่วนใหญ่เป็นงบครุภัณฑ์-สิ่งปลูกสร้าง เหลือพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวช่วยเกษตรกรไม่กี่ร้อยล้าน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายมาตรา 14 งบประมาณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงิน 6.29 หมื่นล้านบาท ในส่วนของกรมการข้าว วงเงิน 3.8 พันล้านบาท เงินก้อนใหญ่อยู่ที่แผนยุทธศาสตร์การเกษตรสร้างมูลค่า 3.3 พันล้านบาท เป็นโครงการพัฒนาพันธุ์ข้าว เกือบ 2 พันล้านบาท และโครงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว เกือบ 1.7 พันล้านบาท ตนจะไม่แปลกใจถ้าเป้าหมายเพื่อช่วยเกษตรกรในการลดทุน แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดของงบประมาณ พบว่าส่วนใหญ่เป็นงบครุภัณฑ์ที่ดินสิ่งปลูกสร้าง เหลือเนื้องานจริงๆ ที่จะทำเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่กีร้อยล้านบาท ตนอยากเห็นเงินส่วนนี้ลงไปถึงชาวนาเต็มเม็ดเต็มหน่วย เกิดการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรได้มากกว่านี้ นอกจากนี้ งบประมาณส่วนของกรมชลประทาน […]

ครบรอบ 123 ปีกรมชลประทาน “นฤมล” ย้ำบริหารจัดการน้ำต้องมั่นคง–ทั่วถึงทุกพื้นที่

กรุงเทพฯ​ 13​ มิ.ย. – “นฤมล​” รมว.เกษตรฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทานครบรอบ 123 ปี ภายใต้แนวคิด “123 ปี พลังน้ำ พลังอนาคต (Power of Water – Power Driven Future)” โดยเน้นย้ำบทบาทสำคัญของกรมชลประทานในการบริหารจัดการน้ำอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทานครบรอบ 123 ปี​ โดยมีนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมผู้บริหารในสังกัดร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า กรมชลประทานมีภารกิจสำคัญในการสืบสานพระราชปณิธานด้านการบริหารจัดการน้ำ โดยมุ่งขยายโอกาสในการเข้าถึงน้ำทุกภูมิภาค เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม พร้อมกับการป้องกันความเสียหายจากน้ำในทุกมิติ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กรมชลประทานดำเนินการตามนโยบาย “RID UNITED” ภายใต้แนวคิด “ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน” โดยมีเป้าหมายสู่การเป็น “องค์กรอัจฉริยะ” ภายในปี 2580 บนพื้นฐานของการบูรณาการกับทุกภาคส่วน การใช้เทคโนโลยี และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สำหรับการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/68 […]

ปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เหตุฝนลด–น้ำเหนือชะลอไหล

ชัยนาท 4 มิ.ย. – กรมชลประทานปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำที่มีแนวโน้มลดลง จากปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ ที่ลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อบรรเทาผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทานระบุว่า สืบเนื่องจากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นเขื่อนหลักต้นน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้ชะลอการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยปรับลดเหลือวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปริมาณฝนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเริ่มลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 ที่ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 1,196 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานจึงได้ปรับแผนการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันนี้ (4 มิ.ย.) เป็นต้นไป จะปรับลดอัตราการระบายน้ำจากเดิมประมาณ 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ภายในช่วงเวลา 18.00 น. ของวันเดียวกัน การปรับลดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาระดับน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริงในพื้นที่ตอนบน ลดความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดกับพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณท้ายเขื่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยและเกษตรกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี […]

กรมชลฯ ปรับการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาอีกครั้ง เหตุน้ำเหนือเพิ่มขึ้น

กรุงเทพฯ 30 พ.ค.-กรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือน 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา หลังน้ำจากพื้นที่ตอนบนและลำน้ำสาขาไหลหลากสมทบ ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนอาจเพิ่มขึ้นอีก 0.50–1.30 เมตร โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ กรมชลประทานได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำในระยะนี้ เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มต้องปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำ เพื่อรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบนที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) คาดการณ์ว่าในช่วง 1–3 วันข้างหน้า ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะอยู่ที่ 1,300 – 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยในวันนี้ (30 พ.ค.) วัดได้ 1,381 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ที่ 1,332 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะมีน้ำจากลำน้ำสาขาไหลสมทบอีกประมาณ 200–250 […]

เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ 1,000 ลบ.ม./วินาที แล้ว

ชัยนาท 29 พ.ค. – วันนี้​กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เป็น 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรองรับปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากฝนตกต่อเนื่อง เตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงอีก 0.6–1.7 เมตร กรมชลประทาน รายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านได้ 1,332 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะไหลมาสมทบกับแม่น้ำสะแกกรัง ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายังคงสูง ขณะเดียวกัน ได้ผันน้ำบางส่วนเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 442 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม การระบายน้ำในระดับดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ ทั้งนี้ ​คาดว่า ระดับน้ำในจุดเสี่ยงเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.6–1.7 เมตร แม้ยังไม่กระทบพื้นที่ชุมชนโดยตรง แต่กรมชลประทานขอให้ประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่ 11 […]

เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา รองรับน้ำเหนือ

กรุงเทพฯ 28 พ.ค. – กรมชลประทานเตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ภายใน 2 วันนี้ เพื่อรองรับปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากฝนตกหนัก คาดระดับน้ำท้ายเขื่อนส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำใน จ.อยุธยา และอ่างทอง มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 0.6–1.7 เมตร แม้ยังไม่กระทบชุมชน แต่ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด กรมชลประทาน ระบุว่า จากปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้น้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 1,000–1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้มีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตราปัจจุบันที่ 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ข้อมูลเวลา 07.00 น. วันที่ 28 พ.ค. 68) ไปอยู่ในระดับไม่เกิน 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที การระบายน้ำในระดับดังกล่าวจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง, คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา, ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด และ ต.ท่าดินแดง […]

1 2 3 50
...